


เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 สถานการณ์น้ำหนุนในพื้นที่ตำบลฮอด อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่อย่างหนัก โดยเฉพาะบริเวณสะพานจามเทวี (ฮอด–ดงดำ) บนทางหลวงหมายเลข 1012 ที่น้ำท่วมสูงจนไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ชาวบ้านต้องอ้อมไปใช้เส้นทางอื่นไกลกว่าเดิมกว่า 15 กิโลเมตร พื้นที่การเกษตรในรัศมีประมาณ 10 กิโลเมตรตลอดแนวแม่น้ำปิงได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะสวนลำไย กล้วย และข้าวโพดที่ถูกน้ำท่วมขังหลายสัปดาห์จนผลผลิตเสียหาย พื้นที่เกษตรบริเวณริมน้ำปิงจมอยู่ใต้น้ำจนไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้



พรเทพ ชาติบุรุษ เกษตรกรสวนลำไย บ้านหลวงฮอด ตำบลฮอด เปิดเผยว่า น้ำเริ่มหนุนตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนและเพิ่มระดับอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่สวนผลไม้ที่กำลังจะเก็บเกี่ยว สถานการณ์ลักษณะนี้เกิดซ้ำแทบทุกสิบปีนับตั้งแต่มีการสร้างเขื่อนภูมิพล โดยครั้งล่าสุดที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นในปี 2554 ซึ่งส่งผลกระทบในลักษณะเดียวกันต่อชาวบ้านในอำเภอฮอด
หลายชุมชนริมปิงสะท้อนปัญหาเดียวกันว่า น้ำหนุนสร้างความเสียหายซ้ำซากให้กับเกษตรกรที่อาศัยพื้นที่ลุ่มทำการเกษตรมานานกว่าหลายสิบปี และส่งผลต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นโดยรวม ทั้งรายได้จากผลผลิตทางการเกษตรและการสัญจรในชีวิตประจำวัน



ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลฮอด ได้จัดบริการเรือโดยสารให้ประชาชนใช้สัญจรในช่วงที่ถนนไม่สามารถใช้งานได้ จำนวน 2 รอบต่อวัน ได้แก่ เวลา 06.00–09.00 น. และ 15.00–18.00 น. เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างฝั่งหมู่บ้านและตัวอำเภอ
ช่วงเช้าของวันเดียวกัน ศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่อำเภอฮอดเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม มอบถุงยังชีพให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และกำชับให้ผู้นำท้องถิ่นเร่งสำรวจเส้นทางเลี่ยงเพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรของประชาชน



ด้านกรมทางหลวงรายงานในวันเดียวกัน (22 ต.ค. 68) ว่า ถนนสายฮอด–วังลุง (ทางหลวงหมายเลข 1012) ช่วงกิโลเมตรที่ 12+800 ถึง 14+200 ยังคงมีน้ำท่วมขัง เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งป้ายเตือนและปิดการจราจรบางส่วน พร้อมแนะนำให้ใช้เส้นทางเลี่ยงผ่านพื้นที่เกษตรของชาวบ้าน เพื่อเชื่อมต่อเข้าสู่เส้นทางหลัก

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...