13 มิถุนายน 2568 สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตออกแถลงการณ์คัดค้านแนวทางการสร้างฝายดักสารพิษในแม่น้ำกกที่รัฐบาลกำลังเดินหน้า โดยย้ำว่าเป็นการ “แก้ปัญหาปลายเหตุ” ที่เสี่ยงกระทบระบบนิเวศและใช้งบประมาณมหาศาลโดยไม่จัดการกับต้นตอปัญหาที่แท้จริง ซึ่งคือกิจกรรมเหมืองต้นน้ำในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ที่ดำเนินการโดยกลุ่มทุนจีน
จากการลงพื้นที่ของสมาคมฯ ตั้งแต่ต้นน้ำในตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ จนถึงบ้านสบกก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย พบว่าชาวบ้านในลุ่มน้ำกกแสดงความกังวลต่อโครงการฝายดักตะกอน โดยมองว่าอาจช่วยลดสารพิษได้เพียงระยะสั้น แต่ไม่สามารถหยุดการปล่อยสารพิษจากเหมืองได้จริง ทั้งยังซ้ำเติมปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการเปลี่ยนแปลงระบบไหลของแม่น้ำและผลกระทบต่อพันธุ์ปลาในฤดูวางไข่
สมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมฯ ระบุว่า การสร้างฝายเพื่อดักสารพิษไม่ควรเป็นทางเลือกแรกของรัฐ และการใช้เงินภาษีของประชาชนในการรองรับพิษจากเหมืองต้นน้ำที่ประชาชนไทยไม่ได้ก่อถือเป็นการผลักภาระที่ไม่เป็นธรรม
“ผู้ก่อมลพิษต้องเป็นผู้รับผิด ไม่ใช่ให้ชาวบ้านท้ายลำน้ำรับเคราะห์โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง”
ด้าน สายัณห์ ข้ามหนึ่ง ผู้อำนวยการสมาคมฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่แม่อายต้องซื้อน้ำดื่มน้ำใช้ในราคาสูงถึงเดือนละกว่า 3,000 บาทต่อครัวเรือน เนื่องจากไม่สามารถใช้น้ำจากแม่น้ำกกหรือบ่อน้ำตื้นได้อย่างปลอดภัย พร้อมย้ำว่า “เราไม่ได้มีหน้าที่เป็นโรงกำจัดสารพิษให้กับเหมืองของทุนจีนในประเทศเพื่อนบ้าน”
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เสนอแผนรับมือปนเปื้อนโลหะหนักด้วยการสร้างฝายดักตะกอนใต้น้ำ รวม 10 แห่ง วงเงิน 538 ล้านบาทในระยะสั้น และแผนระยะยาวรวม 7,640 ล้านบาทสำหรับประตูระบายน้ำ 13 แห่ง พร้อมงบบำรุงรักษาปีละกว่า 295 ล้านบาท แม้ยังอยู่ระหว่างออกแบบ แต่ได้สร้างความกังวลให้กับชุมชน
สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตจึงเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดแนวทางการสร้างฝายและเร่งเจรจาปิดเหมืองต้นน้ำในรัฐฉาน ซึ่งเป็นต้นเหตุของการปนเปื้อนข้ามพรมแดน พร้อมจัดหาน้ำสะอาดให้ชุมชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยด่วน โดยระบุว่า “ต่อให้สร้างฝายเป็นหมื่นแห่งก็ไร้ผล หากยังไม่จัดการกับต้นทางของสารพิษ”
ข้อเสนอของสมาคมฯ สอดคล้องกับจุดยืนของเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำกก สาย รวก โขง ที่ย้ำว่าการปิดเหมืองต้นน้ำคือคำตอบเดียวของการแก้ปัญหา และการสร้างฝายไม่ควรถูกใช้เป็นเครื่องมือเบี่ยงเบนความรับผิดชอบจากผู้ก่อมลพิษตัวจริง
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...