ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษา คุก 5 ปี ‘สุปรียา’ คดี ม.112-พ.ร.บ.คอมฯ ปมป้ายงบสถาบันฯ ก่อนให้ประกันชั้นฎีกา

Date:

วันที่ 14 สิงหาคม 2568 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดเชียงรายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5 ในคดีของ สุปรียา ใจแก้ว หรือ ‘แซน’ อดีตนักกิจกรรม และทีมงานพรรคเพื่อไทย จังหวัดเชียงราย ซึ่งถูกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (2) จากกรณีแขวนป้ายข้อความ ‘งบสถาบันฯ > งบเยียวยาประชาชน’ บริเวณห้าแยกพ่อขุนเม็งราย เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2564 และนำภาพไปโพสต์ในเพจ ‘Free Youth CEI-เชียงรายปลดแอก’

ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาจำคุก 3 ปีในข้อหามาตรา 112 และจำคุก 2 ปีในข้อหาพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ รวมโทษจำคุก 5 ปี พร้อมสั่งริบป้ายของกลาง หลังอ่านคำพิพากษา สุปรียาถูกนำตัวไปควบคุมที่ห้องขังใต้ถุนศาล ก่อนทนายความยื่นขอประกันชั้นฎีกา และเวลา 13.20 น. ศาลจังหวัดเชียงรายอนุญาตให้ประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์ 200,000 บาทจากกองทุนราษฎรประสงค์

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องทุกข้อหา เห็นว่าข้อความบนป้ายเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การใช้งบประมาณแผ่นดิน ไม่ปรากฏลักษณะหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ และไม่มีหลักฐานว่าเป็นข้อมูลเท็จ จึงไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 112 หรือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่ต่อมาอัยการอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ภาค 5 มีคำพิพากษากลับ โดยเห็นว่าพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ของกลาง และคำให้การตำรวจมีน้ำหนักเพียงพอที่จะยืนยันว่าจำเลยเป็นผู้แขวนป้ายและโพสต์ข้อความดังกล่าว

ศาลวินิจฉัยว่าข้อความบนป้ายแม้ไม่ระบุชื่อสถาบันพระมหากษัตริย์โดยตรง แต่จากสถานที่ติดป้ายใต้พระบรมฉายาลักษณ์และบริบทช่วงการระบาดของโควิด-19 ย่อมสื่อถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีลักษณะเปรียบเทียบลดทอนคุณค่า บั่นทอนความน่าเชื่อถือ จึงเข้าข่ายมาตรา 112 ส่วนการโพสต์ภาพพร้อมข้อความถือเป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

คดีก่อนหน้านี้ที่มีลักษณะคล้ายกันเกิดขึ้นในจังหวัดลำปาง จากการแขวนป้ายข้อความ ‘งบสถาบันกษัตริย์ > วัคซีน COVID-19’ ซึ่งศาลทั้งสองชั้นพิพากษายกฟ้อง เห็นว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์งบประมาณแผ่นดิน ไม่เข้าข่ายมาตรา 112 และคดีสิ้นสุดแล้ว

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

More like this
Related

1.4 พันล้านบาท สรุปมูลค่าความเสียหายริมแม่น้ำกก-สาย-รวก จากวิกฤตสารพิษเหมืองแร่

แม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำรวก เป็นแม่น้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตและเศรษฐกิจท้องถิ่นของจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ที่กำลังเผชิญกับวิกฤติมลพิษข้ามพรมแดนจากเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ส่งผลให้ความกังวลเรื่องคุณภาพน้ำและความปลอดภัยในการใช้ประโยชน์เพิ่มสูงขึ้น พร้อมขยายผลกระทบไปยังโครงสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นที่พึ่งพาแม่น้ำเหล่านี้ Lanner ประเมินมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากวิกฤติการปนเปื้อนสารพิษในแม่น้ำกก...

เมื่อ ‘เมืองน่าอยู่’ ยังไม่พอให้ใจได้พัก เด็กเชียงใหม่กับพื้นที่สร้างสรรค์ที่ยังหายไป 

เรื่องและภาพ: ธัญรดา หยุมปัญญา, ภีมราฎา เชื้อคำฟู, จตุรวิชญ์ แก้ววงค์วาน และอิทธิกร อรุณรัตน์ เชียงใหม่มักถูกพูดถึงเสมอว่าเป็น...

‘สุชาติ’ ลงพื้นที่แม่น้ำกก เร่งคลี่คลายพิษเหมืองแร่ปนเปื้อนด่วน คนริมกกสะท้อนรัฐเร่งเยียวยา ‘กัณวีร์’ แนะใช้กติกาโลกล้อมเมียนมา

ปัญหามลพิษจากเหมืองแร่ฝั่งเมียนมาที่ไหลปนเปื้อนลงแม่น้ำกกกำลังกลายเป็นวิกฤตสิ่งแวดล้อมและสังคมในพื้นที่ภาคเหนือของไทย สำนักข่าวชายขอบรายงานว่า 9 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา สุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม...

Photo Essay: ‘ข้าวต่อน้ำอ้อย’ เรื่องเล่าจากเสียงเคาะครกถึงหัวใจคนทำขนมบ้านสันปูเลย

เรื่องและภาพ: อภิชาติ พรหมเทศ ใต้ถุนยุ้งข้าวเก่าในหมู่บ้านสันปูเลย อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา กลิ่นหอมของข้าวคั่วลอยคลุ้งไปทั่วพื้นที่ แม่ทองใบ ยอดทน กำลังใช้ไม้พายคนข้าวในกระทะเหล็กบนเตาอั้งโล่อันเก่า...