เมียนมาพบพื้นที่ปลูกฝิ่นสูงสุดในรอบ 10 ปี ท่ามกลางความไม่มั่นคงยืดเยื้อ

Date:

3 ธันวาคม 2025 พื้นที่ปลูกฝิ่นในเมียนมาเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสิบปี ตามรายงานล่าสุดของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ซึ่งระบุถึงแนวโน้มการขยายตัวของพืชเสพติดในช่วงที่ประเทศยังเผชิญความขัดแย้งและเศรษฐกิจที่ถดถอยอย่างต่อเนื่อง

รายงาน ‘การสำรวจฝิ่นเมียนมา 2025’ ชี้ว่า พื้นที่ปลูกฝิ่นเพิ่มขึ้น 17% ภายในหนึ่งปี จาก 45,200 เป็น 53,100 เฮกตาร์ โดยการขยายตัวเกิดขึ้นในทุกภูมิภาคของประเทศ สะท้อนให้เห็นบทบาทที่เติบโตขึ้นของเมียนมาในฐานะแหล่งผลิตฝิ่นผิดกฎหมายรายใหญ่ของโลก หลังปริมาณการเพาะปลูกในอัฟกานิสถานลดลงในช่วงหลัง

เดลฟีน ชานซ์ ผู้แทน UNODC ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า “เมียนมากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ และการเพิ่มขึ้นของพื้นที่เพาะปลูกบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจฝิ่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา”

การขยายตัวในรัฐฉานยังครองสัดส่วนสูงสุด

ข้อมูลชี้ว่าการเพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ใน รัฐฉานตะวันออก 32%, รัฐชีน 26%, ขณะที่ รัฐกะฉิ่นเพิ่มขึ้น 3% โดยที่รัฐฉานใต้ยังคงเป็นพื้นที่ปลูกสำคัญของประเทศ คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของพื้นที่ปลูกทั้งหมด

ปีนี้เป็นครั้งแรกที่มีการบันทึกพื้นที่ปลูกใน ภาคซะไกง์ รวม 552 เฮกตาร์ ซึ่งเมื่อพิจารณาร่วมกับพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นในรัฐชีน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของพื้นที่ชายแดนด้านตะวันตกต่อสถานการณ์ฝิ่นในภูมิภาค

ราคาฝิ่นที่สูงขึ้นเป็นแรงผลักสำคัญ

UNODC ระบุว่า การขยายตัวของการปลูกฝิ่นสัมพันธ์กับราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากราคาเฉลี่ย 145 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัมในปี 2019 พุ่งขึ้นเป็น 329 ดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ท่ามกลางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และตัวเลือกในการทำมาหากินที่ลดน้อยลงของเกษตรกร

แนวโน้มดังกล่าวอาจยืดเยื้อ เนื่องจากปริมาณฝิ่นสำรองจากอัฟกานิสถานเริ่มลดลง ซึ่ง UNODC เตือนว่าอาจสร้างช่องว่างครั้งใหญ่ในตลาดเฮโรอีนโลก

ผลผลิตต่อพื้นที่ไม่เพิ่ม แม้พื้นที่ปลูกขยายตัว

แม้พื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณผลผลิตต่อเฮกตาร์กลับไม่สูงขึ้น เนื่องจากเกษตรกรประสบปัญหาเข้าถึงปัจจัยการผลิต และดูแลแปลงปลูกได้ยากขึ้นในพื้นที่ที่มีการสู้รบ โดยเฉพาะในรัฐฉานเหนือและรัฐกะฉิ่น ซึ่งยังคงมีเหตุปะทะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

อย่างไรก็ตาม ปริมาณผลผลิตรวมยังอยู่ในระดับสูงสุดในประวัติการณ์

UNODC ชี้วิกฤตนี้อาจลุกลาม หากไม่สร้างทางเลือกให้เกษตรกร

รายงานยังพบการยึดเฮโรอีนจากผู้โดยสารที่เดินทางจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปยุโรปหลายครั้งในปีที่ผ่านมา แม้จะเป็นกรณีรายบุคคล แต่ UNODC ระบุว่าเป็นสัญญาณของความพยายามรื้อฟื้นเครือข่ายการค้ายาจากสามเหลี่ยมทองคำเข้าสู่ตลาดโลกอีกครั้ง

ชานซ์กล่าวว่า ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรง และราคาฝิ่นที่สูงขึ้น ทำให้เกษตรกรจำนวนมากหันไปปลูกฝิ่นเพื่อความอยู่รอด 

“หากไม่มีทางเลือกทำกินที่ยั่งยืน วงจรการพึ่งพาพืชเสพติดจะลึกขึ้น และอาจส่งผลต่อเส้นทางยาเสพติดในภูมิภาคและยุโรปในระยะยาว”

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ล้านนาเนี่ยน: ‘ผู้ประกอบการกาดหลวง’ ถึง ‘ผู้ประกอบการหาดใหญ่’ ในวันฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังน้ำท่วมรุนแรง

“ถ้ารัฐช่วยได้ อยากจะให้ช่วยคนที่หาดใหญ่เยอะๆ หน่อย เพราะเขาเหมือนกับคนสิ้นไร้ไม้ตอกเลย เหลือแต่ตัวอย่างเดียว ทรัพย์สินอะไรก็เสียหายหมด เริ่มจาก 0 ใหม่...

แม่น้ำสาละวินปนเปื้อนสารโลหะหนัก ชาวบ้านเสี่ยงสารพิษ-ขาดน้ำสะอาด รัฐทำอะไรบ้าง?

28 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 แถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำสาละวิน ระบุว่าน้ำดิบที่ชาวบ้านใช้อยู่เกินมาตรฐานทุกจุด โดยวัดระดับสารหนูได้ 0.023–0.029...

ศาลเชียงรายนัดไต่สวน 2 ตัวแทนชุมชน หลังร้องเพลงซอคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะป่าหุ่ง ชาวบ้านย้ำแค่ปกป้องบ้านเกิด

ภาพ: วชิรญาณ์ วิรัชบุญญากร 1 ธันวาคม 2568 ที่ศาลจังหวัดเชียงราย พันโทสมเจต ช่างซอ หรือ...

เมืองเพื่อ ‘รถ’ หรือ ‘คน’ ทุ่ม 2–4 พันล้านแก้รถติดคันคลอง ชาวเชียงใหม่ถามกลับ “ออกแบบเพื่อใคร?”

เรื่อง: วรรณวิษา พะเลียง โครงการปรับปรุงถนนทางหลวงหมายเลข 121 หรือ ‘ถนนคันคลองชลประทาน’ ของกรมทางหลวง กลายเป็นประเด็นร้อนด้านผังเมืองครั้งใหญ่ของเชียงใหม่ หลังรัฐเสนอใช้งบประมาณกว่า...