น้ำสาละวินปนเปื้อนพิษ ชุมชน–นักวิชาการ–ภาคประชาชน จี้รัฐเปิดข้อมูล–คุ้มครองสุขภาพคนพื้นที่ ก่อนชีวิตพัง

Date:

22 ธันวาคม 2568 ที่ห้องประชุมสาละวิน องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน สมาคมฟื้นฟูและพัฒนาลุ่มน้ำสาละวิน จัดกิจกรรมลงพื้นที่แม่น้ำสาละวิน บริเวณพรมแดนไทย–เมียนมา ในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียงและอำเภอสบเมย เพื่อเก็บข้อมูลและแลกเปลี่ยนสถานการณ์กรณีการปนเปื้อนสารโลหะหนักในแม่น้ำสาละวิน

ในช่วงเช้ามีการจัดประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำสาละวินทั้งฝั่งประเทศไทยและฝั่งรัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา โดยมีนักวิชาการ นักวิจัย และเครือข่ายด้านสิ่งแวดล้อมเข้าร่วม พร้อมมีสื่อมวลชนหลายสำนักร่วมสังเกตการณ์

เพียรพร ดีเทศน์ กรรมการบริหารมูลนิธิแม่น้ำและสิทธิ (Rivers & Rights) กล่าวว่า แม่น้ำสาละวินเป็นพื้นที่เชื่อมต่อชุมชนกะเหรี่ยงสองฝั่งพรมแดน แต่ประชาชนกลับได้รับข้อมูลสถานการณ์คุณภาพน้ำค่อนข้างจำกัด โดยการตรวจวัดจากหลายหน่วยงานให้ผลไม่สอดคล้องกัน ขณะที่การตรวจของทีมวิจัยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในช่วงฤดูน้ำหลากเดือนกันยายน พบสารปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐาน

เธอระบุว่า จากการติดตามพื้นที่ต้นน้ำ พบการทำเหมืองทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เมื่อฝนตก ตะกอนและสารพิษจะไหลลงสู่ลำน้ำ ส่งผลให้คุณภาพน้ำลดลงและเกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาว แม้ปัจจุบันประชาชนจะยังไม่ได้ใช้น้ำจากแม่น้ำสาละวินเพื่อการดื่มโดยตรง แต่จำเป็นต้องมีการสื่อสารข้อมูลอย่างชัดเจนจากภาครัฐ เพื่อให้ชุมชนสามารถป้องกันผลกระทบได้ทันท่วงที

นิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ และผู้อำนวยการสถาบันองค์ความรู้ท้องถิ่นโฮงเฮียน กล่าวว่า แม่น้ำโขงและแม่น้ำสาละวินเป็นแม่น้ำพี่น้องที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาหิมาลัยเหมือนกัน แต่ลุ่มน้ำโขงเผชิญการสร้างเขื่อนต่อเนื่องมานาน ส่งผลให้ความอุดมสมบูรณ์และความมั่นคงทางอาหารลดลงอย่างชัดเจน

เขาเตือนว่า ปัจจุบันปัญหาที่รุนแรงยิ่งกว่าการลดลงของทรัพยากรคือการปนเปื้อนสารพิษจากกิจกรรมเหมือง ซึ่งมีแหล่งกำเนิดข้ามพรมแดนและเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมโลก หากไม่เร่งสร้างความร่วมมือในระดับลุ่มน้ำและอนุภูมิภาค ผลกระทบจะย้อนกลับมาทำลายวิถีชีวิตและสุขภาพของผู้คนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ด้าน ผศ.ดร.ว่าน วิริยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า จากการตรวจคุณภาพน้ำแม่น้ำสาละวินอย่างต่อเนื่องจำนวน 4 ครั้ง พบการปนเปื้อนโลหะหนักเกินค่ามาตรฐานในหลายจุด โดยเฉพาะสารหนู ซึ่งมีแนวโน้มเชื่อมโยงกับกระบวนการทำเหมืองในพื้นที่ต้นน้ำที่ใช้สารเคมีรุนแรงในการสกัดแร่ สารเคมีที่ไม่ได้ถูกนำไปใช้จะถูกปล่อยทิ้งและไหลลงสู่ลำน้ำ ส่งผลให้โลหะหนักสะสมในน้ำ ตะกอน และระบบนิเวศ

เขาระบุว่า ผลกระทบจากโลหะหนักอาจไม่แสดงอาการในระยะสั้น แต่จะสะสมผ่านห่วงโซ่อาหารจากสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กไปสู่ปลาและกุ้ง ก่อนย้อนกลับมาสู่มนุษย์ โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้น้ำและบริโภคสัตว์น้ำจากแม่น้ำเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ยังสามารถลดความเสี่ยงเฉพาะหน้าได้ เช่น การกรองน้ำก่อนนำไปใช้ และการหลีกเลี่ยงบริโภคส่วนของสัตว์น้ำที่มีการสะสมโลหะหนักสูง เช่น หัว เครื่องใน และพุงปลา

ขณะที่ สมพร เพ็งค่ำ นักวิจัยอิสระและผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาระบบประเมินผลกระทบทางสุขภาพโดยชุมชน ระบุว่า สารพิษหลักที่พบในแม่น้ำสาละวินคือสารหนู ซึ่งเป็นโลหะหนักที่พบได้ทั้งในตะกอนและน้ำ โดยเฉพาะช่วงน้ำขุ่นหรือน้ำหลากจะมีความเสี่ยงสูง สารหนูสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งจากการกินอาหารและน้ำ รวมถึงการซึมผ่านผิวหนังหรือเยื่ออ่อน โดยเฉพาะในเด็กเล็กหรือผู้ที่มีบาดแผล

สมพรอธิบายว่า พิษจากสารหนูมักไม่แสดงอาการทันที แต่จะสะสมในร่างกายจากการรับสัมผัสซ้ำๆ เป็นเวลานาน และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังและมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งผิวหนัง ตับ ไต และกระเพาะปัสสาวะ จึงควรลดการรับสารพิษตั้งแต่ต้นทาง ทั้งการใช้น้ำและการบริโภคปลาและผักจากลุ่มน้ำ เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว

ซอเหล่อเก ตัวแทนชาวบ้านอิตุท่า ค่ายผู้หนีภัยสงครามฝั่งรัฐกะเหรี่ยง ระบุว่า ปัญหาที่ชุมชนกำลังเผชิญเป็นผลจากการแสวงหาผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจ โดยเฉพาะการทำเหมืองที่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนในแม่น้ำ ซึ่งเป็นการทำร้ายพื้นที่และวิถีชีวิตของประชาชน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไขอย่างจริงจัง ก่อนที่ผลกระทบด้านสุขภาพจะรุนแรงมากขึ้น

“การทำเหมืองที่ปนเปื้อนแบบนี้ คือการทำร้ายพื้นที่ ทำร้ายแผ่นดินของเรา ปัญหานี้รัฐบาลต้องเป็นคนแก้ หากไม่แก้ก็คือการทำร้ายประชาชน” ซอเหล่าเก

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

น้ำท่วมขังเขตเมือง น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง สำรวจน้ำท่วมภาคเหนือ 5 พื้นที่ กับคำถามว่าทำไมน้ำถึงยังท่วมอยู่ เมื่อปัญหาไม่ใช่แค่ฝนตกหนัก?

เรื่องและภาพ: วีรภัทร เหลาเกิ้มหุ่ง Summary ปัญหาน้ำท่วมเป็นสถานการณ์ที่เกิดซ้ำทุกปีในช่วงฤดูฝน ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ และโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ จากการสำรวจพื้นที่น้ำท่วมใน 17 จังหวัดภาคเหนือ...

คนเหนือฮู้ก่อ บ่ะต้องปิ๊กบ้านก่เลือกตั้งได้! ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ ก่อนหมดเขต 5 มกรา 2569 

อย่างตี้ฮู้กั๋นว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดหื้อ วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันเข้าคูหาเลือกตั้งโดยพร้อมเพรียงกันของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศไทย...

MMN ออกแถลงการณ์ ‘วันผู้ย้ายถิ่นสากล’ ชี้นโยบายย้ายถิ่นที่เป็นธรรมคือจุดแข็งร่วมลุ่มน้ำโขง ร้องรัฐไทยคุ้มครองสิทธิแรงงานข้ามชาติ

18 ธันวาคม 2568 เครือข่ายการย้ายถิ่นในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Mekong Migration Network: MMN) ออกแถลงการณ์เนื่องในวันผู้ย้ายถิ่นสากล...

หยาดเหงื่อใต้ฐานราก จาก ‘แรงงานข้ามชาติ’ สู่ ‘ผู้สร้างเมือง’ ที่ทำให้ไทยเดินหน้า บันทึกชีวิต ความฝัน และฟันเฟืองที่มองไม่เห็นของแรงงานไทใหญ่

เรื่อง: กุลธิดา กระจ่างกุล / ภาพ: จิราเจต จันทร์คำ  แรงงานข้ามชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะจากเมียนมา ถือเป็นกลไกสำคัญที่ขาดไม่ได้...