‘เลาฟั้ง’ ชำแหละนโยบายที่ดินเขตป่ารัฐบาลเศรษฐา หวั่นสืบทอดแผนคสช.

Date:

12 สิงหาคม 2566 เวลา 01.20 น. ณ อาคารรัฐสภา เลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สัดส่วนชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองได้อภิปรายนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา ในประเด็น สิทธิในที่ดินทำกินและทรัพยากรของเหล่าชาติพันธุ์

เลาฟั้ง กล่าวว่า หลังจากรัฐประหารปี 2557 มีการออกคำสั่ง คสช.ที่เรียกว่า คำสั่งทวงคืนผืนป่า ซึ่ง 5 ปีหลังจากคำสั่งนี้ออกไปมีชาวบ้านถูกดำเนินคดีกว่า 29,000 คดี ชาวบ้านถูกยึดที่ดินกว่า 750,000 ไร่ ซึ่งกลุ่มชาติพันธุ์เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในช่วงเวลานั้นจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้คำสั่งจะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่รัฐบาลในขณะนั้นก็ยังดำเนินงานต่อผ่านนโยบาย คทช. และการจัดทำโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

เลาฟั้งได้ตั้งข้อสังเกตต่อนโยบายแก้ไขปัญหาที่ดินในเขตป่าของรัฐบาลเศรษฐากับรัฐบาลประยุทธ์มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมีนัยยะสำคัญ 2 ประการได้แก่

1.นโยบายแก้ไขปัญหาที่ดินของเศรษฐา ทวีสิน กำลังจะไปต่อยอดนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างไร้รอยต่อ โดยเฉพาะการจัดให้ประชาชนเป็นภัยต่อผืนป่าแต่พร้อมที่จะยกให้แก่นายทุนใช้ได้

2.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในรัฐบาลปัจจุบัน มาจากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเชื่อได้ว่ารัฐมนตรีในสมัยนี้จะเดินหน้ายึดสิทธิในที่ดินชาวบ้านต่อไป เพราะเหนือสิ่งอื่นใด พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นน้องชายแท้ๆ ของประวิตร วงษ์สุวรรณ คนที่มีส่วนยึดที่ดินชาวบ้านตามคำสั่งของ คสช.

“พรรคเพื่อไทยได้ประกาศนโยบายเพื่อหาเสียงก่อนการเลือกตั้งว่าจะยุติความขัดแย้งเรื่องที่ดินกับราษฎรรายเล็กรายน้อย แต่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมานี้ ซึ่งเป็นวันที่อำนาจบริหารประเทศนี้อยู่ในมือของ ครม.เศรษฐา กรมอุทยานฯ เพิ่งได้เร่งรัดจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อประกาศอุมยานแห่งชาติถ้ำผาไท จังหวัดลำปาง ท่าใกลางข้อสงสัยว่าทับสิทธิในที่ดินทำกินของชาวปกาเกอะญอ จนชาวบ้านต้องออกมาเดินขบวนคัดค้าน

แล้วความขัดแย้งจะยุติลงได้อย่างไรครับ ในเมื่อปัญหาเรื่องเดิม ท่านไม่มีนโยบายแก้ แต่เปิดหัวด้วยการเดินหน้าแย่งยึดสิทธิในที่ดินของชาวบ้านต่อ หรือนโยบายของพรรคเพื่อไทยนั้นเป็นเพียงเทคนิคในการหาเสียง” 

เลาฟั้งได้ฝากคำถามไปยัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อนโยบายการปลูกป่าในที่ดินทำกินในพื้นที่สูง 3 คำถามดังนี้ 

1.ที่ดินทำกินของชาวบ้านที่ถูกยึดไปตามคำสั่งทวงคืนผืนป่ากว่า 750,000 ไร่ จะถูกยึดโดยถาวรใช่ไหม? 

2.โครงการยึดดินของชาวบ้านมาปลูกป่าเพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซคาบอนฯจะยังเดินหน้าต่อไปใช่ไหม? 

3.นโยบายคทช.ที่แย่งยึดสิทธิในที่ดินของชาวบ้านยังจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่?

“ชาวบางกลอยที่เขาถูกเผาบ้านไล่ที่ ขณะนี้พวกเขากำลังเรียกร้องขอกลับคืนถิ่น ท่านจะทำยังไงบ้างครับ?”

เลาฟั้งได้เสนอ 3 ข้อเสนอ ให้รัฐบาลปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ดังนี้

1.การยึดระบบนิเวศน์เป็นศูนย์กลางในการพัฒนา (Eco-centric) มุ่งเน้นการจัดการทรัพยากรให้มนุษย์และป่าสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน คนในท้องถิ่นใช้ที่ดินหรือทรัพยากรและที่ดินได้แต่ต้องรักษาระบบนิเวศให้สมดุลต่อไป

2.พิสูจน์สิทธิในที่ดินอย่างเป็นธรรมและเปิดโอกาสอย่างถ้วนหน้า ลดข้อจำกัดเรื่องความลาดชัดและชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ เพื่อให้ที่ดินของกลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูงสามารถเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิได้ และออกเอกสารรับรองสิทธิอย่างเป็นธรรมได้

3.ส่งเสริมบทบาทของชุมชนกลุ่มชาติพันธ์ุ ที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาป่าอยู่แล้วให้มีสิทธิในการจัดการดูแลรักษาและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างยั่งยืน ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เลาฟั้งเสนอว่าสิ่งหนึ่งที่รัฐบาลสามารถทำได้เลยคือการผลักดันกฎหมายคุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ที่มีทั้งฉบับของพรรคก้าวไกลและฉบับของพรรคพลังประชาชน ที่ได้ร่วมกันเข้าชื่อยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร

“การใช้ที่ดินของคนในพื้นที่สูงถูกตีตราว่าเป็นการบุกรุกป่ามาโดยตลอด ผมหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะยอมรับสิทธิและความชอบธรรมในที่ดินของกลุ่มชาติพันธุ์ และทำให้ความฝันที่จะได้รับเอกสารสิทธิเป็นจริงขึ้นมา”

การอภิปรายในครั้งนี้เป็นหนึ่งในแคมเปญ “รัฐไม่ยอมเปลี่ยนแปลง” ของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นการชำแหละนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ที่ยังสืบทอดปัญหาที่ยังไม่ถูกแก้ของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชาต่อไป

พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

Lanner Editor
Lanner Editor
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

55 ปีมูลนิธิดรุณาทร สู่พลังแห่งการช่วยเหลือ พัฒนาเด็กและเยาวชน

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่โรงแรมแชงกรี-ลา จังหวัดเชียงใหม่ มูลนิธิดรุณาทร จัดงาน “ร้อยเรียงเรื่องราว 55...

ชวนไปแอ่ว ‘Jazz Arabica’ เทศกาลเสียงของแรงบันดาลใจที่งอกงามจากชุมชน 5-6 พ.ย. ณ จริงใจมาร์เก็ต และ 7 พ.ย. ที่ North Gate Spirit เชียงใหม่

ในทุกหยดกาแฟ มีเสียงของผืนดิน ผู้คน และเรื่องราวของการเติบโต​'Jazz Arabica' ไม่ได้เป็นเพียงเทศกาลดนตรีหรือกิจกรรมเกี่ยวกับกาแฟเท่านั้น แต่คือพื้นที่เรียนรู้ที่เปิดให้ชุมชนและคนรุ่นใหม่ได้มาเจอกัน เพื่อพูดคุย แลกเปลี่ยน...

เยาวชนบ้านท่าตาฝั่งสะท้อนเสียงหลังพบสารหนูเกินมาตรฐานในแม่น้ำสาละวิน “เจ็บปวดและตกใจที่ปกป้องไม่ทัน”

จากกรณีผลตรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำสาละวินบริเวณอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พบสารหนูเกินค่ามาตรฐาน 4–5 เท่า ล่าสุด จากการพูดคุยกับ ลาหมึทอ ดั่งแดนวิมาน...