‘แม่น้ำสาย’ ถือเป็นหนึ่งในแม่นํ้าสำคัญที่กั้นพรมแดนระหว่างจังหวัดเชียงรายของไทยและเมืองท่าขี้เหล็กในรัฐฉานของเมียนมา โดยบริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำเต็มไปด้วยกิจกรรม การค้าขาย และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ทำให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นหัวใจของเศรษฐกิจท้องถิ่น
สืบเนื่องมาจากสถานการณ์แม่น้ำกกปนเปื้อนสารพิษจากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่) จึงนำมาสู่การตั้งถามต่อแม่น้ำสาขาอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับชายแดนเมียนมา ว่ามีแม่น้ำใดเชื่อมโยงอีกบ้าง จากกรณีดังกล่าว พบว่าแม่น้ำสาขาอื่นที่เชื่อมโยงกับชายแดนเมียนมาอีก 2 สาขาแม่น้ำ คือ 1. แม่น้ำสาย และ 2. แม่น้ำรวก อย่างไรก็ตาม รายงานชิ้นนี้จะมุ่งเน้นไปที่การประเมินความเสียหายของ ‘แม่น้ำสาย’ เป็นหลัก แล้วจึงค่อยไปประเมินความเสียหายของ ‘แม่น้ำรวก’ ในรายงานชิ้นต่อไป
จากผลตรวจค่าสารโลหะหนักในแม่น้ำสายล่าสุดเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 พบว่าแม่น้ำสายยังพบตะกั่วค่าสูงเกินค่ามาตรฐานฯ บริเวณ ต.แม่สาย อ.แม่สาย และสะพาน มิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 2 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีค่าอยู่ในช่วง 0.065 – 0.074 มก./ล. และแมงกานีสพบว่าเกินมาตรฐานผลการตรวจวัดครั้งที่ 9 ค่าสูงเกินค่ามาตรฐานฯ ที่ สะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 2
และหากสถานการณ์ทวีความรุนแรงมากขึ้นจนทำให้แม่น้ำสายไม่สามารถใช้งานเพื่อกิจกรรมการเกษตร และประมง ได้อีก วิกฤตในครั้งนี้จะส่งผลโดยตรงต่อคนในกลุ่มอาชีพนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อ่านรายงาน 68 ล้านบาท เปิดมูลค่าความเสียหายแม่น้ำสายปนเปื้อนสารพิษเหมืองแร่ เกษตร 56 ล้านต่อปี ประมง 12 ล้านต่อปี https://www.lannernews.com/17092568-01/
ชุดข้อมูลนี้สามารถนำไปต่อยอดในทางสาธารณะที่ไม่แสวงหาผลกำไรได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องขออนุญาต ขอเพียงการอ้างอิงแหล่งที่มา
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...