Food For Good: จากภูเขาถึงทะเล สำรวจความทรงจำถึงโควิด-19

Date:

ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โรคโควิด-19) ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 435 ราย เฉลี่ยวันละ 62 ราย

อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า มีรายงานผู้ป่วยปอดอักเสบ 30 ราย และผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 19 ราย เพิ่มขึ้น 58% และ 36% ตามลำดับ มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย และล้วนเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้วนานเกินกว่า 3 เดือน จึงเรียกร้องให้กลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นโดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

นอกเหนือจากความวิตกถึงสถานการณ์โควิดที่คาดพุ่งสูงขึ้นช่วงสงกรานต์ สังคมไทยยังกำลังวิตกถึงการระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 หรือ “อาร์คตูรุส” ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่อยู่ในการสังเกตการณ์ขององค์การอนามัยโลก

นอกจากการศึกษาถึงการป้องกันที่จะเกิดในอนาคตทั้งมิติการแพทย์และสาธารณสุข สังคมและเศรษฐกิจ สิ่งหนึ่งที่สำคัญในการตั้งรับคือการย้อนกลับไปทบทวนอดีต เพื่อตั้งหลักรับมือสถานการณ์

เมื่อนึกย้อนกลับไปในปี 2019 เราจะพบโลกเต็มไปด้วยความสับสน ตื่นตระหนก ในตอนนั้นเรายังไม่พบวิธีการรับมือกับโรคระบาด ไทยเป็นประเทศแรกนอกประเทศจีนที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ก่อนที่เราจะใช้คำว่า ‘โรคโควิด-19’ ในเวลาต่อมา

เครื่องบินหยุดบิน ดนตรีไม่บรรเลง ร้านค้าปิดทำการ ทุกคนสวมหน้ากาก กักตัวเองอยู่ในบ้าน แยกห่างจากกัน ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก มิลาน ลอนดอน นิวยอร์ค เคปทาวน์ นครศรีธรรมราช หรือเชียงใหม่ ไม่ว่าคุณจะเติบโตมาบนความแตกต่างทางวัฒนธรรมและกันตัวเองออกมาอยู่ในเสื้อคลุมของปัจเจก แต่การแพร่ระบาดหนุนนำให้เราเป็นส่วนหนึ่งของสังคม การแพร่ระบาดทำให้เรามองเห็นตัวเองเกี่ยวพันกับคนอื่นอย่างแยกไม่ออก การตัดสินใจของเราล้วนส่งผลต่อผู้อื่น

ในช่วงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เราทั้งหมดรวมกันเป็นชีวิตเดียว เป็นชุมชน และส่วนหนึ่งของกันและกัน ตกอยู่ในความหวาดกลัวเดียวกัน ติดชะงักอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติเดียวกัน สิ้นหวังในเรื่องเดียวกัน เปี่ยมกำลังใจในเรื่องเดียวกัน

ในตอนนั้น พรแสง (ไม่มีนามสกุล) ไม่คิดว่าโรคโควิด-19 จะดำรงอยู่ยาวนานตราบวันนี้ เธอมีเงินเก็บอยู่จำนวนหนึ่งที่เก็บออมจากอาชีพนวดแผนโบราณที่ทำมากว่า 20 ปีในเมืองท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่ แต่ในเวลานั้น ไม่มีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเดินทางมาเชียงใหม่ สถานประกอบการนวดแผนโบราณที่ทำงานอยู่ก็ต้องปิดทำการตามการควบคุมของรัฐ


ป้าพรแสง

“ตอนนั้นไม่คิดว่าโควิดจะอยู่กับเรานาน ฉันมีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง ก็คิดว่าน่าจะอยู่ได้ 6-7 เดือนค่ะ” พรแสงบอกกับเรา ซึ่งข้อเท็จจริงในกาลต่อมาก็หักล้างการพยากรณ์ของเธอเสียสิ้น

พรแสง เป็นชาวไทใหญ่ โยกย้ายชีวิตมาอาศัยในเมืองเชียงใหม่ เธออยู่ในชุมชน 5 ธันวา ชุมชนที่แรงงานข้ามชาติ แรงงานชาติพันธุ์ และแรงงานนอกระบบ อยู่กันอย่างหนาแน่น

เช่นเดียวกับแรงงานข้ามชาติส่วนใหญ่ในมหานครแห่งนี้ พรแสงดำรงชีวิตอยู่โดยปราศจากตาข่ายรองรับจากสังคมที่เธอสังกัด

“ฉันเป็นคนไทใหญ่ ไม่มีหลักประกันสุขภาพ ไม่มีสิทธิรับการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาล ช่วงที่รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาให้ 5,000 บาท ฉันก็ไม่ได้การช่วยเหลือตรงนั้น ช่วงที่ร้านนวดปิดทำการ ฉันต้องใช้เงินเก็บที่มีอยู่ดำรงชีวิต แต่โควิดกินเวลายาวนาน เงินเก็บก็หมดไป” พรแสง ย้อนกลับไปในความทรงจำ หากมีรสชาติ ความทรงจำของเธอน่าจะขมปร่า

เงินเก็บสามารถหล่อเลี้ยงชีวิตของเธอกับลูกที่ป่วยเป็นออติสติกได้เพียง 6 เดือน แต่โรคระบาดยังคงเดินนำหน้าโลกของเรา แต่เศรษฐกิจหยุดนิ่ง ผู้คนจำนวนมากตกงาน คนป่วยล้นโรงพยาบาล สังคมหวาดกลัวและตีตราผู้ติดเชื้อ วัคซีนยังถูกตั้งคำถามและการจัดการยังไม่ทั่วถึง สถานการณ์เช่นนี้ทำให้พวกเราติดอยู่ในเขาวงกต

หลังจากใช้เงินเก็บจนหมด พรแสงพาลูกซ้อนมอเตอร์ไซค์ตระเวนรับอาหารตามจุดที่มีการแจกจ่ายอาหารในเมืองเชียงใหม่ ขณะที่ค่าเช่าห้องก็ได้เพื่อนที่มีสามีชาวต่างชาติช่วยจ้างเธอไปทำความสะอาดบ้าน


นิภา ชมภูป่า มูลนิธิรักษ์ไทยเ จังหวัดชียงใหม่

“เชียงใหม่เป็นเมืองที่สวยงามค่ะ แต่ด้านที่ไม่สวยงามของเชียงใหม่ก็มี” นิภา ชมภูป่า เแห่งมูลนิธิรักษ์ไทยเชียงใหม่ เริ่มต้นบทสนทนาถึงโครงการอาหารล้านมื้อ (Food For Good) ด้วยการเผยให้เราเห็นด้านไม่สวยงามของเชียงใหม่

โครงการอาหารล้านมื้อ (Food For Good) เกิดจากการร่วมกันระหว่างบริษัทเป๊ปซี่โค ประเทศไทย  มูลนิธิเป๊ปซี่โค และมูลนิธิรักษ์ไทย สนับสนุนและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วทุกภาคในประเทศไทย นอกจากอาหาร ยังมีชุดตรวจโควิด (ATK) อุปกรณ์ป้องกันโควิด ยาสามัญประจำบ้าน เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด เครื่องวัดไข้ อุปกรณ์สำหรับทำอาหาร มอบให้แก่ผู้ได้รับผล กระทบ ทั้งหมด 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ ลำพูน อุบลราชธานี อุดรธานี นครศรีธรรมราช ปัตตานี นราธิวาสและยะลา

ทีมอาสาสมัครจะเดินทางไปยังชุมชนของกลุ่มเปราะบาง หอบหิ้วถุงพลาสติกสีฟ้าที่ภายในนั้นสามารถทำให้ครอบครัวยังชีพอยู่ได้ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ พวกเขาเรียกถุงสีฟ้านั้นว่า ‘ถุงกำลังใจ’

“ถุงกำลังใจสำคัญมากในการให้ความช่วยเหลือในระยะแรกของการระบาด มันช่วยให้เขาทรงตัวอยู่ได้บนคลื่นลมที่เราไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าสถานการณ์จะสงบลงเมื่อไหร่ ทั้งสุขภาพและเศรษฐกิจ มันจะทำให้เขามีแรงส่งตัวเองลุกขึ้นมา มันไม่ได้ช่วยเฉพาะคนติดโควิดแต่รวมถึงคนในครอบครัวเขาด้วย” นิภา ย้อนให้เราฟังถึงช่วงเวลาที่ทุกคนต่างได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นผู้เดินทางลงพื้นที่ไปส่งมอบถุงกำลังใจรวมถึงผู้รับกำลังใจนั้นด้วย

“เชียงใหม่เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยโภชนาการ แต่ความเหลื่อมล้ำทางสังคมสูงมาก คนบนดอยก็เจอปัญหาพื้นที่ร่วมของคนกับป่า แรงงานที่อยู่ในเมืองก็มีทั้งแรงงานข้ามชาติและชาติพันธุ์ต่างๆ โครงการ Food For Good ทำให้เราได้วิเคราะห์รากของปัญหาในเชียงใหม่ในช่วงที่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19” นิภา เล่า

แม้ภูมิประเทศและวัฒนธรรมจะต่างกัน แต่นครศรีธรรมราชก็ไม่ได้ต่างไปจากเชียงใหม่ในห้วงของการระบาด ชุมชนชาวประมงที่ชุมชนปากนครก็ไม่สามารถหารายได้เข้าบ้านได้ ทั้งๆ ที่ทะเลอยู่หน้าบ้านของพวกเขาแท้ๆ


ณิชา ศักดิ์วิจารณ์

“ช่วงโควิด ทุกคนล้วนมีชีวิตชะงักงันกันหมด ร้านค้าปิด ไม่รับซื้อวัตถุดิบ ก็ทำให้ชาวประมงรวมถึงชาวบ้านที่รับซื้อวัตถุดิบจากชาวประมงไปแปรรูป ขาดรายได้” ณิชา ศักดิ์วิจารณ์ Case manager ของโครงการ Food for Good แห่งมูลนิธิรักษ์ไทยประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เล่าถึงสภาพปัญหาเบื้องต้นของการระบาด ณิชาและทีมอาสาสมัคร ลงพื้นที่ไปยังบ้านผู้ได้รับผลกระทบ นำถุงกำลังใจไปมอบให้พวกเขารวมถึงติดตามปัญหาสุขภาพของผู้ได้รับผลกระทบ


สว่าง สุนทรภพ

ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา สว่าง สุนทรภพ ติดโควิดถึง 4 ครั้ง เขามีภาวะไตวายและเป็นอัมพฤกษ์ เป็น กลุ่มเปราะบางที่โครงการ Food for Good นำถุงกำลังใจมามอบให้ วัตถุดิบในถุงกำลังใจของเขาถูกคัดสรรมาให้เหมาะสมกับสุขภาพของเขาและคนในครอบครัวโดยเฉพาะ เหมือนช่างตัดเสื้อวัดตัวผู้สวมใส่เป็นรายคน


แสงตะวัน งามกาหลง ผู้ประสานงานภาคสนามมูลนิธิรักษ์ไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช

“เราเลือกของที่มีคุณภาพเหมาะกับคนที่เราจะนำไปมอบ” แสงตะวัน งามกาหลง ผู้ประสานงานภาคสนามแห่งมูลนิธิรักษ์ไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช ยกตัวอย่างซีอิ๊วขาวสูตรโซเดียมต่ำที่เหมาะกับคนป่วยโรคไต

นอกจากการแบ่งเบาภาระเรื่องค่าใช้จ่ายด้านอาหาร ทีมอาสาสมัครของโครงการ Food For Good ยังให้ความรู้เรื่องโรคโควิด-19 แจกอุปกรณ์ป้องกัน ยารักษาโรคพื้นฐาน และติดตามอาการเจ็บป่วยของเขาและภรรยา ในช่วงหนึ่งที่สว่างติดโควิด เขาต้องนอนในห้องไอซียูในช่วงที่เขาติดโควิดถึง 11 วัน

“พอรักษาตัวจนหายออกมา เพื่อนก็ถามว่า มึงหายออกมาทำไม” เขาเล่าถึงอารมณ์แดกดันระหว่างเขากับเพื่อน

แน่นอนว่า โรคโควิด-19 เป็นภัยคุกคาม แต่แสงตะวันเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า โควิดเป็นเหมือนสะพานที่นำทางให้คนทำงานภาคประชาสังคมอย่างมูลนิธิรักษ์ไทย ได้เข้าไปพบปัญหาและหัวใจของชุมชน

“โควิดเป็นเหมือนโอกาสที่ทำให้ ‘รักษ์ไทย’ ได้เรียนรู้ปัญหาที่ซ่อนในชุมชนมากขึ้น” แสงตะวัน อธิบายว่า มูลนิธิรักษ์ไทย ทำงานในประเด็นสุขภาพในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ความซับซ้อนของปัญหาสุขภาพในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายในจังหวัดนครศรีธรรมราชคือบริบทสังคมที่เป็นสังคมมุสลิม

“ด้วยวัฒนธรรมและศาสนาก็ทำให้ชุมชนยอมรับเรื่องเหล่านี้ได้ยาก แต่การที่เราลงพื้นที่ไปให้ความช่วยเหลือชุมชนในสถานการณ์โควิด ทำให้เราได้เปิดตัวต่อชุมชนว่าองค์กรของเราไม่ได้ทำแค่เรื่องโควิดนะ เราทำงานป้องกันและดูแลผู้ป่วย HIV ยุติการรังแกในโรงเรียน ให้ความเข้าใจเรื่องเพศศึกษา ทำงานหลายเรื่องภายใต้สิทธิมนุษยชนที่ทุกคนควรเข้าถึงและได้รับโอกาส มันทำให้คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเราเริ่มรู้สึกว่าเขามีพื้นที่ปลอดภัย จากที่ไม่สามารถเปิดเผยเรื่องราวให้ใครรับรู้ได้ ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายก็เริ่มมาติดตามที่เพจของเรา แชทมาขอคำปรึกษา แชทขอตรวจร่างกาย  

“อย่างน้อยที่สุด โควิดก็เป็นสะพานที่พาเราไปหาความทุกข์ใจของเขา ความทุกข์ใจที่นอกเหนือจากสถานการณ์ของโรคโควิด-19 นอกจากปัญหาเศรษฐกิจและสุขภาพ มันทำให้เขามีพื้นที่เพิ่มขึ้น ทำให้เราเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการที่เรานำถุงกำลังใจไปมอบให้ ถ้าคนเรามีโอกาส มีพื้นที่ มีช่องทางเข้าถึงสิทธิ ก็จะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นในทุกๆ มิติ” แสงตะวัน บอก

สังคมร่วมสมัยตั้งคำถามกับการให้เชิงสังคมสงเคราะห์ แต่แสงตะวันและนิภา ต่างก็มองเห็นตรงกันว่า ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติ การให้คือการเกื้อกูลของเพื่อนร่วมสังคม และการรับยังเป็นจุดเริ่มต้นของการให้

“มันคือการเกื้อกูลกันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ประคองให้เขาลุกขึ้นมาด้วยการให้กำลังใจกัน มันเป็นเหมือนไม้เท้าช่วยให้เขาค้ำยันตัวขึ้นมา เมื่อเขาแข็งแรง เขาก็สามารถไปช่วยเหลือสังคมได้ต่อ ช่วยเหลือคนอื่นได้ต่อ มันเป็นการพึ่งพากันและกัน” แสงตะวัน บอก

หลังจากว่างงานมาเป็นเวลา 2 ปี พรแสง เป็นหนึ่งในผู้ได้รับกำลังใจที่มาในรูปแบบของ ‘ถุงกำลังใจ’ หลังจากเป็น ‘ผู้รับ’ เธอค้ำยันตัวเองขึ้นมาจากซากปรักหักพังของชีวิต ลุกขึ้นยืนและผันตัวมาเป็น ‘ผู้ให้’  

พรแสง เข้ามารับการอบรมเป็นอาสาสมัครในโครงการ Food For Good ก่อนจะกลายเป็นนางฟ้าของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชน 5 ธันวา

“ก่อนที่จะเป็นอาสาสมัคร ฉันต้องไปอบรมทำความเข้าใจว่า โควิดคืออะไร โรคนี้ติดต่อทางไหน การป้องกันที่ถูกต้องทำอย่างไร ฝึกการตรวจหาเชื้อด้วย ATK ด้วยความที่เราว่างงาน เราจึงไปช่วยเหลือคนอื่นโดยที่ไม่ลังเลใจ ไปแบบพลังเต็มร้อยมาก เราไปช่วยคนที่ติดโควิด คนที่เดือดร้อนโทรมาตอนตีห้า ‘พี่ ช่วยผมหน่อย ลงทะเบียนไม่เป็น’ เราก็ไปลงทะเบียนให้เขา เขาเรียกเวลาไหนก็ไปหมด บางทีเที่ยงคืนเขาโทรมา เขาติดโควิด ออกจากบ้านไม่ได้ หิวข้าวมาก เราก็ออกไปหาอาหารเอาไปส่งให้เขา”

เพราะความเดือดร้อนไม่เลือกเวลา พรแสง ทำงานอาสาสมัครไป ค่อยๆ เรียนรู้การจัดการเวลาส่วนตัวของตัวเองไปด้วย การให้ความช่วยเหลือเพื่อนร่วมชุมชนตั้งแต่เรื่องส่งอาหาร ตรวจสุขภาพเบื้องต้น ไปจนถึงเรื่องสำคัญอย่างสิทธิของแรงงานข้ามชาติ

“ฉันกลายเป็นนางฟ้าของกลุ่มที่ติดโควิด” พรแสง เล่าพร้อมกับซ่อนรอยยิ้ม แต่ปิดไม่มิด “เวลาที่เขาเดือดร้อน เขาก็มักจะมาขอความช่วยเหลือ โควิดระลอกที่สองมั้ง รัฐบาลมีมาตรการให้ผู้ติดเชื้อรักษาตัวที่บ้าน ซึ่งผู้ป่วยจะไม่ได้ใบรับรองแพทย์ ไม่มีหมอคนไหนยอมเซ็นต์ให้ เราก็ได้ร่วมกันต่อสู้ทั้งมูลนิธิรักษ์ไทยและทีมโควิดกลาง ผู้ติดเชื้อก็ได้ใบรับรองแพทย์ ซึ่งทำให้เขาได้ค่าชดเชยที่หยุดงานไป เราก็มีความสุขที่เขาได้ส่วนนั้น” พรแสง เล่า แน่นอน เธอไม่จำเป็นต้องซ่อนรอยยิ้มนั้นไว้เลย

เรากำลังมองอดีตจากมุมมองของปี 2566 โลกกำลังกลับเข้ามาสู่สภาวะปกติ ชีวิตหลายชีวิตเดินไปข้างหน้า เรามีวัคซีนและความเข้าใจที่มากขึ้น การเดินทางไปยังเชียงใหม่และนครศรีธรรมราชเพื่อตามรอยเส้นทาง ‘โครงการอาหารล้านมื้อ’ หรือ Food for good ได้ทำให้เราเห็นร่องรอยของสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำตา ความสิ้นหวัง ความหิว อาหาร กำลังใจ การลุกขึ้นยืน และสิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นภายใต้การให้และรับถุงกำลังใจ – ความเปลี่ยนแปลง

“พอมาเป็นอาสาสมัครโครงการ Food for good ฉันรู้สึกว่าตัวเองมีค่าและความหมาย” เธอเล่า ไม่ยิ้ม พรแสงร้องไห้ ไม่ใช่ความเศร้า แต่เป็นปีติยินดีกับการมีชีวิต

พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

Lanner Editor
Lanner Editor
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

เปิด 4 ข้อเสียเปรียบและผลกระทบสิ่งแวดล้อม MOU แรร์เอิร์ธ ไทย-สหรัฐ โอกาสหรือกับดักกัมมันตรังสี

26 ตุลาคม 2568 ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มีพิธีลงนาม ‘ข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์’ และถ้อยแถลงผลการหารือระหว่าง นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทย...

คนแม่อายประกาศ ‘ไม่เอาฝายดักตะกอน’ แนะรัฐควรใช้งบ 173 ล้านสร้างประปาบาดาลแทน

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต ร่วมกับมูลนิธิร่มโพธิ์ กลุ่มรักษ์แม่น้ำกก และ ดร.สืบสกุล กิจนุกร จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จัดเวทีรับฟังปัญหาและผลกระทบจากสารพิษในแม่น้ำกก ที่ตำบลท่าตอน...