2 ปีที่เขากะลา: ชาวบ้านนครสวรรค์จัดกิจกรรมรำลึก 2 ปีการคัดค้านเหมืองเขากะลา เมื่อการบวชป่าคือคำประกาศสิทธิ และการเรียกผีคือการยืนยันประชาธิปไตย

Date:

ภาพ: KNACK กลุ่มสนับสนุนสังคมประชาธิปไตยที่เป็นธรรมและเท่าเทียม 

22 กรกฎาคม 2568 ชาวบ้านจากหลายชุมชนในจังหวัดนครสวรรค์จัดกิจกรรม ‘2 ปีที่เขากะลา: ประชาธิปไตยจากฐานรากกับการปกป้องทรัพยากรและสิทธิชุมชน’ ณ ลานเชิงเขากะลา ตำบลพระนอน อำเภอเมืองนครสวรรค์ เพื่อรำลึกถึงการต่อสู้คัดค้านโครงการเหมืองแร่ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของชุมชนในพื้นที่

กิจกรรมจัดขึ้นโดยความร่วมมือของเครือข่ายชุมชนปกป้องทรัพยากรนครสวรรค์ ชาวบ้านจากเขากะลา หัวหวาย และหนองโพ ซึ่งเป็นชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการขอประทานบัตรเหมืองแร่บริเวณเขากะลา โดยกิจกรรมในครั้งนี้มีทั้งพิธีกรรมทางความเชื่อ เวทีเสวนา นิทรรศการ และการอ่านแถลงการณ์ร่วม ย้ำจุดยืนของชาวบ้านในการปกป้องทรัพยากรท้องถิ่น

พื้นที่เขากะลาถูกกำหนดให้เป็นแหล่งหินอุตสาหกรรมเมื่อปี 2540 ตาม ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 7 ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากนโยบายของรัฐที่เริ่มตั้งแต่ มติคณะรัฐมนตรี 13 มิถุนายน 2538 ที่เห็นชอบให้กิจกรรมระเบิดหินแบบเดิมเข้าสู่ระบบเหมืองแร่ภายใต้ พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 นับแต่นั้น กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมทรัพยากรธรณี ได้เร่งรัดการประกาศพื้นที่เหมืองและอนุญาตประทานบัตรอย่างต่อเนื่อง

ก่อนปี 2538 พื้นที่เขานมนางและเขากะลา ในตำบลเขากะลา อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เคยเป็นจุดที่มีการระเบิดหินโดยผู้ประกอบการในพื้นที่อย่างน้อย 3 ราย ได้แก่ ศิลาเจริญทรัพย์, ศรีสาคร และสุภกิจ ซึ่งดำเนินการในลักษณะการระเบิดย่อยหิน โดยยังไม่มีระบบประทานบัตรตาม พ.ร.บ.แร่รองรับอย่างชัดเจน

ต่อมาในวันที่ 13 มิถุนายน 2538 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนระบบจากการระเบิดหินแบบเดิมไปสู่การทำเหมืองหินภายใต้การควบคุมของ พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 กระทรวงอุตสาหกรรมจึงเริ่มกำหนดแผนปฏิบัติการ พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดแหล่งหินเพื่อการทำเหมืองหินอุตสาหกรรม โดยอาศัยข้อมูลจากหลายหน่วยงานรัฐ เช่น กรมที่ดิน กรมป่าไม้ สผ. และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานฯ

ทำให้ต่อมาในช่วงปี 2538–2539 มีการยื่นขอประทานบัตรจากเอกชนหลายรายในพื้นที่เขากะลา ได้แก่ หจก.อุทัยเมืองทอง (นว51/2538), บจก.ชัยพฤกษ์คอนสตรัคชั่น (นว33/2538) และ หจก.ศิลานครสวรรค์ (นว23/2539)

จากนั้นในปี 2539 กฎกระทรวงฉบับที่ 77 ถูกประกาศใช้ กำหนดให้กิจการผลิตหินเพื่อก่อสร้างทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติแร่ ซึ่งกลายเป็นสัญญาณว่า ‘เหมืองหิน’ กำลังจะกลายเป็นอุตสาหกรรมที่ถูกผลักดันอย่างจริงจังทั่วประเทศ รวมถึงพื้นที่เขากะลา

เอกชนหลายรายเริ่มยื่นขอประทานบัตรเหมืองหินในพื้นที่นี้ และในวันที่ 1 ตุลาคม 2540 กระทรวงอุตสาหกรรมประกาศอย่างเป็นทางการให้จังหวัดนครสวรรค์เป็นหนึ่งใน 17 จังหวัดแหล่งหินอุตสาหกรรม รวมถึงเขากะลา เขานมนาง และเขาพระไกร พื้นที่ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นป่าชุมชนกำลังถูกเปลี่ยนสภาพเป็นเขตอุตสาหกรรม

ในปี 2543 บริษัทเอกชนทั้งสามรายได้รับอนุญาตประทานบัตรเหมืองหินชนิดหินปูน ระยะเวลา 20 ปี ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สะท้อนความขัดแย้งระหว่างการพัฒนาเชิงอุตสาหกรรมและสิทธิของชุมชนที่อาศัยในพื้นที่

ต่อมาในช่วงปี 2559 ถึง 2565 มีการต่ออายุและยื่นขอประทานบัตรเหมืองหินใหม่หลายครั้ง โดยมีบริษัทและห้างหุ้นส่วนจำกัดหลากหลายรายที่เข้ามาขอใบอนุญาต ทั้งการขออนุญาตใหม่และการต่ออายุที่มีอายุยาวนานสูงสุดถึง 30 ปี การเคลื่อนไหวเหล่านี้ยิ่งตอกย้ำความตึงเครียดและความกังวลของชุมชนที่ต้องเผชิญกับผลกระทบจากเหมืองแร่ในพื้นที่ของตน

เส้นทางการต่อสู้ของชาวบ้านเขากะลา

ในเดือนตุลาคม 2566 หลังพบว่ามีบริษัทเอกชนรายใหม่ยื่นขอประทานบัตรในพื้นที่กว่า 75 ไร่ เพื่อนำไปใช้ทำเหมืองหินปูน ชาวบ้านจึงเริ่มจัดเวทีให้ข้อมูลในเดือนถัดมา และก่อตั้ง “เครือข่ายชุมชนปกป้องทรัพยากรนครสวรรค์” เพื่อรวบรวมข้อมูลผลกระทบและยื่นหนังสือคัดค้านต่อสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด จากนั้นกระบวนการเคลื่อนไหวดำเนินต่อเนื่องในหลายมิติ ดังนี้

  • ตุลาคม 2566: ชาวบ้านพบการยื่นขอประทานบัตรเหมืองแร่บริเวณเขากะลา เนื้อที่กว่า 75 ไร่ โดยเป็นกิจการทำเหมืองหินปูนเพื่อใช้ในงานก่อสร้างของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
  • ธันวาคม 2566 – มกราคม 2567: หน่วยงานรัฐจัดเวทีประชาคมเพื่อสอบถามความคิดเห็นประชาชน โดยชาวบ้านส่วนใหญ่แสดงความไม่เห็นด้วยกับโครงการเหมืองแร่
  • ต้นปี 2568: เครือข่ายชุมชนประสานงานกับนักกฎหมายและองค์กรสิ่งแวดล้อม เตรียมยื่นคัดค้านในชั้นกระบวนการขอประทานบัตร พร้อมเปิดเผยข้อมูลผลกระทบเชิงระบบ
  • กรกฎาคม 2568: ชาวบ้านยืนยันว่าแม้ประทานบัตรยังไม่ถูกอนุญาต แต่ยังคงติดตามอย่างใกล้ชิด และจัดกิจกรรมครบรอบ 2 ปีของการเคลื่อนไหวปกป้องพื้นที่

รวมพลังชุมชนเพื่อการยืนยันสิทธิและปกป้องเขากะลา

กิจกรรมในวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 เริ่มต้นด้วยพิธีกรรมทางศาสนาและความเชื่อ ทั้งพิธีพราหมณ์ พิธีสงฆ์ และพิธีเรียกผีเพื่อประกาศเขตกำหนดพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของชุมชน ต่อด้วยพิธีบวชป่า เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ

ช่วงบ่ายมีการจัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนบทเรียนจากผู้นำชุมชนและนักศึกษาที่ร่วมขับเคลื่อน พร้อมเปิดพื้นที่สำหรับกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น การเขียนป้ายผ้า การแบ่งปันอาหารท้องถิ่น และนิทรรศการข้อมูลผลกระทบจากโครงการเหมืองแร่

ก่อนจบกิจกรรม ตัวแทนชุมชนร่วมกันอ่านแถลงการณ์ โดยมีข้อเรียกร้องสำคัญที่ชุมชนส่งถึงหน่วยงานรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนี้

1.หน่วยงานรัฐและองค์กรปกครองส่วนทองถิ่น รับรองและสนับสนุนกระบวนการประกาศ “เขตอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ-ภูมินิเวศวัฒนธรรมเขากะลา” แห่งนี้ 

2. เพิกถอนเขตแหล่งแร่ออกจากแผนแม่บท ยุติการอนุญาตโครงการเหมืองแร่หรือการใช้ประโยชน์ เชิงอุตสาหกรรมในพื้นที่ดังกลาวทุกกรณี 

3. สนับสนุนกลไกการจัดการทรัพยากรธรรมชาติโดยชุมชนเพื่อชุมชน และรับรองความชอบธรรมของ คณะกรรมการเขตอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติแห่งนี้อย่างจริงใจ 

4. ผลักดันให้มี “ขอบัญญัติทองถิ่น” หรือมาตรการทางกฎหมาย ที่สอดคลองกับเจตจํานงของ ประชาชน 

5. สร้างกลไกและกระบวนการมีสวนรวมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย คํานึงถึงขีดจํากัดทางนิเวศและคุณภาพชีวิตวัฒนธรรมของชุมชน ได้อยางเป็นธรรมและยั่งยืน

ทั้งนี้ ตัวแทนชุมชนยังได้ยืนยันว่าการปกป้องเขากะลาไม่ใช่เพียงการหยุดโครงการเหมือง แต่คือการเรียกร้องให้รัฐเคารพสิทธิของชุมชนในการจัดการทรัพยากร และฟังเสียงประชาชนอย่างแท้จริง

รายการอ้างอิง

เครือข่ายชุมชนปกป้องทรัพยากรนครสวรรค์, กลุ่มนิเวศพิทักษ์เขากะลา. (2567). รายงานภาคประชาชน “จับตาการประทานบัตรเหมืองในพื้นที่ป่าเขากะลา”.

เครือข่ายชุมชนปกป้องทรัพยากรนครสวรรค์. (2567). 2 ปี การลุกขึ้นสู้ของชาวบ้านเขากะลา. สืบค้นจาก https://www.facebook.com/share/p/1728uj9BHG/

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

More like this
Related

สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เห็ด’ CAC ชวนร่วมกิจกรรมปิดท้าย ‘FUNGI IN YOUR HEADLIGHTS’

พบศิลปิน อานนท์ นงเยาว์ และ NooN Collectiveเสาร์ที่ 25 ตุลาคมนี้ ณ...

‘บ้านหนองเต่า’ รักษาป่า รักษาวิถีชีวิต ท่ามกลางปัญหาสิทธิที่ดิน

เรื่อง: รัญชิดา อาริกุล ‘บ้านหนองเต่า’ ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ของชาวกะเหรี่ยง หรือ...

คนฮอดเดือดร้อน น้ำหนุนจากเขื่อนภูมิพลท่วมซ้ำทุกสิบปี พืชผลทางการเกษตรเสียหายยกสวน

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 สถานการณ์น้ำหนุนในพื้นที่ตำบลฮอด อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่อย่างหนัก โดยเฉพาะบริเวณสะพานจามเทวี...