เครือข่ายประชาชนส่งจดหมายเชิญอัครราชทูตจีนร่วมแลกเปลี่ยน-ลงพื้นที่ตรวจสอบมลพิษข้ามพรมแดนในเชียงราย

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 เครือข่ายประชาชนปกป้องลุ่มน้ำกก สาย รวก โขง ส่งจดหมายถึงเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เชิญให้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและลงพื้นที่กับประชาชนในจังหวัดเชียงราย เพื่อตรวจสอบและหารือถึงผลกระทบจากการปนเปื้อนสารโลหะหนักในแม่น้ำสายสำคัญของภาคเหนือ ซึ่งมีต้นน้ำอยู่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา

เนื้อหาในจดหมายระบุว่า แม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขงซึ่งไหลจากรัฐฉานเข้าสู่ประเทศไทย ได้รับผลกระทบจากการปนเปื้อนของสารโลหะหนัก โดยเฉพาะสารหนู จากกิจกรรมการทำเหมืองของบริษัทจีนที่ได้รับอนุญาตจากกลุ่มกองกำลังว้า (UWSA) และกลุ่มติดอาวุธอื่นในพื้นที่ โดยไม่มีมาตรการควบคุมตามมาตรฐานสากล

ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำล่าสุดของกรมควบคุมมลพิษ ระบุชัดว่า มีการปนเปื้อนของสารโลหะหนักเกินค่ามาตรฐานในทุกจุดที่ตรวจวัด สร้างความกังวลอย่างยิ่งต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำ

“พวกเราได้รับข้อมูลที่น่าเชื่อถือว่า มีบริษัทของชาวจีนที่ได้รับการอนุญาตของกองกำลังว้า (United Wa State Army -UWSA) และกลุ่มกองกำลังอื่น อาศัยช่องว่างทางกฎหมายเข้ามาดำเนินกิจกรรมขุดเจาะทำเหมืองแร่ ทั้งเหมืองทอง แมงกานีส และแรร์เอิร์ท โดยไร้กระบวนการที่มีมาตรฐานสากล”

เครือข่ายฯ ชี้ว่าการดำเนินธุรกิจเหมืองแร่ของบริษัทจีนในพื้นที่นอกกฎหมายของรัฐฉาน ไม่สอดคล้องกับนโยบาย “อารยธรรมเชิงนิเวศ” (ecological civilization) ที่รัฐบาลจีนพยายามส่งเสริมในระดับโลก และกำลังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความมั่นคงทางสุขภาพของประชาชนในภูมิภาค

“ขณะนี้หายนะได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนซึ่งไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลจีนที่ต้องการเป็นผู้นำทางสิ่งแวดล้อมของโลก และนโยบายส่งเสริม ecological civilization กำลังถูกทำลายเพราะการลงทุนของบริษัทจีนและคนจีนในเหมืองนอกกฎหมาย”

ในจดหมายยังอ้างถึงคำแถลงของโฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2568 ที่ยืนยันว่าจีนให้ความสำคัญต่อปัญหามลพิษข้ามพรมแดน และสนับสนุนให้ไทยและเมียนมาร่วมมือกันสอบสวนข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ พร้อมกำชับให้บริษัทจีนในต่างประเทศดำเนินธุรกิจตามกฎหมายของประเทศนั้นๆ

ด้วยเหตุนี้ เครือข่ายประชาชนฯ จึงขอเรียนเชิญเอกอัครราชทูตจีนเข้าร่วมเวทีพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับประชาชนในพื้นที่ ในวันที่ 21 มิถุนายน 2568 เวลา 15.30 น. ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย “ขัวศิลปะ” อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พร้อมทั้งลงพื้นที่สำรวจแม่น้ำที่ได้รับผลกระทบร่วมกัน

“พวกเราดื่มแม่น้ำสายเดียวกัน” คือถ้อยคำที่เครือข่ายฯ ใช้แสดงเจตจำนงในการสร้างความร่วมมือระหว่างไทยและจีนในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงใจและเป็นรูปธรรม โดยหวังว่าทูตจีนจะให้ความสำคัญกับเสียงของประชาชนและเข้ามามีส่วนร่วมในการปกป้องลุ่มน้ำสำคัญของภูมิภาคนี้

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง