นับถอยหลังเลือกตั้งท้องถิ่นหลังครบวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล โดยมีกำหนดเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม 2569 ที่กำลังจะมาถึงนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการลงคะแนนเสียง บทความนี้จะพาพี่น้องชาวเหนือไปทำความรู้จักกับ “องค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต.” องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในระดับตำบล/หมู่บ้าน อย่างมาก
องค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต. เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับตำบลที่มีขนาดเล็กที่สุดและใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ดูแลประชาชนในระดับหมู่บ้าน ปัจจุบันในประเทศไทยมีองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 4,993 แห่ง และในอนาคตอาจมีหลายแห่งถูกยกระดับให้เป็นเทศบาลตำบลในลำดับต่อไป
เจาะ 5 ภารกิจ อบต. กับบทบาทการขับเคลื่อนท้องถิ่นตาม พ.ร.บ. กระจายอำนาจฯ

พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. พ.ศ. 2542 กำหนดอำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบล ดังนี้
ด้านโครงสร้างพื้นฐาน
- ดูแลระบบประปา/น้ําสะอาดเพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตร
- ดูแลไฟฟ้าให้สว่างอย่างทั่วถึง
- บำรุงรักษาทางบก ทางน้ํา และทางระบายน้ํา
- บำรุงรักษาสถานที่สาธารณะต่างๆ
ด้านพัฒนาคุณภาพชีวิต
- ส่งเสริมด้านการศึกษา สนับสนุนการพัฒนาเด็กเล็ก (ศพด.) ส่งเสริมสตรี เด็กเยาวชน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส
- ดูแลด้านสาธารณสุข ควบคุมโรคติดต่อ ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วย คนพิการ รวมไปถึงการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย
- ส่งเสริมด้านการกีฬา
- ส่งเสริม รักษาจารีตประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น
ด้านการประกอบอาชีพ
- ส่งเสริมให้มีการฝึกอบรมอาชีพเพื่อสร้างรายได้
- สนับสนุนกลุ่มแม่บ้าน วิสาหกิจชุมชน
ด้านการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- ดูแลความสะอาดกำจัดขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล
- การจัดการและการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ด้านการบริหาร
- การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาค และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
- สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่น
- จัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น
กางแผนที่ อบต. 1,052 แห่ง จาก 17 จังหวัดภาคเหนือ พบ ‘นครสวรรค์-เพชรบูรณ์-เชียงใหม่’ จำนวนอบต.เยอะสุด

ข้อมูลจำนวนองค์การบริหารส่วนตำบลในภาคเหนือ อ้างอิงจากระบบข้อมูลกลางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย อัปเดตเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2568 มีองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดภาคเหนือ รวมทั้งหมด 1,052 แห่ง แบ่งเป็นรายจังหวัด ดังนี้
| จังหวัด | จำนวน อบต. |
| จังหวัดเชียงใหม่ | 78 |
| จังหวัดแม่ฮ่องสอน | 42 |
| จังหวัดลำปาง | 57 |
| จังหวัดลำพูน | 16 |
| จังหวัดเชียงราย | 64 |
| จังหวัดน่าน | 76 |
| จังหวัดพะเยา | 36 |
| จังหวัดแพร่ | 46 |
| จังหวัดตาก | 49 |
| จังหวัดพิษณุโลก | 72 |
| จังหวัดเพชรบูรณ์ | 102 |
| จังหวัดสุโขทัย | 69 |
| จังหวัดอุตรดิตถ์ | 50 |
| จังหวัดกำแพงเพชร | 61 |
| จังหวัดนครสวรรค์ | 116 |
| จังหวัดพิจิตร | 71 |
| จังหวัดอุทัยธานี | 47 |
| รวมทั้งหมด | 1,052 |
จากการจัดอันดับสรุปได้ว่า
3 อันดับ จังหวัดที่มีองค์การบริหารส่วนตำบลมากที่สุด ได้แก่ อันดับ 1 จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 116 แห่ง อันดับ 2 จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 102 แห่ง และอันดับ 3 จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 78 แห่ง
3 อันดับ จังหวัดที่มีองค์การบริหารส่วนตำบลน้อยที่สุด ได้แก่ อันดับ 1 จังหวัดลำพูน จำนวน 16 แห่ง อันดับ 2 จังหวัดพะเยา 36 แห่ง และ อันดับ 3 จังหวัดแพร่ 46 แห่ง
เปิดงบ อบต. 17 จังหวัดเหนือ สะท้อนภาพย้อนแย้งของ ‘การกระจายอำนาจ’ ที่ยังต้องพึ่งพาส่วนกลาง
จากการรวบรวมข้อมูลใน 17 จังหวัดภาคเหนือ พบว่า รายได้หลักที่ใช้ในการบริหารจัดการขององค์การบริหารส่วนตำบลยังคงพึ่งพาเงินอุดหนุนจากรัฐเป็นหลัก เนื่องจากรายได้ที่อบต. สามารถจัดเก็บเองมีปริมาณจำกัด และไม่เพียงพอต่อการพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
โครงสร้างรายได้ดังกล่าวเป็นผลมาจากกรอบกฎหมายและระบบการคลังที่กำหนดให้อำนาจของหน่วยงานท้องถิ่นยังคงถูกจำกัด ทำให้องค์การบริหารส่วนตำบลต้องทำหน้าที่เสมือนหน่วยปฏิบัติการของรัฐส่วนกลาง มากกว่าจะเป็นองค์กรปกครองตนเองอย่างแท้จริง
แม้แนวคิดเรื่องการกระจายอำนาจจะถูกผลักดันมาอย่างต่อเนื่องมานับหลายสิบปี และอบต.ถูกวางบทบาทให้เป็นหน่วยปกครองท้องถิ่นที่ใกล้ชิดประชาชนและสามารถกำหนดทิศทางการพัฒนาพื้นที่ได้เอง แต่ในทางปฏิบัติ โครงสร้างงบประมาณของอบต.จำนวนมากยังคงผูกอยู่กับเงินจากรัฐส่วนกลางเป็นหลัก ขณะที่รายได้ที่จัดเก็บเองมีสัดส่วนต่ำมากเมื่อเทียบกับรายได้รวม
ข้อมูลรายได้งบประมาณอบต.ปี 2567 สะท้อนภาพชัดเจนว่า 5 อันดับ อบต.ที่ได้รับงบประมาณสูงสุดแม้จะมีงบประมาณรวมสูงกว่า 130–150 ล้านบาทต่อปี แต่รายได้ที่จัดเก็บเองกลับมีสัดส่วนเพียง 1.6–5.9% เท่านั้น ขณะที่ อบต. 5 อันดับที่มีงบประมาณน้อยที่สุด รายได้ที่จัดเก็บเองก็มีสัดส่วนเพียง 0.7–6.9% ส่วนที่เหลือเป็นเงินที่รัฐจัดสรรและเงินอุดหนุนจากส่วนกลาง
สะท้อนให้เห็นว่าแม้จะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อการกระจายอำนาจจากส่วนกลางสู่ภูมิภาค แต่ในทางปฏิบัติ อบต.ส่วนใหญ่ยังขาดอำนาจทางการคลัง และยังต้องพึ่งพาเงินจากส่วนกลางเป็นหลัก

| งบประมาณ อบต. มากที่สุด 5 อันดับ | ||||||||
| ชื่อ อบต. | อำเภอ | จังหวัด | จำนวนประชากร (คน) | พื้นที่ (ตร.กม.) | รายได้จัดเก็บเอง (ล้านบาท) | รัฐจัดสรร (ล้านบาท) | เงินอุดหนุน(ล้านบาท) | รายได้รวม ปี 2567 (ล้านบาท) |
| อบต.ตาคลี | ตาคลี | นครสวรรค์ | 23,399 | 189.71 | 9.11 | 62.46 | 82.25 | 153.82 |
| อบต.วาวี | แม่สรวย | เชียงราย | 26,391 | 359 | 3.92 | 60.25 | 86.54 | 150.71 |
| อบต.เทอดไทย | แม่ฟ้าหลวง | เชียงราย | 24,107 | 167.904 | 2.42 | 55.76 | 91.74 | 149.92 |
| อบต.ป่าตึง | แม่จัน | เชียงราย | 26,586 | 220 | 6.73 | 62.99 | 75.13 | 144.84 |
| อบต.แม่สลองใน | แม่ฟ้าหลวง | เชียงราย | 25,738 | 269.3 | 2.48 | 60.04 | 82.21 | 144.74 |

| งบประมาณ อบต.น้อยที่สุด 5 อันดับ | ||||||||
| อบต. | อำเภอ | จังหวัด | จำนวนประชากร | พื้นที่ (ตร.กม.) | รายได้จัดเก็บเอง (ล้านบาท) | รัฐจัดสรร (ล้านบาท) | เงินอุดหนุน (ล้านบาท) | รายได้รวม ปี 2567 (ล้านบาท) |
| อบต.วังหลวง | หนองม่วงไข่ | แพร่ | 2,267 | 53.2 | 0.67 | 15.93 | 2.90 | 19.50 |
| อบต.เด่นชัย | เด่นชัย | แพร่ | 1,246 | 3.5 | 0.78 | 14.41 | 7.02 | 22.21 |
| อบต.ปางมะผ้า | ปางมะผ้า | แม่ฮ่องสอน | 4,600 | 198 | 0.15 | 19.46 | 2.79 | 22.40 |
| อบต.ทุ่งโพธิ์ | ตะพานหิน | พิจิตร | 1,748 | 31.24 | 0.83 | 15.25 | 7.11 | 23.19 |
| อบต.แควใหญ่ | เมืองนครสวรรค์ | นครสวรรค์ | 2,257 | 8.89 | 1.62 | 15.29 | 6.48 | 23.39 |
ถึงงบส่วนใหญ่จะมาจากรัฐ แต่อำนาจตัดสินใจต้องมาจาก “ประชาชน”
แม้อบต.จะมีข้อจำกัดด้านงบประมาณและอำนาจการคลังอย่างชัดเจน แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นยังคงเป็นกลไกเดียวที่ประชาชนมีอำนาจตัดสินใจว่า ใครจะเป็นผู้กำหนดทิศทางการใช้เงินสาธารณะในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ถนนในหมู่บ้าน ระบบประปา ไปจนถึงการจัดการขยะและพื้นที่สาธารณะ
อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งอบต. อาจไม่ใช่การเลือกเพื่อพลิกโฉมอนาคตของประเทศ แต่ภายใต้ระบบที่อำนาจของท้องถิ่นยังถูกจำกัด การมีตัวแทนที่มาจากประชาชน รู้จักพื้นที่ เข้าใจปัญหาในชีวิตจริง ตรวจสอบได้ และสามารถเปลี่ยนตัวได้ผ่านการเลือกตั้ง ยังคงเป็นเครื่องมือที่เป็นรูปธรรมที่สุดในการรักษาผลประโยชน์ของชุมชน และช่วยถ่วงดุลไม่ให้การตัดสินใจเรื่องการใช้งบประมาณ หรือ การกำหนดนโยบายท้องถิ่นถูกผูกขาดโดยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
เตรียมพร้อมก่อนกา ก่อนเข้าคูหาต้องรู้อะไรบ้าง?

Q: บัตร 2 ใบ 2 สี เลือกอะไรบ้าง
A: บัตรสีชมพู เลือกนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) เลือกได้ 1 เบอร์
บัตรสีเขียว เลือกสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) เลือกได้ตามจำนวนพึงมี ขึ้นอยู่กับเขตเลือกตั้งนั้นๆ
Q: สมาชิกสภา อบต. vs นายก อบต. ต่างกันอย่างไร?
A: นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) เป็นฝ่ายบริหาร มาจากการเลือกตั้งในเขต อบต. ทำหน้าที่บริหารงาน กำหนดนโยบายและแผนพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบล
สภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ มาจากการเลือกตั้งในเขตหมู่บ้าน ทำหน้าที่ให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบล เพื่อเป็นแนวทางในการบริหารกิจการขององค์การบริหารส่วนตำบล
Q: สมาชิกสภา อบต. และ นายก อบต. ดำรงตำแหน่งกี่ปี
A: มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปีนับตั้งแต่วันเลือกตั้ง โดย นายก อบต. จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 วาระไม่ได้ ในกรณีดำรงตำแหน่งไม่ครบ 4 ปี ก็ให้ถือว่าเป็น 1 วาระ เมื่อได้ดำรงตำแหน่ง 2 วาระติดต่อกันแล้ว จะดำรงตำแหน่งได้อีกเมื่อพ้นระยะเวลา 4 ปีนับแต่วันพ้นตำแหน่ง
Q: ใครบ้างที่มีสิทธิเลือกตั้ง
A: ผู้มีสัญชาติไทย (ถ้าแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 5 ปี) มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเขตองค์การบริหารส่วนตำบล ตรวจสอบสิทธิของตนเองเพื่อเตรียมความพร้อมล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ https://boraservices.bora.dopa.go.th/election/enqelection-local/
Q: ไปเลือกตั้งไม่ได้ต้องทำอย่างไร
A: ไม่มีการจัดเลือกตั้งล่วงหน้า และไม่มีการเลือกตั้งนอกเขต
ต้องกลับไปใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตพื้นที่ของตนเองเท่านั้น หากไม่สามารถไปเลือกตั้งได้ ต้องแจ้งเหตุไม่อาจใช้สิทธิเลือกตั้งภายใน 7 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง (ระหว่างวันที่ 12 ถึง 18 มกราคม 2569) ผ่านช่องทางดังนี้
- แจ้งผ่านนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น
- แจ้งผ่านเอกสารส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน
- แจ้งผ่าน Application smart vote
- แจ้งทางเว็บไซต์ www.ect.go.th
- แจ้งทางเว็บไซต์สำนักบริหารการทะเบียน กระทรวงมหาดไทย www.bora.dopa.go.th
