พรรคการเมืองถกทิศทางกระจายอำนาจ ‘ณัฐพงษ์-ดนุพร’ ย้ำ เพิ่มอำนาจท้องถิ่นเพิ่มประสิทธิภาพการบริหาร

Date:

เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2568 เวลา 12:30 – 16:30 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 3 อาคาร 50. ปีรัฐศาสตร์ฯ โดย คณะรัฐศาสตร์และรัฐศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ Friedrich Naumann Foundation กับ Locals Thai PBS และ สถานบันพระปกเกล้า ร่วมจัด “เวที The Voice เลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ 2568” เพื่อนำเสนอทิศทางการกระจายอำนาจและข้อเสนอนโยบายเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้จังหวัดเชียงใหม่จากพรรคการเมือง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่และผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่

ช่วงมองพรรคมองเชียงใหม่จะเอาจะใดกับทิศทางกระจายอำนาจ

ภาพ: Pol-Sci Photo Club CMU

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวบนเวทีว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบจ.) โดยเฉพาะการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ให้มีงบประมาณ อำนาจ และบุคลากรที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เขายังกล่าวถึงความพยายามของชาวเชียงใหม่ในการผลักดัน พ.ร.บ. เชียงใหม่มหานคร เพื่อเสริมสร้างอำนาจในการบริหารงานของท้องถิ่น ซึ่งยังมีปัญหาหลายด้านที่ต้องได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาความเหลื่อมล้ำที่เชียงใหม่ติดอันดับ 3 ของประเทศ และความเสี่ยงจากภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เช่น น้ำท่วม 

นอกจากนี้ยังเน้นถึงปัญหาคุณภาพชีวิตของประชาชนในเชียงใหม่ ที่ติดอันดับ 67 ในด้านสุขภาพและการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ เขาจึงย้ำว่า การเมืองท้องถิ่นต้องเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยมุ่งเน้นใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม (เช่น ปัญหาฝุ่น PM 2.5) และการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น เพื่อให้ชาวเชียงใหม่มีอำนาจในการบริหารงบประมาณและนโยบายต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

หัวหน้าพรรคประชาชนได้ตั้งคำถามถึงนโยบาย “ผู้ว่า CEO” ว่าจะตอบโจทย์การกระจายอำนาจจริงหรือไม่ โดยยกประเด็นอำนาจทับซ้อนระหว่างผู้ว่าราชการที่แต่งตั้งจากกรุงเทพฯ กับนายกอบจ. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน เขาตั้งคำถามว่า ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากส่วนกลางหรือผู้ที่มาจากการเลือกตั้งจะสามารถเข้าใจและแก้ไขปัญหาของชาวเชียงใหม่ได้ดีกว่ากัน การตั้งคำถามนี้เป็นการเรียกร้องให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีความชัดเจนและจริงใจในการบริหาร โดยเฉพาะในการรวมอำนาจการบริหารไว้ที่นายกอบจ. เพื่อให้การบริการสาธารณะและการจัดการต่าง ๆ ใกล้ชิดกับประชาชนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เขายังยกปัญหาน้ำประปาสะอาดที่ขาดแคลนในหลายพื้นที่ และการขาดแคลนบริการน้ำประปาที่มีความแรงเพียงพอตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน 

“ปัญหาการขนส่งสาธารณะในเชียงใหม่และเสนอให้ อบจ. มีอำนาจในการจัดการเดินสายรถเมล์เอง ซึ่งพรรคประชาชนเคยเสนอการผลักดันกฎหมายเพื่อกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น สามารถจัดการปัญหาชีวิตของประชาชนได้ โดยเชื่อว่า การมีศูนย์ทันตกรรม ศูนย์กายภาพ และศูนย์ฟอกไตทั่วถึงในทุกอนามัยจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ นายกหรือผู้บริหารสูงสุดของจังหวัดต้องมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่ผู้ว่า CEO”

ดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความสำคัญของเชียงใหม่ในฐานะจังหวัดที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในภาคเหนือของประเทศไทย โดยมีพื้นที่ 25 อำเภอ ครอบคลุมกว่า 22,440 ตารางกิโลเมตร และประชากรเกือบ 4 ล้านคน นอกจากจะเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ เชียงใหม่ยังมีบทบาทสำคัญในการส่งออกสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของภาครัฐ แม้การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวและการส่งออก แต่เชียงใหม่ยังคงมีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศหลายหมื่นล้านบาท ดนุพรยังเน้นถึงความสำคัญของการกระจายอำนาจที่ระบุในรัฐธรรมนูญปี 2500 โดยมาตรา 78 ซึ่งระบุให้ภาครัฐกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่น เพื่อให้ท้องถิ่นสามารถดูแลตัวเองได้

การกระจายอำนาจถูกบรรจุในรัฐธรรมนูญปี 2540 และถึงแม้จะผ่านมาแล้วกว่า 28 ปี ประเทศไทยยังคงประสบปัญหาในการกระจายอำนาจ เนื่องจากการปกครองของประเทศยังไม่ได้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง ในหลายยุคหลายสมัย การปกครองของประเทศมักจะเปลี่ยนแปลงจากการปกครองแบบคณะปฏิวัติ ซึ่งจำกัดสิทธิ์ของประชาชนในการตัดสินใจและมีส่วนร่วมในการบริหารประเทศ ทำให้การกระจายอำนาจถูกบั่นทอนในบางช่วงเวลา อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ทำการเมืองมาอย่างยาวนานยังคงยืนหยัดในแนวคิดการกระจายอำนาจ ซึ่งมีความสำคัญในระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ที่ถือเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือการเลือกตั้งท้องถิ่นจึงมีความสำคัญ เพราะช่วยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ซึ่งทำให้การกระจายอำนาจมีความสำคัญในการส่งเสริมการบริหารจัดการ

“การกระจายอำนาจนี้แบ่งออกเป็นหลายด้าน เช่น การกระจายทรัพยากรและการกระจายงบประมาณที่ต้องนำไปใช้ในท้องถิ่น ซึ่งเคยถูกบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญว่าต้องมีเปอร์เซ็นต์ที่กำหนดให้ลงมาที่ท้องถิ่น แต่การกระทำจริงนั้นอาจต้องใช้เวลาและความพยายามในการสร้างพื้นฐานความพร้อมให้กับแต่ละจังหวัด การที่รัฐบาลกลางจะดำเนินการกระจายอำนาจให้สำเร็จได้ต้องมีการเตรียมความพร้อมในหลายด้าน ทั้งในด้านโครงสร้างและระบบต่าง ๆ เพื่อให้การกระจายอำนาจนั้นเกิดผลอย่างแท้จริง พรรคเพื่อไทยได้ให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจมาตั้งแต่ปี 2544 และยังคงยึดมั่นในจุดยืนนี้แม้จะมีเหตุการณ์ปฏิวัติหลายครั้งที่ทำให้การกระจายอำนาจสะดุดลง แต่พรรคยังคงเชื่อมั่นว่าอำนาจที่แท้จริงอยู่ที่ประชาชน และทุกพรรคการเมืองต้องตอบสนองความต้องการของประชาชนให้ได้”

มองพรรคมองเชียงใหม่จะรู้จะใดกับทิศทางการกระจายอำนาจ

ภาพ: Pol-Sci Photo Club CMU

‘ดนุพร’ กล่าวถึงการกระจายอำนาจที่เริ่มต้นในสมัยพรรคไทยรักไทย และต่อเนื่องมาในพรรคเพื่อไทย โดยเน้นการกระจายอำนาจที่แท้จริงในระดับท้องถิ่น ผ่านนโยบายสำคัญ เช่น นโยบายกองทุนหมู่บ้านและ SML ซึ่งใช้แนวทางการจัดสรรงบประมาณให้ประชาชนในพื้นที่บริหารจัดการเอง เพื่อตอบสนองความต้องการพัฒนาท้องถิ่น แทนการกระจายงบประมาณจากส่วนกลางที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ นโยบายกองทุนหมู่บ้านเริ่มต้นด้วยการให้หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท และคาดว่าจะพัฒนาเป็นธนาคารหมู่บ้านในอนาคต ส่วน SML คือการจัดสรรเงินทุนตามขนาดของหมู่บ้าน โดยแบ่งเป็น S (เล็ก), M (กลาง), และ L (ใหญ่) เพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนครัวเรือนในแต่ละพื้นที่

รัฐบาลได้โยนงบประมาณให้กับหมู่บ้านในขนาดต่างๆ เช่น 200,000 บาท, 300,000 บาท, และ 500,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของหมู่บ้าน โดยเมื่อได้รับงบประมาณแล้ว พี่น้องประชาชนในหมู่บ้านจะจัดทำประชาคมเพื่อหารือเกี่ยวกับการใช้เงินเหล่านี้ในการพัฒนาท้องถิ่น ตัวอย่างเช่น หมู่บ้านขนาดใหญ่ที่มีปัญหาการโจรกรรมอาจเลือกใช้เงินสร้างระบบกล้องวงจรปิด หรือหมู่บ้านอื่นอาจเลือกสร้างที่เก็บน้ำประปาหรือใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการติดตั้งไฟฟ้า และจัดหาน้ำดื่มสะอาดสำหรับชุมชน การกระจายอำนาจเหล่านี้เป็นการทดลองเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจและพัฒนาท้องถิ่น

ในปัจจุบัน รัฐบาลมีแผนจะฟื้นนโยบาย SML ขึ้นใหม่ โดยใช้งบประมาณประมาณ 11,000 ล้านบาท ครอบคลุมหมู่บ้านกว่า 80,000 แห่ง เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและพัฒนาพื้นที่ของตนเอง ผ่านประชาคมในหมู่บ้าน ตัวอย่างเช่น การจัดการกองทุนหมู่บ้านและการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ เช่น การระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อระบบสุขภาพในชุมชน

“ขอย้ำอีกครั้งว่าการกระจายอำนาจเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนทุกคนควรให้ความสนใจ การเมืองไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของเรา รวมถึงอนาคตของลูกหลานเราอย่างแท้จริง ดังนั้น ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เรามุ่งมั่นที่จะผลักดันการกระจายอำนาจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าไม่ว่าพี่น้องประชาชนจะสนับสนุนพรรคใด ก็ขอให้ร่วมกันสนับสนุนนโยบายการกระจายอำนาจนี้ต่อไป”

 ‘ณัฐพงษ์’ กล่าวถึงการกระจายอำนาจว่าพรรคเพื่อไทยสามารถเริ่มดำเนินการในหลายประเด็นสำคัญได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ประชาชนพร้อมหรือรอการแก้ไขกฎหมายในระยะยาว ตัวอย่างที่ยกมาเกี่ยวกับการผลักดันกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติ โดยเฉพาะเรื่องการกระจายอำนาจที่สามารถร่วมมือกันในสภาฯ ได้ทันที เขายกตัวอย่างประเด็นสำคัญเรื่องสัดส่วนรายได้ของท้องถิ่นต่อรัฐบาลกลาง ที่พรรคเพื่อไทยเคยระบุในนโยบายเลือกตั้งปี 2566 ว่าต้องการผลักดันให้สัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 35% โดยเร็วที่สุดคำถามคือ โดยเร็วที่สุดนั้นหมายถึงเมื่อไหร่? กี่โมง? 

“เราทราบดีว่าการผลักดันการกระจายอำนาจเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยรัฐธรรมนูญ 40 โดยมีการกำหนดตาม พ.ร.บ. แผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจในปี 42 ซึ่งตอนนั้นได้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 35% แต่เมื่อเกิดการรัฐประหารในปี 49 ก็มีการแก้ไขกฎหมายให้ลดเหลือแค่ 25% แต่ก็ยังตั้งเป้าหมายที่ 35% อยู่ จนถึงวันนี้ เราไม่เคยถึง 35% ตอนนี้โดยประมาณอยู่ที่ 29-30% เท่านั้น ดังนั้น หากเราต้องการผลักดันการกระจายอำนาจอย่างจริงจังและอยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนก็สามารถเสนอได้เลย เราพร้อมที่จะให้พรรคประชาชนเสนอหรือพรรคเพื่อไทยเองก็สามารถเสนอ พ.ร.บ. แผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจใหม่ ให้มีเป้าหมายที่ 35% อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม เราต้องการผลักดันให้ถึง 35% ภายในสมัยนี้ให้ได้ ผมเชื่อว่าเราสามารถร่วมมือกันสนับสนุนเรื่องนี้ได้”

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

มาตรการลงทะเบียนซิมด้วย Liveness Detection ถูกตั้งคำถาม กระทบคนไร้สัญชาติ–แรงงานข้ามชาติ ‘ตี่ตาง’ ชี้จำกัดสิทธิสื่อสาร แก้ปัญหาไม่ตรงจุด

จากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ เเละกิจการโทรคมนาคมเเห่งชาติ (กสทช.) ประกาศใช้เทคโนโลยี Liveness Detection เมื่อวันที่...

พ่อหมอกฤตไท ร้องหยุดดองร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ด้านสภาลมหายใจ เเถลงไม่ควรเอื้อนายทุน

หลังจากเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดฯ ในวาระสามด้วยคะแนนเห็นด้วย 309 เสียง...

ให้คะแนนรัฐบาลอนุทิน ‘สอบตกยกแผง’ แก้ปัญหาน้ำกก–สายรวก–โขงปนเปื้อนโลหะหนัก จากเหมืองแร่ในรัฐฉาน

สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประเมินการทำงานของรัฐบาลไทยในการรับมือปัญหามลพิษข้ามพรมแดนจากเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ระบุว่า ‘สอบตกยกแผง’ พร้อมแจกแจงการประเมินเป็นรายบุคคลต่อผู้นำฝ่ายบริหารสามตำแหน่ง นายกฯ...

Lanner Joy: LOLA Gallery DRIP แรงบันดาลใจจากความฝันเล็กๆ สู่รากกาแฟห้วยตองก๊อที่เติบโตอย่างแข็งแรง

เรื่องและภาพ: สุทธิกานต์ วงศ์ไชย ยามบ่ายต้นเดือนพฤศจิกายนที่ลานกว้างของโครงการจริงใจมาร์เก็ต เชียงใหม่ เสียงแจ๊สลอยแผ่วเบาเคล้ากลิ่นกาแฟที่เพิ่งบดใหม่ เทศกาล Jazz Arabica กลับมาอีกครั้งในปี...