เปิดตัวโครงการ “Journalism that Builds Bridges” สร้างสะพานเชื่อมชายขอบสู่ศูนย์กลาง

Date:

5 พฤศจิกายน 2565

“หมอนิรันดร์” ชี้ภารกิจสำคัญสื่อพาไทยก้าวพ้นระบอบอำนาจนิยม ยูเนสโกระบุสื่อต้องมีเสรีภาพ-ความปลอดภัยในการทำงาน เอกอัครราชทูต 3 ประเทศย้ำประชาธิปไตยเป็นหลักสำคัญของเสรีภาพสื่อ หวังคนข่าวรุ่นใหม่พัฒนาสื่อ-ปชต.ไทยให้แกร่งขึ้น นักวิชาการเผยผลวิจัยคนไทยยังเชื่อถือสื่อกระแสหลัก ระบุสื่อเน้นหารายได้ทำรัฐ-ทุนแทรกแซง เปิดช่องไอโอภาครัฐ  การเมืองไม่เป็น ปชต.ทำสื่อ-ปชช.ขาดเสรีภาพไร้การคุ้มครองสิทธิฯ

ภาพ : อาชวิชญ์ อินทร์หา

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร The Isaan record ร่วมกับ องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (Unesco) โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) มูลนิธิเพื่อการศึกษาและสื่อภาคประชาชนอีสาน THECITIZEN.PLUS Thai PBS สถานทูตเนเธอแลนด์ประจำประเทศไทย สถานทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทย สถานทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย  เปิดตัวโครงการ Journalism that Builds Bridges จากชายขอบสู่ศูนย์กลาง : ถึงเวลาทบทวนภูมิทัศน์สื่อไทย โดยมีนักข่าวพลเมืองจากทุกภูมิภาคเข้าร่วมโครงการกว่า 50 คน 

นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ประธานมูลนิธิเพื่อการศึกษาและสื่อภาคประชาชนอีสาน และอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวเปิดโครงการวารสารศาสตร์ที่สร้างสะพาน (JBB)ว่า สิ่งที่เป็นปัญหาของประเทศไทยตอนนี้คือระบบที่เป็นรัฐรวมศูนย์กลาง และไม่สามารถกระจายอำนาจ ศักยภาพในการทำงานสู่พื้นที่ในระดับภูมิภาคและคนที่มีความหลากหลายในระดับชาติพันธุ์ ดังนั้นจะทำอย่างไรให้มีสะพานเชื่อมระหว่างส่วนที่เป็นชายขอบกับอำนาจรัฐส่วนกลางได้อย่างไร ทั้งนี้จากรายงานล่าสุดของ ฟรีดอมเฮาส์ (Freedom House) องค์กรเอกชนเพื่อประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพ ระบุว่าในช่วงเวลา 15 ปีที่ผ่านมา 200 กว่าประเทศทั่วโลก มี 60 กว่าประเทศความเป็นประชาธิปไตยลดและถอยหลังลงมาซึ่งประเทศไทยอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ส่วนประเทศที่ประชาธิปไตยดีขึ้นมีแค่ 25 ประเทศ หมายความว่าโลกมีการขยายตัวของระบบที่เรียกว่าอำนาจนิยมเบ็ดเสร็จเป็นเผด็จการมากยิ่งขึ้น ประชาธิปไตยของเราเป็นประชาธิปไตยพันธุ์ทางคือลูกเป็นประชาธิปไตยแต่เนื้อในเป็นเผด็จการ ดังนั้นเราจึงต้องมาช่วยกันทำให้ประชาธิปไตยของโลกสามารถผ่านวิกฤตการณ์ตรงนี้ไปได้ 

นพ.นิรันดร์ กล่าวต่อว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตของคนหนุ่มสาวเป็นจำนวนมาก แต่ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพด้วยกฎหมายติดหนวด ไม่ได้เคารพเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตรงนี้จึงเป็นผลที่เราต้องมานึกถึงเรื่องสื่อ ซึ่งสื่อกระแสหลักไม่ได้ทำหน้าที่และไม่กล้าแสดงความคิดเห็นออกมา หมายความว่าสังคมไทย และสังคมสื่อกระแสหลักตกอยู่ในความเงียบและความกลัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ระบอบอำนาจนิยมต้องการมากที่สุด เพราะเขามองว่าความเงียบและความกลัวคือสังคมสงบเรียบร้อยดี ดังนั้นการที่สื่อเป็นกระบอกเสียงและทำความจริงให้ปรากฏจึงมีความสำคัญ จึงมองว่าสื่อเสรีที่เราจะทำขึ้นต่อจากนี้จะต้องจับมือกันในการทำงาน ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวพ้นไปจากระบบอำนาจนิยมที่มันทำลาย ไม่เฉพาะคนหนุ่มสาวที่เดินขบวนบนท้องถนน แต่ทำลายไปถึงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของเรา นอกจากการถูกกดทับจากอำนาจทางการเมืองในเรื่องการห้ามแสดงความคิดเห็นในเรื่องการปฏิรูปสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ หรือสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ตามเพื่อให้ประชาธิปไตยของเราสามารถมั่นคงและยืนยงอยู่ได้ ไม่ใช่เป็นประชาธิปไตยที่ถดถอย 

“วันนี้จึงมีการประชุมเพื่อทำให้เกิดสะพานเชื่อมโดยใช้สื่อเชื่อมให้อำนาจในการแสดงความคิดเห็น สิทธิเสรีภาพในการที่จะบอกความจริงต่อสังคม เพื่อทำให้สังคมประจักษ์และส่งเสียงให้อำนาจรัฐส่วนกลางได้รับรู้ ขณะเดียวกันคนจะได้รู้เท่าทันได้มากขึ้น ถ้าทำตรงนี้สำเร็จเราจะเป็นสะพานเชื่อมในระดับพื้นที่ต่าง ๆ 90 ปีที่เราเปลี่ยนประเทศไทยมา แต่ระดับภูมิภาคยังเป็นอาณานิคม ภาคใต้ยังเป็นอาณานิคมของรัฐกรุงเทพ อีสาน หรือเหนือก็เหมือนกัน ซึ่งเราจะเปลี่ยนสภาพเหล่านั้นให้เป็นการยอมรับในการกระจายอำนาจต่อไป” นพ.นิรันด์ กล่าว 

จากนั้นมีการปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “วัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดและความปลอดภัยของนักข่าว” โดย Jo Hironaka หัวหน้าฝ่ายการสื่อสารและสารสนเทศ Unesco ประจำกรุงเทพฯ โดยระบุว่า ในเรื่องการลอยนวลนั้นหมายความว่าไม่มีการรับผิด จากการรายงานจองยูเนสโก การฆาตรกรรมและเสียชีวิตของนักข่าว 90% ไม่มีการลงโทษ ไม่ได้รับความยุติธรรมสำหรับครอบครัวที่ยังอยู่ ซึ่งฟังดูเป็นวัฒนธรรมลอยนวล ประมาณ 80% ของการเสียชีวิตเกิดขึ้นนอกสถานที่ทำงาน ตามถนน บางคนก็โดนลักพาตัว และต่อมาก็พบว่าเสียชีวิต บางคนอาจเสียชีวิตต่อหน้าครอบครัว เด็กเล็กด้วยซ้ำไป ทั้งนี้ 11 % ของนักข่าวที่ถูกฆ่าเป็นผู้หญิง สัมพันธ์กับการสำรวจของยูเนสโกอีกชิ้นหนึ่งพบว่า 75 % ของนักข่าวหญิง จำนวน 3 ใน 4 ถูกคุกคามหรือการขู่ขวัญทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ เราท่านอาจจะคิดว่านักข่าวอยู่ในวิกฤต และมีความขัดแย้งกัน แต่ 64% ของการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในปีที่แล้วเกิดขึ้นในประเทศที่ไม่มีความขัดแย้งกัน มีการฆาตกรรมนักข่าว 69 รายในภูมิภาคของเรา ตั้งแต่ปี 2021-2022 เป็นสิ่งที่ยูเนสโกได้เก็บข้อมูลไว้และประณามในสิ่งเหล่านี้  

ภาพ : อาชวิชญ์ อินทร์หา

Jo Hironaka กล่าวต่อว่า ทั้งนี้สหประชาชาติได้จัดทำแผนปฏิบัติการในเรื่องการปกป้องนักข่าว เรื่องของการพัฒนาทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคมหรือผู้คนที่อยู่ห้องนี้ ประเทศต่างๆ มีส่วนรับผิดชอบในการทำงานด้านนี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการอบรมเจ้าหน้าที่ตุลาการ หลักสูตรในสถาบันการศึกษาต่างๆ เช่น โรงเรียนนายร้อยตำรวจของไทย เป็นต้น โดยได้อบรมเจ้าหน้าที่จำนวน 2.4 หมื่นรายในเรื่องการรักษากฎหมาย เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและความปลอดภัยของนักข่าวและวันนี้ก็เป็นการตอกย้ำจุดยืนของเราในเรื่องของการดำเนินการตามแผนงานของสหประชาชาติในเรื่องการแสดงความคิดเห็นไม่ว่าจะเป็นพลเมืองหรือนักข่าวทั้งในท้องถิ่นและส่วนกลางที่ต้องมีเสรีภาพ ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาและยกระดับการทำงานของนักข่าวต่อไป 

H.E.Mr.Remco van Wijngaarden เอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า เรามาจากประเทศที่มีเสถียรภาพในเชิงประชาธิปไตย แต่ตนยืนยันว่าประชาธิปไตยเป็นเรื่องที่ต้องต่อเนื่อง ไม่มีอะไรที่มีเสถียรภาพเราจะต้องมีการลงทุนในระบบประชาธิปไตยเพื่อที่จะให้ยืนยงอยู่ได้ สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสงครามรัสเซีย ยูเครน รวมทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นในเมียนมา เป็นการทำลายล้างสิทธิมนุษยธรรมและยังเป็นการกดขี่เสรีภาพของนักข่าว หน้าที่ของประชาธิปไตยกำลังเติบโตแต่ขณะเดียวกันก็โดนโจมตีโดนล้มล้างเช่นกัน นักข่าวพลเมืองต่างๆ ก็ถูกทำลายทางด้านสิทธิมนุษยชน โครงการนี้เป็นเรื่องที่ดีมาก ในส่วนของเนเธอแลนด์จะทำงานร่วมประเด็นเสรีภาพทางความคิดเห็นของนักข่าว ซึ่งเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเป็นหลักสำคัญในสังคมประชาธิปไตยเป็นการการันตีว่าสาธารณชนจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องในสถานการณ์ต่างๆ และรัฐต้องรับผิดชอบในสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วย ทั้งนี้ขอให้นักข่าวอย่าหวาดกลัวและคงไว้ซึ่งความกล้าหาญ

H.E.Mr.Jyri Jarviaho เอกอัครราชทูตฟินแลนด์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การเปิดตัวโครงการนี้ร่วมกันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประเทศไทย สื่อเป็นส่วนสำคัญสำหรับการมีประชาธิปไตยที่ดี ซึ่งในปีหน้าประเทศไทยกำลังจะมีการจัดเลือกตั้งสื่อจึงมีความสำคัญอย่างมากในการนำเสนอข่าว ฟินแลนด์ให้ความสำคัญในเรืองสื่อและได้รับการจัดลำดับเสรีภาพสื่อติดอันดับ 1 ใน  5 ของโลก โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า 65 % ของคนฟินแลนด์ไว้วางใจสื่อ ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงกว่าประเทศอื่น ๆ ในยุโรป การแสดงออกทางเสรีภาพทั้งการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมเป็นสิทธิพื้นฐานของชาวฟินแลนด์ ทุกคนสามารถเข้าถึงการบันทึกและเอกสารต่าง ๆ ของภาครัฐได้ ขณะที่นักข่าวต้องใช้ทักษะและจริยธรรม รวมถึงต้องมีความปลอดภัยในการทำงาน และต้องส่งเสียงจากทุกภาคส่วนและทุกชาติพันธุ์เราจึงยินดีในการร่วมโครงการนี้ หวังว่าทุกคนจะมีความกล้าหาญและมั่นคงซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย หวังว่าคนรุ่นใหม่อย่างเราจะทำให้สื่อและประชาธิปไตยแข็งแกร่งขึ้นในประเทศไทย 

MR.Mr.Jonathan Kings เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ทุกคนมีโอกาสในเรื่องความท้าทายที่ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบสำคัญ และความถูกต้องแม่นยำของข่าวที่นำเสนออกไป  เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้องของผู้รับข่าวสาร รวมทั้งต้องสะท้อนเสียงของผู้หญิง LGBTQ+ ชนกลุ่มน้อย ตลอดจนผู้คนที่หิวโหย ที่ต้องได้รับการรับฟัง หวังว่าสิ่งที่ท่านจะสร้างขึ้นมาในฐานะนักข่าวจะเป็นประโยชน์ต่อไป  ยังมีเรื่องความท้าทายที่ทุกคนต้องเจอในเรื่องกลไกทั้งทางการหรือไม่เป็นทางการที่บีบบังคับไม่ให้ท่านส่งเสียงออกมาและต้องก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ ซึ่งตนพร้อมรับฟังในอนาคตต่อไป และและยินดีสนับสนุนโครงการนี้ เพราะเสรีภาพในการแสดงออกเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อประชาธิปไตย หวังว่าจะได้เรียนรู้และรับทราบเกี่ยวกับผลงานของท่านต่อไปในอนาคต 

ขณะที่ผศ.ดร.พรรษาสิริ กุหลาบ คณะนิเทศศาสตร์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย นำเสนอผลงานและอภิปรายผลงานวิจัยหัวข้อ “ภูมิทัศน์สื่อไทย:ความท้าทายและโอกาส”  ระบุตอนหนึ่งว่า ถึงแม้ประชาชนจะนิยมใช้สื่อโซเชียลมีเดียมากขึ้น เป็นการใช้เพื่อความบันเทิง แม้จะมีข่าวสารผ่านเข้าตามาบ้าง แต่ผลการสำรวจพบว่าประชาชนยังเชื่อถือข้อมูลจากสื่อองค์กระแสหลักที่เป็นสื่อดั้งเดิม ยังเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสถานีโทรทัศน์ช่องต่าง ๆ และพบว่าคนไทยมีระดับความเชื่อถือสื่อมวลชนที่ 53 % มากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก จึงเป็นบทบาทที่ประชาชนยังคาดหวังกับสื่อกระแสหลักแม้จะมีสื่อใหม่เกิดขึ้นมากมาย

ภาพ : อาชวิชญ์ อินทร์หา

ผศ.ดร.พรรษาสิริ กล่าวว่า ขณะที่สื่อกระแสหลักทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และสิ่งพิมพ์ รายได้จากการโฆษณาลดลงไปมาก ขณะที่สื่อออนไลน์ยังไม่ได้เป็นกอบเป็นกรรมเริ่มตีตื้นขึ้นมาเรื่อย แนวโน้มการหารายได้ทำให้สื่อกระแสหลักต้องย้ายเข้าสู่ออนไลน์มากขึ้น พยายามอัดความถี่และความเร็วของเนื้อหาเข้าไป สื่อพยายามดิ้นรนและหารายได้เลี้ยงองค์กร บางแนวทางทำให้เกิดการลดทอนพื้นที่นำเสนอข่าวสารที่เป็นประโยชน์สาธารณะ หรือบางทีเปิดโอกาสให้ทุนทั้งของรัฐและเอกชนเข้ามาแทรกแซงได้เหมือนกัน และเป็นช่องทางการแพร่กระจายบิดเบือน รวมถึงปฏิบัติการข่าวสารของรัฐด้วยเวลาที่ต้องนำเสนอออนไลน์ เป็นต้น 

ผศ.ดร.พรรษาสิริ กล่าวต่อว่า ภาพรวมทั้งสื่อมวลชน สื่อภาคประชาชน และประชาชนถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เป็นการประเมินจากหลายองค์กรในต่างประเทศ เหตุหนึ่งมาจากมาตรการการใช้กฎหมายและนโยบายจำกัดสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของประชาชน ในช่วงความขัดแย้งและการชุมนุมการทางการเมือง รวมทั้งช่วงการระบาดของโควิด-19 มีผลทำให้สื่อไม่สามารถรายงานข้อเท็จจริงได้อย่างรอบด้าน โดยเฉพาะเรื่องการตั้งคำถามและตรวจสอบอำนาจรัฐ มีการคุกคามทั้งจากรัฐและกลุ่มผลประโยชน์ที่สนับสนุนรัฐ เป็นต้น  “โดยสรุปข้อจำกัดที่ทำให้การปกป้องคุ้มครองเสรีภาพและสวัสดิภาพของสื่อเป็นไปอย่างลำบากท่ามกลางภูมิทัศน์ ที่เราดูเหมือนว่ามีสื่อเกิดขึ้นจำนวนมากก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือระบอบการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะไม่มีการคุ้มครอง รับรองสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนของประชาชน แต่ให้ความสำคัญในเรื่องความมั่นคงของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากกว่า อีกประเด็นคือบริบทเรื่องการขัดแย้งแบ่งขั้วทางการเมือง ทำให้การอภิปรายถกเถียงกันในประเด็นต่าง ๆ เกิดขึ้นยาก กลไกการตรวจสอบที่ยังไม่มีประสิทธิภาพ รวมถึงข้อจำกัดขององค์กรวิชาชีพในการต่อรองกับสถาบันที่มีอำนาจต่างๆ สหภาพแรงงานยังไม่มีบทบาทมากนัก ดังนั้นข้อเสนอภาครัฐต้องมีเคารพหลักการประชาธิปไตยและต้องมีการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน หากมีการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อต้องมีการตรวจสอบอย่างเป็นธรรม เป็นต้น” ผศ.ดร.พรรษาสิริ กล่าว

ภาพ : อาชวิชญ์ อินทร์หา

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

More like this
Related

นักกิจกรรมเชียงใหม่จัด Run2Free ‘วิ่งเพื่อเสรีภาพ’ ร้องหยุดจองจำผู้เห็นต่าง ไม่ลืมเพื่อนในเรือนจำ

25 ตุลาคม 2568 กลุ่มเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรม ‘วิ่งเพื่อเสรีภาพ X ยืนหยุดขัง Run2Free’...

บทเรียนจากหอยมินามาตะ ถึงปลาน้ำกก รัฐยืนยันปรุงสุก-กินได้ แต่ระยะยาวปลอดภัยแค่ไหน?

เรื่อง: สุพศิน สุทธิวรวิทย์ 12 กันยายน 2568  กรมประมงร่วมกับสำนักงานประมงอำเภอแม่อาย รายงานผลตรวจสัตว์น้ำจากแม่น้ำกก จังหวัดเชียงใหม่ โดยสุ่มเก็บตัวอย่างจากหลายจุดในพื้นที่อำเภอแม่อาย...

แรงงานภาคเหนือ ยื่นข้อเสนอถึงกระทรวงแรงงาน ‘Decent Work’ เรียกร้องยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน

24 ตุลาคม 2568 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายแรงงานภาคเหนือเข้ายื่นหนังสือข้อเสนอ Decent Work หรือ งานที่มีคุณค่า...

สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เห็ด’ CAC ชวนร่วมกิจกรรมปิดท้าย ‘FUNGI IN YOUR HEADLIGHTS’

พบศิลปิน อานนท์ นงเยาว์ และ NooN Collectiveเสาร์ที่ 25 ตุลาคมนี้ ณ...