เรื่องเล่าจากเด็กหญิงคนหนึ่งในภาคเหนือต่อการถูกคุกคามทางดิจิทัล

Date:

อ่าน “นอนอยู่บ้านเฉยๆ แล้วคอยมานั่งแคปโพสต์คนอื่นไปแจ้งความ” สำรวจการคุกคามทางดิจิทัลในภาคเหนือ : เมื่อการคุกคามทางออนไลน์คืบคลานเข้าสู่ชีวิตจริง

และ การคุกคามทางดิจิทัลในภาคเหนือ : เมื่อการคุกคามทางออนไลน์คืบคลานเข้าสู่ชีวิตจริง

เรื่องราวของ ‘เชอร์รี่’ (นามสมมติ) ปัจจุบันอายุ 18 ปี เธอเคยถูกแจ้งความในคดี 112 เหตุจากการโพสต์ข้อความใน Facebook โดยเธอถูกแจ้งความดำเนินคดีตั้งแต่เธออายุเพียง 14 ปี ผู้ที่แจ้งจับเธอคือ แน่งน้อย อัศวกิตติกร พร้อมกับพวก ช่วงเวลานั้นเชอร์รี่ เป็นนักเรียนที่ออกมาเคลื่อนไหวในประเด็นการเมืองและความเป็นธรรมในโรงเรียน จนเธอเริ่มเป็นที่รู้จักในจังหวัดพิษณุโลก  ทำให้เธอถูกจับจ้องจากแน่งน้อยและพวก

เธอเริ่มถูกคุกคามทางออนไลน์หลังเธอโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์การฟ้องคดี 112 อย่างมั่วซั่ว และมีเพื่อนที่รู้จักมาแสดงความคิดเห็นพร้อมเอ่ยชื่อ “แน่งน้อย” ใต้โพสต์ของเธอ เหตุที่เธอโพสต์ข้อความแบบสาธารณะ แน่งน้อยจึงสามารถเห็นข้อความดังกล่าวและเริ่มส่งข้อความมาคุกคามเธอ หลังจากนั้นบรรดาผู้ติดตามแน่งน้อยและผู้ใหญ่ในจังหวัดพิษณุโลกก็เริ่มส่งข้อความมาด่าว่าเธอมากขึ้นเรื่อยๆ 

“น่าจะมีคนแชร์ไปเรื่อยๆ ว่าเด็กคนนี้เป็นใคร เพื่อนพ่อแม่ทักมาด่าหนูในแชทเยอะมาก ถามว่าพ่อแม่เธอไม่สั่งสอนเหรอ”

หลายโพสต์ของเธอก็ถูกแคปเอาไปส่งต่อ ทำให้ผู้ใหญ่หลายคนมองเธอในแง่ร้ายมากยิ่งขึ้น ครูที่โรงเรียนเริ่มต่อว่าเธอต่อหน้าเพื่อนในห้อง โดยเอาข้อความต่างๆ ที่เธอโพสต์มาวิพากษ์วิจารณ์กลางห้องเรียน ทำให้เธอเริ่มคิดที่จะย้ายออกจากจังหวัดพิษณุโลก

เหตุการณ์ที่เป็นจุดแตกหักทำให้เธอตัดสินใจออกจากจังหวัดพิษณุโลก คือ เมื่อครั้งที่เธอป่วยจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หมอที่ทำการรักษาเธอรู้ว่าเธอไปใครเนื่องจากเคยเห็นโพสต์ของเธอที่ถูกส่งต่อมา หมอจึงเริ่มพูดวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของเธอ 

“หมอเคยเห็นโพสต์หนู ทำไมหนูไม่รักพ่อหลวง”

เป็นคำที่เธอจดจำได้ขึ้นใจ เหตุการณ์นี้เองเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เลือกตัดสินใจย้ายออกจากพิษณุโลกอย่างถาวร 

ก่อนจะย้ายออกจากพิษณุโลก เธอกลับได้รับหมายเรียกจากตำรวจในคดี 112 ที่เธอถูกแน่งน้อยและพวกเข้าแจ้งความ โดยยื่นหลักฐานเป็นรูปข้อความต่างๆ ที่เธอเคยโพสต์ไว้ ในวันที่เธอต้องให้การกับตำรวจ เธอถูกขอให้มอบโทรศัพท์มือถือพร้อมทำการปลดล็อคให้กับพนักงานสอบสวน หลังจากวันนั้นเธอมีความรู้สึกว่าถูกติดตามจากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงทุกการเคลื่อนไหว ตำรวจที่ติดตามเธออยู่เริ่มแสดงพฤติกรรมให้เธอรับรู้ว่าเขากำลังสะกดรอยเธอในโลกออนไลน์อยู่

“ตอนนั้นโดนตำรวจสะกดรอยตามโซเชียลตลอด รู้สึกได้เลย ตำรวจน่าจะเอารหัสไปตอนที่หนูให้โทรศัพท์ไป”

หลังจากนั้นเธอจึงลบตัวตนทางดิจิทัลทุกช่องทาง พร้อมกับเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะพลเมืองของกรุงเทพฯ เพียงเวลาไม่ถึง 2 ปีหลังจากย้ายออกจากพิษณุโลกและทิ้งตัวทางดิจิทัลเก่าไว้เบื้องหลัง โพสต์เก่าๆ ที่เธอเคยถูกแจ้งความไว้ก็ถูกนำกลับมาปัดฝุ่นตั้งข้อกล่าวหาอีกครั้ง

เธอจึงต้องกลับไปพิษณุโลกอีกครั้งหลังจากย้ายออกมาด้วยความทรงจำอันแสนเจ็บปวด เพื่อมาดำเนินการตามขั้นตอนการเป็นจำเลยในคดีความมั่นคง คดีที่ถูกฟ้องจากข้อความที่เธอเคยโพสต์สมัยที่ยังเป็นผู้เยาว์วัยเพียง 14 ปี

วันที่เธอไปรายงานตัวกับตำรวจ แม่เธอถามหาโจทก์ที่ฟ้องคดีลูกสาวเธอ แต่ปรากฏว่าไม่มีฝ่ายโจทก์มาเลยสักคนเดียว แม่เธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงขับแค้นใจว่า

“แบบนี้ก็ได้หรอ นอนอยู่บ้านเฉยๆ แล้วคอยมานั่งแคปโพสต์คนอื่นไปแจ้ง”

 แม้ในใจเธอจะพูดกับตัวเองว่า “เธอไม่ได้ทำไรผิด ทำไมต้องมาโดนอะไรแบบนี้” แต่เธอก็ยอมรับว่าถ้าเลือกย้อนเวลากลับไปได้เธอคงเลือกที่จะไม่โพสต์ข้อความเหล่านั้น

“ตอนนั้นหนูเป็นเด็ก ทำอะไรก็ไม่ค่อยได้คิดหรอก ให้อารมณ์พาไป แต่ตอนนี้ก็โตแล้ว ย้อนกลับไปคงไม่ทำแบบตอนนั้น”

นี่คือคำพูดของเธอเมื่อต้องย้อนนึกไปถึงตัวเองในวัยเยาว์

การคุกคามในโลกดิจิทัลที่คืบคลานเข้าสู่ชีวิตจริง

เชอร์รี่ เด็กสาววัย 18 ปี ที่ครั้งหนึ่งเธอเคยมีความฝันอยากเปลี่ยนแปลงสังคมไทยให้ดีขึ้น เธอจึงลุกขึ้นมาทำกิจกรรมทางการเมืองตั้งแต่เธอยังเป็นเยาวชนวัยเพียง 14 ปี แต่แล้วเธอกลับต้องเผชิญการคุกคามทางดิจิทัล เริ่มต้นจากการถูกคุกคามผ่านการส่งข้อความมาต่อว่าเธอใน Facebook ก่อนจะขยับระดับความรุนแรงไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีเธอในฐานะผู้ร้ายความมั่นคง โดยอาศัยโพสต์ Facebook ของเธอเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ซ้ำร้ายหลังเธอเข้ามอบตัวตามขั้นตอนของกฎหมาย เธอกลับถูกเจ้าหน้าที่ลวงให้ปลดล็อคโทรศัพท์เพื่อสอดส่องและคุกคาม กลายเป็นวัฏจักรการคุกคามที่วนซ้ำไปมาระหว่างการคุกคามในทางดิจิทัลและการคุกคามในชีวิตจริง 

ไม่ใช่เพียงแค่น้องเชอร์รี่ที่ต้องตกอยู่ในวัฏจักรการคุกคามทางดิจิทัลและการคุกคามในชีวิตจริง นักกิจกรรมหลายคนในภาคเหนือก็ต้องเผชิญกับวัฏจักรนี้ โดยจากจำนวนนักกิจกรรมภาคเหนือจำนวน 20 คน พบว่ามี 7 คน หรือกว่าร้อยละ 35  เคยมีประสบการณ์ที่เจ้าหน้ารัฐแสดงตัวเพื่อคุกคามพวกเขาผ่านช่องทางดิจิทัลโดยตรง โดยเจ้าหน้าที่รัฐเหล่านี้อาศัยอำนาจทางกฎหมายในโลกแห่งความเป็นจริง เพื่อเป็นอาวุธในการคุกคามทางดิจิทัลต่อบรรดานักกิจกรรมในภาคเหนือ

กล่าวคือ การคุกคามทางดิจิทัลโดยเจ้าหน้าที่รัฐมุ่งเน้นการควบคุมพฤติกรรมของนักกิจกรรมทั้งในโลกดิจิทัลและโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ต่างจากการคุกคามประชาชนที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหลังการรัฐประหาร เพียงแต่การคุกคามเริ่มต้นจากพื้นที่ดิจิทัลก่อนขยับเข้าสู่การคุกคามในทางกายภาพต่อไป

คำพูดของแม่น้องเชอร์รี่ที่กล่าวว่า “นอนอยู่บ้านเฉย ๆ แล้วคอยมานั่งแคปโพสต์คนอื่นไปแจ้งความ” เป็นภาพสะท้อนสถานการณ์การคุกคามทางดิจิทัลในภาคเหนือเป็นอย่างดี เพราะการคุกคามทางดิจิทัลได้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของลูกสาวเธอในโลกแห่งความเป็นจริง

ขณะเดียวกัน การคุกคามทางดิจิทัลก็มิได้เกิดจากฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น แต่ยังมีการคุกคามทางดิจิทัลโดยประชาชนที่มีความคิดเห็นหรือจุดยืนทางการเมืองแตกต่างกับนักกิจกรรมเหล่านี้ ทั้งการคอมเมนต์ด้วยคำหยาบคาย การส่งข้อความมาต่อว่า กระทั่งนำไปสู่การคุกคามนักกิจกรรมเหล่านี้ในโลกแห่งความเป็นจริง

ดังนั้น สิทธิดิจิทัลจึงเป็นสิ่งที่ควรพูดถึงในวงกว้างมากกว่านี้ เพื่อเป็นเกราะป้องกันจากการคุกคามทางออนไลน์ที่มักส่งผลต่อชีวิตจริงเสมอ

สัมภาษณ์เชอรี่ (นามสมมติ). วันที่ 14 มกราคม 2568.

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ปมดับปริศนา ‘พลทหารราเชน ยวามื่อ’ ในค่ายพิษณุโลก คนใกล้ชิดตั้งข้อสงสัย หลังเกิดเหตุไฟดับ–กล้องเสีย

11 พฤศจิกายน 2568 มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (Cross-Cultural Foundation) เปิดเผยว่าได้รับแจ้งเหตุจากเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ภาคเหนือ กรณี พลทหารราเชน...

กลุ่มรักษ์เชียงของยื่นฟ้องนายกฯ–กฟผ. ปมเขื่อนปากแบง หวั่นแม่น้ำโขงกลายเป็น ‘อ่างตะกอนพิษ’

12 พฤศจิกายน 2568 กลุ่มรักษ์เชียงของ พร้อมประชาชน นักวิชาการ และทนายความจากมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ ฟ้องนายกรัฐมนตรี...

ทหารเกณฑ์ดับในค่ายพิษณุโลก มูลนิธิผสานวัฒนธรรมจี้สอบเหตุละเมิดสิทธิ

11 พฤศจิกายน 2568 มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุจากเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ภาคเหนือ กรณี พลทหารเกณฑ์รายหนึ่งเสียชีวิตภายในค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก หลังเข้ารับการฝึกเพียงไม่ถึง 10...

เครือข่าย กก สาย รวก โขง ยื่น 5 ข้อ แก้ปัญหาน้ำปนสารพิษ ด้านรัฐบาลยืนยันยุติโครงการฝาย

ภาพ: สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต 11 พฤศจิกายน 2568 ที่หอประชุมคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กรมทรัพยากรน้ำจัดเวทีประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อทบทวนและกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในพื้นที่แม่น้ำกกและแม่น้ำสาย  การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 300...