ภาพ : กัญญ์วรา หมื่นแก้ว
8 กันยายน 2568 เวลา 09.30 น. ศาลจังหวัดลำพูนอ่านคำพิพากษาคดีชาวบ้านสันตับเต่าและนักปกป้องสิทธิมนุษยชน จำนวน 4 คน ได้แก่ วัยศรี โปธาคำ, ประเวทย์ บังคมเนตร, วิศรุต ศรีจันทร์ และศราวุฒิ ปินกันทา ในข้อหา ‘ร่วมกันขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่’ กรณีคัดค้านการเข้ารังวัดที่ดินของนายทุนที่ออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ดินทำกินของชุมชนสันตับเต่า อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน

ศาลมีคำพิพากษาให้รอการกำหนดโทษเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยจำเลยทั้งสี่ต้องไม่กระทำความผิดซ้ำภายในระยะเวลาดังกล่าว ซึ่งศาลพิจารณาประวัติ นิสัยความประพฤติ และความหนักเบาของคดี เห็นว่าจำเลยไม่เคยกระทำความผิดในลักษณะนี้มาก่อน มีอาชีพสุจริตและมีภาระครอบครัว อีกทั้งเป็นคดีที่อัตราโทษไม่สูงมาก การให้รอการกำหนดโทษถือเป็นโอกาสให้ปรับปรุงตนเอง
เหตุการณ์เริ่มเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่ช่างรังวัด ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ารังวัดที่ดินที่มีข้อพิพาทระหว่างนายตรี ด่านไพบูลย์ นายทุนและนักการเมืองท้องถิ่น กับชุมชนบ้านสันตับเต่า ชาวบ้านคัดค้านการเข้ารังวัดของนายทุน เนื่องจากที่ผ่านมา นายทุนเคยฟ้องร้องชาวบ้านหลายครั้งและออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบ
ต่อมาวันที่ 1 สิงหาคม 2567 จำเลยทั้งสี่ได้รับหมายเรียกจากตำรวจ สภ.บ้านโฮ่ง เพื่อให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในข้อหา ‘ร่วมกันขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานฯ’ และเลื่อนนัดเป็นวันที่ 13 สิงหาคม 2567 เพื่อให้พนักงานสอบสวนรวบรวมสำนวนส่งอัยการ
พนักงานอัยการจังหวัดลำพูนมีคำสั่งฟ้องคดีต่อศาลเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 และศาลอนุญาตให้ประกันตัว วางหลักทรัพย์รายละ 10,000 บาท นัดพร้อมครั้งแรกวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ระหว่างพิจารณา วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ศาลได้ให้นักปกป้องสิทธิทั้งสี่ให้ข้อมูลแก่เจ้าพนักงานคุมประพฤติจัดทำรายงานประกอบการพิจารณา และได้ยื่นคำแถลงประกอบการรับสารภาพ

วิศรุต ศรีจันทร์ หนึ่งในจำเลย ยืนยันว่า การคัดค้านครั้งนั้นเป็นการต่อต้านนายทุน ไม่ใช่เจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนสุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความจาก CPCR ชี้ว่า กรณีนี้เกิดขึ้นจากคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยที่ให้นำข้อหาขัดขวางเจ้าพนักงานมาใช้ ซึ่งอาจถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางกฎหมายโดยกลุ่มนายทุน
ความเป็นมาของข้อพิพาทระบุว่าชุมชนบ้านสันตับเต่ามีประวัติทำกินในพื้นที่มากว่าร้อยปี ก่อนการประกาศป่าสงวนแห่งชาติบ้านโฮ่ง ปี 2507 ทำให้ไม่สามารถขยายพื้นที่ทำกินได้ พื้นที่ถูกนายทุนและนักการเมืองท้องถิ่นเข้ากว้านซื้อและออกโฉนดโดยมิชอบตั้งแต่ปี 2550 เป็นเนื้อที่กว่า 800 ไร่ ทำให้ชาวบ้านถูกฟ้องร้องหลายครั้ง แต่ชนะคดี เนื่องจากกรมที่ดินตรวจสอบพบว่าโฉนดดังกล่าวออกโดยมิชอบตามกฎหมาย กรณีคดีนี้สะท้อนความพยายามของชาวบ้านในการรักษาสิทธิในที่ดินทำกินและต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อความเป็นธรรมในพื้นที่พิพาทกว่า 20 ปี
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...