23 มิถุนายน 2568 ชาวบ้านและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนจากชุมชนบ้านสันตับเต่า อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน จำนวน 4 คน ได้แก่ วัยศรี โปธาคำ, ประเวทย์ บังคม, วิศรุต ศรีจันทร์ และศราวุฒิ ปินกันทา เข้ารายงานตัวต่อศาลจังหวัดลำพูน ตามหมายนัดในคดีข้อหาขัดขวางเจ้าหน้าที่ ระหว่างเหตุการณ์ต่อต้านการรังวัดที่ดินเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ทำกินและที่อยู่อาศัยของชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง
อัยการลำพูนมีคำสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ในข้อหา “ร่วมกันขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่” และ “ไม่อำนวยความสะดวกต่อเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย” โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 คนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และได้รับการประกันตัวในวงเงินคนละ 10,000 บาท
สำหรับการไต่สวนวันนี้ ศาลได้ชี้แจงรายละเอียดข้อกล่าวหาและแนวทางดำเนินคดี พร้อมมีคำสั่งเลื่อนนัดออกไป เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาหารือกับชุมชนและทีมกฎหมายถึงแนวทางการต่อสู้คดี โดยศาลนัดชี้แจงจุดยืนอีกครั้งในวันที่ 18 กรกฎาคม 2568
คดีนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อพิพาทที่ดินในพื้นที่บ้านสันตับเต่า ที่ยืดเยื้อมายาวนาน หลังชาวบ้านร่วมกับ สกน. รวมตัวกันปฏิรูปที่ดินประมาณ 250 ไร่ ตั้งแต่ปี 2546 เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนที่ดินทำกิน มีการจัดสรรที่ดินครอบครัวละ 3–5 ไร่ แต่ต่อมา มีนายทุน/นักการเมืองท้องถิ่นอ้างสิทธิครอบครองและยื่นรังวัดพร้อมออกโฉนดซ้อนทับพื้นที่ท้องถิ่นอย่างไม่เป็นธรรม

ทั้งนี้เมื่อ 29 พฤษภาคม 2567 สกน. ลำพูน ได้ยื่นหนังสือคัดค้านสำนักงานที่ดินฯ ให้หยุดรังวัด เพราะชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์สูงสุดกว่า 24 ปี และทุกรอบการรังวัดของนายทุนมักนำไปสู่การฟ้องร้องชาวบ้านหลายราย มีคดีอาญาถึง 4 รายที่ศาลพิพากษายกฟ้อง ขณะที่คดีแพ่งอีก 2 ราย ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ต่อมา เมื่อ 13 สิงหาคม 2567 นักปกป้องสิทธิที่ดินทั้ง 4 คน ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.บ้านโฮ่ง หลังสำนักงานที่ดินแจ้งเช่นเคยว่า “ขัดขวาง” เจ้าหน้าที่ โดย วิศรุต ชี้แจงว่าไม่ได้ขัดขวาง เนื่องจากกำลังคัดค้านนายทุน ที่นำโดย ตรี ด่านไพบูลย์ ซึ่งมีผลประโยชน์ในพื้นที่
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...