ริมกกซวยซ้ำ! น้ำประปา ผัก ปลา ปนเปื้อนโลหะหนัก ชาวบ้าน 7 รายมีสารในปัสสาวะสูง จี้รัฐเร่งแก้ไข

Date:

ผ่านมากว่าครึ่งปีกับวิกฤตสารโลหะหนักปนเปื้อนในแม่น้ำกกที่ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อระบบนิเวศของสายน้ำ แต่กระทบไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนริมฝั่งแม่น้ำ เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การประกอบอาชีพอย่างการประมงและการเกษตร กลายเป็นปัญหาใหญ่ข้ามพรมแดนที่ไม่อาจแก้ได้ฝ่ายเดียว นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสายน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนมานับไม่ถ้วนกำลังเผชิญกับหายนะอย่างหนัก

แม่น้ำกกมีต้นกำเนิดอยู่ในเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ไหลเข้าสู่ประเทศไทยในตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ตลอดจนไหลผ่านอำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงเชียงรุ้ง อำเภอแม่จัน อำเภอดอยหลวง และไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย สถานการณ์ปัญหาเริ่มต้นในช่วงเดือนมีนาคม 2568 เมื่อชาวบ้านในพื้นที่ตำบลท่าตอน สังเกตเห็นว่าแม่น้ำกกมีสีขุ่นผิดปกติ กระทั่งได้มีการเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าตรวจสอบก็พบว่าแม่น้ำกกมีการปนเปื้อนสารหนูและสารตะกั่วเกินค่ามาตรฐาน 

ผลการตรวจสอบสารปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 สร้างความวิตกกังวลให้กับพี่น้องประชาชนที่อาศัยบริเวณริมฝั่งแม่น้ำและใช้ประโยชน์จากแม่น้ำเป็นอย่างมาก รวมไปถึงชุมชนที่ใช้น้ำประปาในการอุปโภคบริโภค ทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์ ที่รับน้ำมาจากแม่น้ำกก สถานการณ์ดังกล่าวยังกระทบไปถึงแม่น้ำสายและแม่น้ำรวกที่ไหลผ่านอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย กระทั่งในแม่น้ำโขง ก็มีการตรวจพบสารปนเปื้อนโลหะหนักเช่นเดียวกัน จากข้อสันนิษฐานต่างๆ ชี้ชัดไปถึงต้นสายปลายเหตุว่า เกิดขึ้นจากเหมืองแร่ที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำกกในเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ทว่าไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลเมียนมาโดยตรง นั่นจึงทำให้การเจรจาเป็นไปได้ยาก

รายงานจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 จังหวัดเชียงราย กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ระบุว่า หลังจากการตรวจพบสารหนูและสารตะกั่วในแม่น้ำกกนั้น ทางหน่วยงานได้มีการร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย และสำนักงานประมงจังหวัดเชียงรายในการลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำประปาในพื้นที่ชุมชนที่ใช้น้ำจากแม่น้ำกก จำนวน 6 อำเภอ ผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการในช่วงแรกพบว่า มีสารหนู 0.001 – 0.009 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งไม่เกินค่ากำหนด 

อย่างไรก็ตามได้มีการติดตามอย่างต่อเนื่องโดยการเก็บตัวอย่างน้ำประปาหมู่บ้าน พืชผัก และปลาน้ำจืด ส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 เชียงราย และสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพิ่มเติมอีกจำนวน 4 ครั้งในช่วงเดือน พฤษภาคม – สิงหาคม 2568  โดย

ครั้งที่ 1 วันที่ 19-21 พฤษภาคม
ครั้งที่ 2 วันที่ 16-18 มิถุนายน
ครั้งที่ 3 วันที่ 14-16 กรกฎาคม
ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 18-20 สิงหาคม 2568 

ซึ่งได้นำตัวอย่างน้ำประปาหมู่บ้าน น้ำบาดาล จากอำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงชัย อำเภอเวียงเชียงรุ้ง อำเภอแม่จัน อำเภอดอยหลวง อำเภอเชียงแสน และอำเภอแม่สาย จำนวน 28 แห่ง 

ตัวอย่างพืชผักในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงชัย อำเภอแม่จัน อำเภอดอยหลวง อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่สาย จำนวน 11 แห่ง 

และตัวอย่างปลาน้ำจืดในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงชัย อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่สาย จำนวน 9 แห่ง ไปตรวจวิเคราะห์หาสารตะกั่ว สารแคดเมียม และสารหนู 

ผลการทดสอบสุ่มตรวจพบการปนเปื้อนของ ‘สารตะกั่ว’ เกินมาตรฐาน ตามข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร ( mg/L) ในน้ำประปาหมู่บ้าน/น้ำบาดาล ทั้งหมด 18 แห่ง ประกอบด้วย

ผลการตรวจสารโลหะหนักในน้ำประปาหมู่บ้าน

  1. น้ำประปาหมู่บ้าน หมู่ 2 ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.014 (mg/L)
  2. น้ำประปาบาดาล เทศบาลตำบลดอยฮาง หมู่ 3 ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.015 (mg/L)
  3. น้ำประปาบาดาลบ้านโป่งนาคำ หมู่ 4 ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.014 (mg/L)
  4. น้ำบาดาลวัดทรายขาว หมู่ 3 ต.แม่ยาว อ.เมือง .เชียงราย สารตะกั่ว 0.016 (mg/L)
  5. น้ำบาลดาลนางปรารถนา คำพีระ หมู่ 4 ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.012 (mg/L)
  6. น้ำประปารพ.สต.บ้านป่ายางมน หมู่ 5 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.012 (mg/L)
  7. น้ำประปาบ้านหนองด่าน หมู่ 1 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.019 (mg/L)
  8. น้ำประปาชุมชนฮ่องลี่ หมู่ 2 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.016 (mg/L)
  9. น้ำประปาบ้านเมืองงิม หมู่ 4 ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.014 (mg/L)
  10. น้ำประปาหมู่บ้านสันต้นแทน หมู่ 12 ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.016 (mg/L)
  11. น้ำประปาหมู่บ้านไตรแก้ว หมู่ 8 ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.016 (mg/L)
  12. น้ำประปาหมู่บ้าน บ้านสันไทรงาม หมู่ 5 ต.ตงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.02 (mg/L)
  13. น้ำประปาบ้านแม่แพง หมู่ 4 ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.014 (mg/L)
  14. น้ำประปาบ้านวังเขียว หมู่ 8 ต.หนองป่าก่อ อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.018 (mg/L)
  15. น้ำประปาบ้านหนองกล้วย หมู่ 4 ต.หนองป่าก่อ อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.021 (mg/L)
  16. น้ำประปาหมู่บ้านวัดบ้านวังซาง หมู่ 10 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.018 (mg/L)
  17. น้ำประปาหมู่บ้านเวียงแก้ว หมู่ 5 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.012 (mg/L)
  18. น้ำประปาโรงเรียนบ้านเวียงแก้ว หมู่ 5 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย สารตะกั่ว 0.015 (mg/L)

ผลตรวจสารโลหะหนักใน พืช ผัก ปลา

ในขณะที่ผลการตรวจสารโลหะหนักในพืช ผัก ปลา จาก 14 ผลตรวจของแม่น้ำกก พบ 7 ผลตรวจที่มีสารโลหะหนักเกินมาตรฐานได้แก่ 

  1. บ้านป่ายางมน หมู่ 2 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย พบสารโลหะหนักเกินมาตรฐานในพืช ผัก ปลา ดังนี้ 

ผักบุ้ง: สารตะกั่ว 0.012 (mg/L), สารหนู 0.023 (mg/L)
มะเขือ: แคดเมียม 0.028 (mg/L)
ปลาตะเพียน: สารหนู 0.075 (mg/L)
ปลานวลจันทร์: สารหนู 0.103 (mg/L)

  1. บ้านสันต้นแหน หมู่ 12 ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย พบสารโลหะหนักเกินมาตรฐานในผัก ดังนี้ 

ผักบุ้ง: สารตะกั่ว 0.029 (mg/L), สารหนู 0.067 (mg/L)

  1. บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พบสารโลหะหนักเกินมาตรฐานในพืช ดังนี้ 

เงาะ: แคดเมียม 0.016 (mg/L) 

  1. บ้านเวียงกือนา หมู่ 2 ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย พบสารโลหะหนักเกินมาตรฐานในผัก ดังนี้ 

ผักบุ้ง: 0.286 (mg/L)

นักวิชาการ–ส.ส.เชียงใหม่จี้รัฐเร่งเปิดผลตรวจสุขภาพประชาชนลุ่มน้ำกก

10 ตุลาคม 2568 ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ พรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กถึงสถานการณ์ปัญหาดังกล่าวว่าผลการตรวจน้ำประปาหมู่บ้านในพื้นที่ริมแม่น้ำกกโดยกระทรวงสาธารณสุขนั้น ตรวจพบสารตะกั่วปนเปื้อนเกินมาตรฐานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมิถุนายน กรกฎาคม กระทั่งล่าสุดในเดือนสิงหาคม ที่มีค่าสารตะกั่วปนเปื้อนในน้ำประปาหมู่บ้านถึง 18 หมู่บ้าน นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะของประชาชน

นอกเหนือจากการตรวจสอบน้ำประปาแล้ว เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม The Reporters รายงานว่านักวิชาการได้ออกมาเรียกร้องให้กรมควบคุมโรคและกรมอนามัยเปิดเผยผลการตรวจสุขภาพประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำกก จังหวัดเชียงราย หลังจากเก็บตัวอย่างไปแล้ว 2 เดือน โดยกรมควบคุมโรคและกรมอนามัยได้เก็บข้อมูลตรวจสุขภาพชาวบ้านลุ่มน้ำกกเพื่อหาสารปนเปื้อน ตรวจคัดกรองประชาชนจำนวน 2,000 ตัวอย่างในพื้นที่ และส่งผลตรวจไปยังห้องปฏิบัติการจำนวน 322 ตัวอย่าง พบว่ามี 7 รายที่มีการปนเปื้อนสารโลหะหนักในปัสสาวะสูง ทั้งนี้ทั้งนั้นยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจซ้ำเพื่อหาแหล่งที่มาและยังไม่ได้มีรายงานผลอย่างชัดเจน

สมพร เพ็งค่ำ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาระบบประเมินผลกระทบทางสุขภาพโดยชุมชน (Community Health Impact Assessment Platform หรือ CHIA Platform) เสนอกับสำนักข่าวชายขอบว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ในการดูแลบริหารจัดการระบบประปาชุมชน จำเป็นต้องดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมและเร่งจัดหาแหล่งน้ำสะอาดให้กับประชาชนเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะน้ำประปาโรงเรียนที่ส่งผลกระทบต่อเด็กโดยตรง ควรมีการตรวจสอบคุณภาพแหล่งน้ำดิบที่ใช้ในการทำน้ำประปา ปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบบำบัด หากระบบไม่สามารถจัดการโลหะหนักที่ปนเปื้อนมากับน้ำได้ ต้องจัดหาน้ำสะอาดจากแหล่งใหม่มาให้ประชาชนใช้ ร่วมมือกับกรมอนามัย กรมควบคุมโรคในการประเมินภาวะสุขภาพประชาชนที่ใช้น้ำจากระบบประปาที่ตรวจพบการปนเปื้อน โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์และเด็กเล็ก รวมไปถึงการเตือนให้ประชาชนระมัดระวังการบริโภคอาหารในเขตพื้นที่เสี่ยง แม้ว่าผลการตรวจสอบการปนเปื้อนโลกหะหนักในพืชผักจะมีปริมาณน้อยไม่เกินค่ากำหนดก็ตาม ที่สำคัญในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีประชาชนกลุ่มเปราะบางยากจนต้องพึ่งพาอาหารจากธรรมชาติ ดังนั้นเรื่องปากท้องของประชาชนนับว่าสำคัญเร่งด่วนภาครัฐต้องเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือเช่นเดียวกัน

การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ได้สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในพื้นที่โดยรายงานแผนการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำประปา ระบุว่าแผนในระยะสั้นได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตและควบคุมคุณภาพน้ำอย่างเข้มงวดให้ปลอดภัยต่อการอุปโภคบริโภค และแผนระยะยาวจะมีการดำเนินการก่อสร้างสถานีผลิตน้ำแห่งใหม่ 2 โครงการ โดยการประปาส่วนภูมิภาคสาขาแม่สาย สร้างสถานีผลิตน้ำประปาแห่งใหม่โดยใช้น้ำดิบจากแม่น้ำโขง 

ขณะเดียวกันมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อ้างถึงการตรวจสอบคุณภาพแม่น้ำโขงของกรมควบคุมมลพิษและคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) ว่ามีการพบสารปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายจึงได้แจ้งถึงการเตรียมแผนสำรองไว้ ระบุว่าจะใช้แหล่งน้ำดิบจากแม่น้ำคำ ทว่ายังไม่สามารถยืนยันความชัดเจนได้ ส่วนโครงการที่ 2 การประปาส่วนภูมิภาคสาขาเชียงรายที่ปัจจุบันใช้น้ำดิบจากแม่น้ำกก ได้เปลี่ยนแหล่งน้ำใหม่โดยการขอใช้น้ำจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ลาว อำเภอแม่ลาว ซึ่งอยู่ในระหว่างการรอจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาล หากโครงการแล้วเสร็จจะสามารถให้บริการน้ำประปาครอบคลุมในพื้นที่ให้บริการของ กปภ.สาขาเชียงรายและขยายพื้นที่บริการประปาในพื้นที่ อำเภอแม่ลาวพื้นที่ใกล้เคียง

อย่างไรก็ตาม ข้อกังวลของประชาชนยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องหากภาครัฐหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่สามารถสื่อสารถึงปัญหาได้อย่างตรงไปตรงมา สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวชายขอบว่าการสื่อสารเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนสำคัญกับประชาชนเป็นอย่างมาก การใช้ภาษาทางการอาจสร้างความสับสนในข้อมูลได้ โดยเฉพาะความเข้าใจเรื่องปริมาณของสารปนเปื้อนในแหล่งน้ำที่ใช้อุปโภคบริโภค 

แม้ผลการทดสอบจะพบว่ามีสารปนเปื้อนโลหะหนักไม่เกินมาตรฐาน แต่ประชาชนกลับยังไม่วางใจว่าจะไม่มีความเสี่ยงอื่น เช่น การตรวจพบสารแม้เพียงเล็กน้อยจะสามารถสะสมและส่งผลต่อสุขภาพในอนาคตได้หรือไม่ ซึ่งจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ไม่มีระดับการสัมผัสสารตะกั่วใดที่ปราศจากอันตราย นั่นหมายความว่าแม้การสัมผัสหรือได้รับสารเพียงเล็กน้อยก็นับว่าเป็นความเสี่ยงเช่นกัน โดยเฉพาะเป็นอันตรายต่อเด็กเล็กและสตรีวัยเจริญพันธุ์ สารตะกั่วส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย ระบบประสาท ความดันโลหิต หัวใจ หลอดเลือด รวมไปถึงพัฒนาการการเจริญเติบโตของเด็ก และสามารถกระจายไปยัง ตับ ไต กระดูก สะสมในร่างกายระยะยาวได้

สถานการณ์ปัญหายังไม่หยุดนิ่งและอาจยืดยาวต่อเนื่องไปในภายภาคหน้า ความวิตกกังวลไม่อาจลบเลือนหายไปกับสายน้ำ ประชาชนต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความเสี่ยงด้านสุขภาพรวมไปถึงความไม่มั่นคงในการใช้ชีวิตโดยไร้การเหลียวแลจากภาครัฐ ไร้ซึ่งมาตรการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการของรัฐที่มองข้ามคุณภาพชีวิตและสิทธิในการเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดของประชาชน หากไม่เร่งแก้ไขต้นตอของปัญหาผลกระทบอาจรุนแรงขึ้นอย่างแน่นอน

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

More like this
Related

วิกฤตชาวประมงปากน้ำกก ยื่นข้อเสนอ 4 ข้อ รัฐเยียวยา-เร่งเจรจาหยุดสารพิษ

​14 ตุลาคม 2568 ชาวประมงจากสามชุมชนปากแม่น้ำกก ได้แก่ บ้านเชียงแสนน้อย บ้านสบคำ ตำบลเวียง และบ้านสบกก...

เปิดโผผู้ว่าหน้าใหม่ เชียงใหม่-เชียงราย-แม่ฮ่องสอน-ลำปาง ย้ายแทนหน้าเก่าหลังแต่งตั้งได้ไม่ถึง 2 เดือน

มติคณะรัฐมนตรีล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 มีคำสั่งให้โยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 45 ตำแหน่ง ในพื้นที่...

ชาวกะเบอะดินจัดงาน ‘ครบรอบ 6 ปี คัดค้านเหมืองแร่ถ่านหินอมก๋อย’ ยืนยันจะปกป้องผืนดินด้วยชีวิต

ภาพ: วชิรญาณ์ วิรัชบุญญากร เสียงตะโกน “เหมืองแร่ออกไป! เหมืองแร่ออกไป!” ดังก้องไปทั่วผืนนา บ้านกะเบอะดิน อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่  11...

1.4 พันล้านบาท สรุปมูลค่าความเสียหายริมแม่น้ำกก-สาย-รวก จากวิกฤตสารพิษเหมืองแร่

แม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำรวก เป็นแม่น้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตและเศรษฐกิจท้องถิ่นของจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ที่กำลังเผชิญกับวิกฤติมลพิษข้ามพรมแดนจากเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ส่งผลให้ความกังวลเรื่องคุณภาพน้ำและความปลอดภัยในการใช้ประโยชน์เพิ่มสูงขึ้น พร้อมขยายผลกระทบไปยังโครงสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นที่พึ่งพาแม่น้ำเหล่านี้ Lanner ประเมินมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากวิกฤติการปนเปื้อนสารพิษในแม่น้ำกก...