เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2568 ตัวแทนเครือข่ายแรงงานภาคเหนือในนาม ‘เครือข่ายไรเดอร์และคนทำงานแพลตฟอร์ม’ ยื่นหนังสือต่อสำนักงานพรรคประชาชน สาขาเชียงใหม่ เพื่อคัดค้านการส่ง ‘มาร์ค-อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์’ อดีตรองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท LINE MAN เข้าสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2569 พร้อมเรียกร้องให้พรรคยืนยันจุดยืนผลักดันให้แรงงานแพลตฟอร์มได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นธรรมภายใต้กฎหมายแรงงาน
เครือข่ายฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า การส่งอดีตผู้บริหารบริษัทแพลตฟอร์มซึ่งเครือข่ายมองว่า
‘มีบทบาทต่อระบบการจ้างงานที่กดขี่และเอาเปรียบไรเดอร์’ ขัดกับอุดมการณ์ของพรรคที่เคยประกาศว่าจะยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานทุกกลุ่ม และทำให้มาตรฐานการจ้างงานเป็นธรรมมากขึ้น โดยย้ำว่าไรเดอร์ต้องทำงานภายใต้ความเสี่ยงสูงบนท้องถนน แต่กลับ ‘ไร้สวัสดิการ’ และได้รับค่าตอบแทนต่ำ
เครือข่ายฯ ยังชี้ว่า ก่อนหน้านี้เคยรวมตัวเรียกร้องให้บริษัทเพิ่มค่ารอบการทำงานหลายครั้ง แต่ถูกเพิกเฉย ไม่มีพื้นที่เจรจาหรือความรับผิดชอบต่อความเดือดร้อน พร้อมยกกรณีบทสัมภาษณ์จากไทยรัฐพลัสที่ ‘มาร์ค-อิสริยะ’ อธิบายเรื่อง ‘นิติสัมพันธ์’ ของไรเดอร์ว่าไม่ใช่พนักงานประจำ เป็นแรงงานอิสระ ลักษณะ ‘จ้างทำของรายชิ้น’ ซึ่งเครือข่ายมองว่าเป็นการบิดเบือนสถานภาพการทำงาน เอื้อต่อแพลตฟอร์มในการหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน และทำให้ไรเดอร์สูญเสียสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย
ในหนังสือที่ยื่น เครือข่ายฯ เรียกร้องให้พรรคประชาชนทบทวนการพิจารณาส่งผู้สมัครรายดังกล่าว หรือให้ผู้สมัครและผู้บริหารพรรคประกาศต่อสาธารณะถึงความมุ่งมั่นในการผลักดันให้ไรเดอร์อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองแรงงาน รวมถึงการคุ้มครองชั่วโมงการทำงาน การประกันค่าจ้างขั้นต่ำรายชั่วโมง และการปรับโครงสร้างค่าตอบแทนให้เป็นธรรมตลอดระยะทางตั้งแต่เริ่มงานจนเสร็จสิ้น พร้อมกำหนดค่าตอบแทน ‘งานพ่วง’ ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 75
นอกจากนี้ เครือข่ายฯ ยังเรียกร้องไปยัง ‘เครือข่ายแรงงานพรรคประชาชน’ ให้ร่วมทักท้วงการเสนอชื่อดังกล่าว โดยระบุด้วยว่า หากเครือข่ายแรงงานและอดีต สส.ปีกแรงงานที่มีอยู่ไม่ดำเนินการทักท้วง ก็ควรทบทวนบทบาทว่ามีความเหมาะสมในการเป็นตัวแทนแรงงานหรือไม่
4 ข้อเรียกร้องหลัก: ยกระดับไรเดอร์ใต้กฎหมายแรงงาน เครือข่ายไรเดอร์และคนทำงานแพลตฟอร์มเสนอหลักการและข้อเรียกร้องสำคัญ 4 ข้อ ได้แก่
- รับรองสถานะ ‘ลูกจ้าง’ โดยไม่ต้องออกกฎหมายใหม่ เพียงขยายนิยามคำว่า ‘ลูกจ้าง’ ให้ครอบคลุมแรงงานแพลตฟอร์มภายใต้ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 โดยอ้างอิงคำวินิจฉัยของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่ระบุว่าแรงงานแพลตฟอร์มมีลักษณะงานไม่ต่างจากลูกจ้าง
- ให้ไรเดอร์มีส่วนร่วมกำหนดมาตรฐานค่ารอบและงานพ่วง ต้องประกันค่าจ้างขั้นต่ำรายชั่วโมง กำหนดค่ารอบให้สอดคล้องเศรษฐกิจและต้นทุนจริง คำนวณจากระยะทางตั้งแต่เริ่มจนจบงาน รวมถึงต้นทุนพลังงาน ค่าเสื่อมยานพาหนะ ค่าอุปกรณ์ และกำหนดงานพ่วงไม่น้อยกว่าร้อยละ 75
- คุ้มครองความปลอดภัยในการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม กำหนดเพดานชั่วโมงทำงานและเวลาพักตามกฎหมาย ควบคู่ตรวจสอบอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มไม่ให้เลือกปฏิบัติหรือจัดสรรงานบีบคั้นเวลา พร้อมจัดประกันอุบัติเหตุที่เคลมได้ “โดยไม่มีเงื่อนไข” เมื่อเกิดเหตุระหว่างทำงาน
- สวัสดิการพื้นฐานและสิทธิรวมกลุ่มต่อรอง บริษัทต้องจัดอุปกรณ์ทำงานที่จำเป็น เช่น กล่องอาหาร ยูนิฟอร์ม เพื่อความปลอดภัยและศักดิ์ศรี และรับรองสิทธิรวมกลุ่มเป็นสหภาพ-เจรจาต่อรองร่วม โดยไม่ถูกจำกัดด้วยรูปแบบการจ้างงาน พร้อมเรียกร้องให้รัฐรับรองและปฏิบัติตามอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 และ 98 อย่างแท้จริง
เครือข่ายฯ ทิ้งท้ายว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ ‘ปกป้องสิทธิประโยชน์ของคนทำงานแพลตฟอร์ม’ และผลักดันให้มาตรฐานการจ้างงานในเศรษฐกิจแพลตฟอร์มเป็นธรรม โดยระบุลงท้ายแถลงการณ์ว่า ‘ด้วยความสมานฉันท์น้ำหนึ่งใจเดียวกัน’
