25 ตุลาคม 2568 กลุ่มเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรม ‘วิ่งเพื่อเสรีภาพ X ยืนหยุดขัง Run2Free’ และการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมืองที่ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
ทั้งนี้ ปัจจุบันยังมีผู้ต้องขังทางการเมืองอย่างน้อย 56 คน ที่ยังไม่ได้รับอิสรภาพ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้กิจกรรม ‘Run2Free’ เกิดขึ้นอีกครั้งในเดือนตุลาคม เดือนที่สังคมไทยยังต้องทบทวนความหมายของคำว่า ‘เสรีภาพ’ ใหม่อยู่เสมอ

กิจกรรมเริ่มต้นที่ ลานควายยิ้ม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสิ้นสุดที่ อ่างแก้ว โดยผู้เข้าร่วมพร้อมใจกันสวมเสื้อสีดำตาม Dress Code ‘All Black’ เพื่อสื่อถึงการไว้อาลัยต่อเสรีภาพที่ถูกพรากไป โดยเริ่มรวมตัวตั้งแต่เวลา 16.00 น. ก่อนเริ่มวิ่งจริงในเวลา 17.00 น.



สุปรียา โฉมเรือง หนึ่งในผู้เข้าร่วมกิจกรรม กล่าวถึงมุมมองต่อประเด็น นิรโทษกรรมว่า ถึงเวลาแล้วที่สังคมควรมีการผ่อนผันและผ่อนเบาความเข้มงวดในบางเรื่อง อาจยังไม่ถึงขั้นยกเลิกทั้งหมด แต่ควรมีการผ่อนปรนได้แล้ว

“คิดว่าน่าจะมีการผ่อนผัน ผ่อนเบาบ้างนะคะ มันถึงเวลาที่ควรจะผ่อนคลายได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้มงวดเหมือนเดิม ก็ไม่แน่ใจว่าจะใช้คำว่ายกเลิกได้ไหม แต่คิดว่าควรมีการผ่อนปรนได้แล้ว”
ส่วนในประเด็น กฎหมายมาตรา 112 เธอได้ตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดกฎหมายดังกล่าวจึงมักถูกนำมาใช้กับความคิดเห็นของประชาชนและการเมือง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า แม้สังคมจะตั้งคำถามเรื่องนี้บ่อยครั้ง กลับยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนออกมาจนถึงปัจจุบัน

ด้าน คุณอัพ หนึ่งในผู้เข้าร่วมกิจกรรม มองว่า กฎหมายนิรโทษกรรมควรครอบคลุมถึงนักโทษมาตรา 112 เนื่องจากเห็นว่ากฎหมายดังกล่าวถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองและทำให้หลายคนไม่ได้รับความยุติธรรม พร้อมย้ำว่าควรครอบคลุมนักโทษทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ต้องคดีทางการเมือง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมอย่างแท้จริง
“คิดว่าการนิรโทษกรรมควรครอบคลุมนักโทษมาตรา 112 ด้วย เพราะกฎหมายนี้ถูกใช้กลั่นแกล้งทางการเมือง และทำให้หลายคนไม่ได้รับความยุติธรรม”
ตลอดเส้นทางผู้เข้าร่วมต่างส่งเสียง ‘วิ่งเพื่อเสรีภาพ’ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและการปล่อยตัวเพื่อนที่ยังถูกคุมขัง ก่อนปิดท้ายด้วยการ ยืนสงบนิ่ง เพื่อรำลึกถึงผู้สูญหายและผู้ที่ยังถูกคุมขังจากเหตุผลทางการเมือง




ในช่วงท้าย ตัวแทนเครือข่ายฯ ได้อ่านแถลงการณ์ โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา 184 เสียงในสภาผู้แทนราษฎรได้โหวตคว่ำมาตรา 3 หรือนิรโทษกรรมเยาวชนในคดีมาตรา 112 เป็นอันว่าเสียงข้างมากในสภานี้ไม่ยินยอมให้มีการนิรโทษกรรมนักโทษการเมืองในคดี 112 ทั้งหมด แม้แต่เยาวชนก็ไม่ยกเว้น

พระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุขที่จะออกมาในอนาคต จึงเป็นการนิรโทษกรรมทางอาญาและทางแพ่งให้พวกปิดสนามบินเชียร์รัฐประหาร เหล่าผู้ได้ประโยชน์จาก พ.ร.บ.นี้ จึงมีแต่ผู้คนที่ไม่เคยเห็นหัวประชาชน ไม่เคยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไม่ยอมรับว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
พวกเขาจะมีสันติสุขกันแต่ในหมู่พวกเขา พวกเขาจะไกล่เกลี่ยปรองดองจูบปากกันแต่ในหมู่พวกเขา พวกเขาไม่แยแสประชาชนที่มีความคิดเห็นแตกต่าง ไม่สนใจเยาวชนที่ต้องการอนาคตที่ดีกว่านี้
รัฐสภากีดกันพวกเรา รัฐบาลไม่ว่ามาจากเผด็จการทหารหรือการเลือกตั้งก็กีดกันพวกเรา ศาลท่านก็ตีความความผิดตามมาตรา 112 กว้างขวางประดุจมหาสมุทรแปซิฟิก ต่อให้พวกเรามีความเพียรแค่ไหน ก็คงไม่มีทางว่ายน้ำข้ามไปจนเห็นอีกฟากฝั่ง
จากนี้พวกเขาคงไปเลี้ยงฉลองปรองดองสันติสุขในปาร์ตี้ชุดลายพรางร้องเพลง “สู้ไม่ถอย” กันอย่างสนุกสนาน ไม่ต่างจากพวกเทพเทวดาฉลองน้ำอมฤตที่ได้มาจากการหลอกลวงเหล่าอสูรให้ใช้แรงงานกวนเกษียรสมุทร
ไม่ต่างจากลูซิเฟอร์ที่เพียงตั้งคำถามต่อพระเจ้าบนฟากฟ้าแดนสวรรค์ ก็ถูกเหล่าเทวทูตถีบตกลงขุมนรกและเปลี่ยนคำเรียกขานเป็นซาตานทันที
วันนี้พวกเรามาวิ่ง/เดิน/ยืน เพื่อไว้อาลัยให้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่เลือกปฏิบัติ ไว้อาลัยให้กระบวนการยุติธรรมที่มองว่าเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเป็นความผิดร้ายแรงยิ่งกว่าการสังหารหมู่ประชาชนหรือการรัฐประหารล้มล้างระบอบการปกครอง
วันนี้พวกเรามาวิ่ง/เดิน/ยืน เพื่อยืนยันว่า พวกเราจะเป็นอสูรผีห่าซาตานหลอนหลอกสังคมสันติสุขของพวกเทวดาไปอีกนานเท่านาน
ไม่มีความเท่าเทียม ก็ไม่มีการปรองดอง
ไม่มีความยุติธรรม ก็ไม่มีสันติสุข
ขอให้พวกเราเปล่งเสียงดังๆ พร้อมกัน
ปล่อยเพื่อนเรา ปล่อยเพื่อนเรา ปล่อยเพื่อนเรา
ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ
ยกเลิก 112

ต่อมา ผู้ร่วมกิจกรรมร่วมกันตะโกนเสียงดัง “ปล่อยเพื่อนเรา ปล่อยเพื่อนเรา ปล่อยเพื่อนเรา ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ ยกเลิก 112” ก่อนจะร่วมกันอ่านรายชื่อผู้ต้องขังคดีการเมืองทั้ง 56 คน เพื่อส่งสารถึงสังคมว่า การเรียกร้องเสรีภาพไม่ควรถูกลงโทษ

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...




