ศาลอาญานัดสืบพยานนัดที่สาม คดีอุ้มฆ่านักสิทธิมนุษยชนใจแผ่นดิน ‘บิลลี่’ พอละจี รักจงเจริญ

Date:

ศาลอาญานัดสืบพยานนัดที่สาม คดีอุ้มฆ่านักสิทธิมนุษยชนบางกลอย-ใจแผ่นดิน ‘บิลลี่’ พอละจี รักจงเจริญ ไต่สวนพยาน 3 ปากในวันที่ 17 กรกฎาคม 2566.

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม หรือ Cross Cultural Foundation (CrCF) รายงานว่าเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดสืบพยาน 3 ปากสำคัญตามที่ได้นัดไว้ โดยนี่เป็นการนัดสืบพยานครั้งที่สอง และมีการสืบพยานไปแล้วทั้งหมด 6 ปากนับจากการสืบพยานครังแรกเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2566 พร้อมทั้งนัดสืบพยานครั้งถัดไป 

​คดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2557 นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง “บางกลอย-ใจแผ่นดิน” ได้ถูกจับกุมและถูกเอาตัวไปโดยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในขณะนั้น กับพวก หลังจากนั้นไม่มีใครทราบชะตากรรมของบิลลี่อีกเลย จนกระทั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และอัยการ ได้ร่วมกันติดตามสอบสวนคดีดังกล่าวจนได้พยานหลักฐานเพิ่มเติมอันควรเชื่อได้ว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่อุทยาน ฯ ที่จับกุมบิลลี่ไปนั้น ได้ร่วมกันกระทำผิดต่อบิลลี่ คดีนี้นัดไต่สวนพยานโจทก์และจำเลยในคดีทั้งหมด 10 นัด แบ่งเป็นนัดไต่สวนพยานโจทก์ 23 ปาก ในวันที่ 24 เม.ย. 2566, 22 พ.ค. 2566 สืบพยานไปแล้วทั้งหมด 6 ปาก และจะมีการสืบพยานในนัดหน้า วันที่ 17 และ 24-27 ก.ค. 2566 รวม 7 นัด และนัดไต่สวนพยานจำเลย 9 ปาก ในวันที่ 28 และ 30-31 ส.ค. 2566 รวม 3 นัด ทั้งนี้ หากต่อมาศาลเห็นว่ามีความจำเป็นต้องสืบพยานเพิ่มเติมจะก็จะเรียกให้มาเป็นพยานภายหลังได้อีกด้วย

การสืบพยานในครั้งนี้ พิณภา พฤกษาพรรณ ในฐานะผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ร่วมทั้งสอง (บุตรของบิลลี่) และองค์กรระหว่างประเทศ ได้เดินทางมาร่วมรับฟังการสืบพยานคดีดังกล่าวจนเสร็จสิ้นกระบวนการศาลในวันนี้อีกด้วย พิณภาฯ ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 พค.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของดีเอสไอได้เดินทางไปพบพร้อมกับแจ้งว่า “ทางดีเอสไอ (DSI) เห็นว่าตนไม่ได้เป็นพยานปากสำคัญในคดีฆาตกรรมบิลลี่ จึงมาแจ้งว่าจะสิ้นสุดการดูแลและคุ้มครองพยานแล้ว ขณะที่จำเลย 1-4 ในคดีก็ยังรับราชการอยู่ทุกคน และตนอยากมาศาลทุกนัดเพื่อฟังการไต่สวนซึ่งจะมีอีก 8 นัด เพื่อติดตามการสืบพยานและทวงถามถึงความยุติธรรมกับศาลให้ถึงที่สุด โดยตนจะเขียนหนังสือขอความเป็นธรรมเรื่องนี้กับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษต่อไป”

โดยทาง CrCF ก็ได้เชิญชวนสื่อมวลชนและผู้สนใจร่วมติดตามและเข้าร่วมสังเกตการณ์การสืบพยานนัดที่สองนี้ตามวันและเวลาข้างต้น เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการยุติธรรมจะอำนวยความยุติธรรมให้แก่ครอบครัวของนายบิลลี่ และชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย-ใจแผ่นดินอย่างเต็มที่และเป็นธรรม นำเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด ทั้งยุติวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดได้อย่างเป็นจริง

พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

Lanner Editor
Lanner Editor
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

More like this
Related

‘บางระกำโมเดล’ ก้าวไกลระดับโลก แต่ ‘คน’ โดนทิ้งไว้กลางน้ำ

เรื่อง: ฐิติพร มะโนวรรณา, ภาพ: ตุลา ธารา ‘บางระกำโมเดล’ โครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ภายใต้สำนักงานชลประทานที่ 3...

เบื้องหลังเจ้าตลาดแร่แรร์เอิร์ธโลก จีนกับห่วงโซ่อุปทานเหมืองแร่ในเมียนมา

เรื่อง: สุทธิกานต์ วงศ์ไชย, ภาพ: วีรภัทร เหลาเกิ้มหุ่ง เบื้องหลังโทรศัพท์สมาร์ตโฟน รถยนต์ไฟฟ้า และกังหันลม ล้วนมีวัตถุดิบสำคัญที่ถือเป็นหัวใจของเทคโนโลยีสมัยใหม่...

ริมกกซวยซ้ำ! น้ำประปา ผัก ปลา ปนเปื้อนโลหะหนัก ชาวบ้าน 7 รายมีสารในปัสสาวะสูง จี้รัฐเร่งแก้ไข

ผ่านมากว่าครึ่งปีกับวิกฤตสารโลหะหนักปนเปื้อนในแม่น้ำกกที่ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อระบบนิเวศของสายน้ำ แต่กระทบไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนริมฝั่งแม่น้ำ เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การประกอบอาชีพอย่างการประมงและการเกษตร กลายเป็นปัญหาใหญ่ข้ามพรมแดนที่ไม่อาจแก้ได้ฝ่ายเดียว นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสายน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนมานับไม่ถ้วนกำลังเผชิญกับหายนะอย่างหนัก แม่น้ำกกมีต้นกำเนิดอยู่ในเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ไหลเข้าสู่ประเทศไทยในตำบลท่าตอน...

วิกฤตชาวประมงปากน้ำกก ยื่นข้อเสนอ 4 ข้อ รัฐเยียวยา-เร่งเจรจาหยุดสารพิษ

​14 ตุลาคม 2568 ชาวประมงจากสามชุมชนปากแม่น้ำกก ได้แก่ บ้านเชียงแสนน้อย บ้านสบคำ ตำบลเวียง และบ้านสบกก...