Human Rights Agenda ภาคประชาสังคมเหนือ ตั้งคำถาม 7 พรรคตอบ ย้ำสิทธิมนุษยชนต้องไปกับเลือกตั้ง 66

Date:

29 เมษายน 2566 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จัดเวที Human Rights Agenda “วาระนโยบาย ประชาสังคม สิทธิมนุษยชนและการเลือกตั้ง ปี 2566 : เพราะประเด็นสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ต้องถูกมองเห็น” ณ ลานประตูท่าแพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 17.00 – 21.00 น. โดยเวทีในครั้งนี้เป็นการเปิดพื้นที่ให้พรรคการเมืองได้พูดถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนของพรรค พร้อมตอบคำถามจากภาคประชาสังคมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือ



โดยมีตัวแทนจาก 7 พรรคการเมืองร่วมตอบคำถาม ได้แก่ พุธิตา ชัยอนันต์ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 4 พรรคก้าวไกล , จักรวาลธวัฒน์ วรรณาวงค์ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ , วัชรกรณ์ กันธิ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคประชาไทย , ทรงธรรม โรจนเครือวัลย์ หัวหน้าพรรคพลังสยาม พรรคพลังสยาม , วิภาพรรณ วงษ์สว่าง ผู้สมัครส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ เขต 3 พรรคไทยสร้างไทย , ลักษณารีย์ ดวงตาดำ โฆษกพรรคสามัญชน พรรคสามัญชน และจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ผู้สมัครส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ เขต 5 พรรคเพื่อไทย

คำถามที่ต้องการคำตอบ 7 ประชาสังคมตั้งคำถามสิทธิมนุษยชน

1.สิทธิเสรีภาพ การคุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐที่เกินขอบเขต

นพพล อาชามาส เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูล จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตั้งคำถามต่อพรรคการเมืองต่าง ๆ ถึงนโยบายการจัดการกับคดีความทางการเมืองที่ยังดำเนินอยู่ และจะจัดการกับอำนาจที่ถูกใช้โดยรัฐอย่างไร คำตอบที่ได้จากตัวแทนจากแต่ละพรรคการเมืองมีดังต่อไปนี้

พุธิตา ชัยอนันต์ บอกว่าทางพรรคก้าวไกลจะทำการเสนอพ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีทางการเมืองที่เกิดขึ้นกับประชาชนทั้งหมดภายใน 100 วันหลังจากทำการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น ยกเว้นเจ้าหน้าที่รัฐภายใต้การบัญชาของคณะรัฐประหารซึ่งจะมีคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเกณฑ์การนิรโทษกรรม ประกอบไปด้วยภาคประชาชน, นักวิชาการ และนักสิทธิมนุษยชนด้วย

จักรวาลธวัฒน์ วรรณาวงค์ ตอบคำถามนี้พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยมีประมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่สิทธิหน้าที่ของประชาชนก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ และยังมีความจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย

วัชรกรณ์ กันธิ เชื่อว่าการที่ตนเข้ามาต่อสู้บนเวทีการเมืองจะทำให้สามารถจัดการกฎหมายได้

ทรงธรรม โรจนเครือวัลย์ เสนอการแก้ปัญหานี้ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสิทธิขั้นพื้นฐานให้สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย

วิภาพรรณ วงษ์สว่าง พูดถึงนโยบายของพรรคไทยสร้างไทยที่จะผลักดันให้เกิดบทลงโทษสูงสุดแก่การทำรัฐประหาร ทั้งนี้ถ้าพรรคไทยสร้างไทยได้เป็นรัฐบาล จะสนับสนุนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยผ่านการบันทึกประวัติศาสตร์การต่อสู้ที่มีผู้เสียสละเลือดเนื้อและโอกาสมากมาย รวมถึงส่งเสริมเพื่อเป็นการแสดงจุดยืนที่จะร่วมต่อสู้กับประชาชน

ลักษณารีย์ ดวงตาดำ กล่าวว่าสิทธิการแสดงออกถือเป็นเรื่องเร่งด่วน พรรคสามัญชนเสนอยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 รวมไปถึงการเปิดพื้นที่หารือเกี่ยวกับกฎหมายมาตรา113 และ 116 ด้วย โดยเชื่อว่าสิทธิแสดงออกเป็นจุดเริ่มต้นในการมองเห็นปัญหาทุกอย่าง



2.เชียงใหม่เมืองที่ทิ้งคนทำงานสร้างสรรค์แบบไม่เห็นหัว

ภราดล พรอำนวย ศิลปินเจ้าของร้าน North gate และ ChiangMai Trust co-founder ได้ตั้งคำถามถึงประเด็นการสนับสนุนรัฐมุ่งไปที่การท่องเที่ยว แต่ไม่สนับสนุนต้นทุนทางวัฒนธรรม และย้ำว่าช่วงโควิด-19 มีผู้คนหลายอาชีพต้องเผชิญความยากลำบาก

จักรวาลธวัฒน์ วรรณาวงค์ ได้เสนอการกระตุ้นธุรกิจ SME และการสนับสนุนเงินกองทุนหมู่บ้าน 2 ล้านบาทเพื่อส่งเสริมเศษรฐกิจฐานรากในชุมชน

วัชรกรณ์ กันธิ กล่าวว่าจะผลักดันศิลปะประเพณีท้องถิ่นว่าจะส่งเสริมประเด็นนี้อย่างจริงจังถ้าได้เป็นรัฐบาล

ทรงธรรม โรจนเครือวัลย์ ชี้ว่าการท่องเที่ยวรูปแบบดังกล่าวและการรักษาวัฒนธรรมประเพณี สามารถเป็นแหล่งรายได้ในมิติการท่องเที่ยวได้มาก

วิภาพรรณ วงษ์สว่าง ชี้ให้เห็นการเติบโตของ SME ขนาดกลางและเล็ก ที่ต้องชะลอตัวเพราะใบอนุญาต มีข้อเสนอคือปลดล็อคให้เจ้าของธุรกิจขนาดกลางและเล็กสามารถประกอบอาชีพได้สะดวกขึ้น รวมไปถึงการสร้างกองทุนเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งทุน

ลักษณารีย์ ดวงตาดำ เสนอในเรื่องของการทำลายเพดานทางศิลปะ โดยการยกเลิกพ.ร.บ.ความสะอาด และมาตรา 112 ให้กับศิลปินที่เรียกร้องเสรีภาพ ยกเลิกวัฒนธรรมรวมศูนย์ที่ถือเป็นการทำลายความหลากหลาย

พุธิตา ชัยอนันต์ กล่าวว่าพรรคก้าวไกลมีความคิดในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนชื่อจากกระทรวงวัฒนธรรมเป็นกระทรวงวัฒนธรรม เป็นกระทรวงเศรษฐกิจและวัฒนธรรมสร้างสรรค์ เพื่อมุ่งเป้าสนับสนุนการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศให้ดียิ่งขึ้น



3.เมื่อรัฐไม่เคยเห็นหัวใจชนเผ่าพื้นเมือง

สุมิตรชัย หัตถสาร ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น ตั้งคำถามถึงประเด็นสิทธิมนุษยชนและการคุ้มครองชนเผ่าพื้นเมือง ว่าที่ผ่านมามีการละเมิดสิทธิของชนเผ่าพื้นเมืองอยู่บ่อยครั้ง

วัชรกรณ์ กันธิ แสดงจุดยืนในการแก้ไขการเข้าถึงกฎหมายของชนเผ่าพื้นเมือง

ทรงธรรม โรจนเครือวัลย์ เผยว่าปัญหาในเชิงปฏิบัติของประเทศไทยในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนเป็นจุดที่ต้องแก้ไข โดยเสนอให้พรรคการเมืองและคนรุ่นใหม่ร่วมเสนอความเห็น

วิภาพรรณ วงษ์สว่าง ชี้ว่ารัฐต้องเร่งรัดกระบวนการมากขึ้น ทบทวนการเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการ ผลักดันให้ที่ดินส.ป.ก.กลายเป็นหลักในการส่งเสริมเศษรฐกิจ

ลักษณารีย์ ดวงตาดำ กล่าวว่าพรรคสามัญชนเสนอนโยบายกำจัดความเหลื่อมล้ำด้วยการยกเลิกกฎหมายทวงคืนผืนป่าที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลคสช. การทำงานเชิงรุกในการให้สถานะบุคคลกับกลุ่มชาติพันธุ์และสามารถเข้าถึงสวัสดิการต่าง ๆ และสนับสนุนการทำงานข้ามแดน

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เสนอการผลักดันกฎหมายคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตและการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน

พุธิตา ชัยอนันต์ เสนอนโยบายการปลดล็อคที่ดิน การให้สัญชาติและการเข้าถึงสวัสดิการ

จักรวาลธวัฒน์ วรรณาวงค์ บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนพ.ร.บ.สภาชนเผ่าพื้นเมือง ซึ่งจะเป็นหลักประกันสิทธิแก่กลุ่มชาติพันธุ์



4.อากาศสะอาดไร้ฝุ่นพิษจากทุนใหญ่

ชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ประธานสภาลมหายใจเชียงใหม่ ได้ตั้งคำถามต่อพรรคการเมืองถึงนโยบายการแก้ปัญหา PM2.5 อย่างยั่งยืนอย่างไร

ทรงธรรม โรจนเครือวัลย์ กล่าวว่าการทำงานของรัฐกลายเป็นจุดขัดแย้งและครอบงำกับการทำงานและนโยบายของคนในพื้นที่ที่มีปัญหาที่มีระบบการจัดการไฟป่าอยู่แล้ว ต้องแก้ที่ความคิดของรัฐ

วิภาพรรณ วงษ์สว่าง ยืนยันจุดยืนสนับสนุนพ.ร.บ.อากาศสะอาด ต้องมีการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านในประเด็นฝุ่นควันข้ามพรมแดน

ลักษณารีย์ ดวงตาดำ เสนอนโยบายการตรวจสอบกระบวนการดังกล่าวที่เป็นการบีบบังคับเกษตรกรจนหมดทางเลือก ต้องปลูกพืชเชิงเดี่ยวตามความต้องการของตลาดจนเกิดการเผาเพื่อเพาะปลูก เสนอให้มีการคืนสิทธิให้คนพื้นเมืองได้อยู่กับป่าเพื่อร่วมกันดูแลจัดการไฟป่าด้วยตัวเองได้อย่างเต็มที่ และพื้นที่สาธารณะที่ปลอดฝุ่นที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แสดงจุดยืนว่าพรรคเพื่อไทยจะอาสาเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาฝุ่นภายใน 4 ปี ต่อสู้กับกลุ่มนายทุนที่เป็นสาเหตุฝุ่นข้ามพรมแดน

พุธิตา ชัยอนันต์ เสนอว่าพรรคก้าวไกลมีข้อเสนอเรื่องงบ 3 ล้านบาทในแต่ละตำบลเพื่อจัดการป้องกันการเผา อีกทั้งยังต้องผลักดันพ.ร.บ.อากาศสะอาดเชิงรุก

จักรวาลธวัฒน์ วรรณาวงค์ เสนอให้มีการติดตามปัญหาและผลักดันพ.ร.บ.อากาศสะอาด

วัชรกรณ์ กันธิ แสดงจุดยืนดันพ.ร.บ.อากาศสะอาด



5.เพศ การศึกษา สมรสเท่าเทียม

ชัญญา รัตนธาดา นักสิทธิประชาธิปไตย และ LGBTQ+ กลุ่ม Young Pride Club ได้เสนอคำถามต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกให้พรรคการเมืองตอบคำถามว่าระหว่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมและพ.ร.บ.คู่ชีวิต , การแก้กฎหมายมาตรา 127 , พ.ร.บ.รับรองเพศ , การยกเลิกกฎหมายมาตรา 301 และ 305 , นโยบายคุ้มครองอาชีพประเวณี และนโยบายการสนับสนุนหลักสูตรเพศศึกษาและสิทธิมนุษยชนในทุกโรงเรียน

วิภาพรรณ วงษ์สว่าง กล่าวว่าพรรคไทยสร้างไทยได้นำเสนอหลายนโยบายไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปพพ.1448 การรับรองอัตลักษณ์ทางเพศรวมไปถึงการเข้าถึงสวัสดิการของบุคคลข้ามเพศ การสนับสนุนให้อาชีพค้าประเวณีถูกกฎหมาย คุ้มครองให้มีความปลอดภัยและมีสิทธิเท่าเทียมอาชีพอื่น ๆ และนโยบายเรียนฟรีจนถึงป.ตรี

ลักษณารีย์ ดวงตาดำ บอกว่าพรรคสามัญชนผลักดันพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และการส่งเสริมให้มีการให้ความรู้ด้านเพศศึกษาตั้งแต่วัยดรุณเพื่อเตรียมพร้อมให้เยาวชนสามารถกำหนดเพศของตัวเองได้เมื่อพร้อมก็สำคัญ รวมถึงผลักดันการทำแท้งปลอดภัยด้วยการยกเลิกกฎหมายมาตรา 301 และ 305 และนโยบายการคุ้มครอง Sex workers ให้เข้าถึงสิทธิต่าง ๆ ได้อย่างเท่าเทียม นโยบายเรียนฟรีจนถึงป.ตรีและสนับสนุนการศึกษา Home School

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ กล่าวว่าแม้พรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนให้มีการผลักดันพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม โดยจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจเพื่อปรับปรุงกฎหมายให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

พุธิตา ชัยอนันต์ บอกว่าหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลจะดันพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมทันทีภายใน 100 วัน เพื่อรับรองทุกอัตลักษณ์ทางเพศด้วยการเปลี่ยนคำนำหน้านามตามความสมัครใจและสอดคล้องกับเพศสภาพ จัดสวัสดิการให้ความรู้ทางเพศ ทำแท้งปลอดภัย และสนับสนุนให้ Sex worker ถูกกฎหมาย

จักรวาลธวัฒน์ วรรณาวงค์ กล่าวว่าทางพรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนพ.ร.บ.ขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคล และสมรสเท่าเทียม รวมไปถึงนโยบายสนับสนุนการศึกษาเพศวิถีและอัตลักษณ์ทางเพศ สนับสนุน Soft Power ของ LGBTQ  และสวัสดิการการทำแท้งปลอดภัยเช่นเดียวกับผู้หญิง

วัชรกรณ์ กันธิ แสดงจุดยืนในการให้สิทธิความเป็นมนุษย์แก่สมาชิก LGBTQ+ สนับสนุนการเข้าถึงสวัสดิการต่าง ๆ เช่นฮอร์โมนเพศฟรีผ่านโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค

ทรงธรรม โรจนเครือวัลย์ เผยว่าการผลักดันพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมและการรับรองเพศเป็นเรื่องน่าสนใจ เพราะมีความเกี่ยวโยงกับหลักสิทธิมนุษยชน

ว่าด้วยแรงงานข้ามชาติ กฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มและที่นั่งในสภาของผู้หญิง

ศุกาญจน์ตา สุขไผ่ตา ที่ปรึกษาจัดตั้งแรงงาน มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา ตั้งคำถามเรื่องการมีส่วนร่วมทางการเมืองของแรงงานข้ามชาติ กฎหมายควบคุมการรวมกลุ่ม รวมไปถึงประเด็นบทบาทในสภาของผู้หญิง

ลักษณารีย์ ดวงตาดำ เสนอนโยบายโอบรับแรงงานข้ามชาติพร้อมการคุ้มครองและสวัสดิการอย่างเท่าเทียม ผลักดันรัฐบาลให้รับอนุสัญญา ILO 87 และ 98 พร้อมทั้งเสนอให้มีการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อความปลอดภัยของแรงงาน

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ชี้ว่าสิทธิ์ในการเลือกตั้งของแรงงานขึ้นอยู่กับทะเบียนบ้านของแรงงาน ซึ่งถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และกล่าวว่าการจัดสัดส่วนบัญชีรายชื่อนั้นก็ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเช่นกัน แต่พรรคการเมืองต่าง ๆ รวมถึงพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ให้ความสนใจในการเรียงลำดับรายชื่ออย่างจริงจัง และจุลพันธ์ยังทิ้งท้ายสนับสนุนให้ภาครัฐเข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือให้แรงงานข้ามชาติ

พุธิตา ชัยอนันต์ กล่าวถึงการจัดตั้งสหภาพแรงงาน เสนอนโยบายการเข้าถึงประกันสังคมมาตรา 33 ของแรงงานข้ามชาติ สิทธิลาคลอด 180 วัน และพุธิตาย้ำว่าต้องเริ่มต้นจากสัดส่วนในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองด้วย

จักรวาลธวัฒน์ วรรณาวงค์ เสนอที่จะขยายนโยบายประกันรายได้เกษตรกรไปสู่แรงงานในภาคส่วนอื่น ๆ นโยบายการตรวจสุขภาพฟรีซึ่งถือเป็นสวัสดิการพื้นฐานในนโยบายสวัสดิการสังคมถ้วนหน้า รวมไปถึงการขยายสิทธิ์ของแรงงานนอกระบบตามกฎหมายมาตรา 40

วัชรกรณ์ กันธิ ดันการทดสอบฝีมือแรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับตลาดแรงงาน

ทรงธรรม โรจนเครือวัลย์ สนับสนุนให้มีสวัสดิการของแรงงานข้ามชาติ การดูแลบุตร การเข้าถึงสวัสดิการสุขภาพ ที่อยู่อาศัยเป็นต้น

วิภาพรรณ วงษ์สว่าง ชี้ว่าแรงงานข้ามชาติต้องมีสิทธิเท่าเทียมกับแรงงานไทย โดยกระบวนการรับแรงงานข้ามชาติเข้าประเทศต้องมีความโปร่งใส ไม่เป็นเครื่องมีของธุรกิจสีเทา และพรรคไทยสร้างไทยยังแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับพ.ร.บ.รวมกลุ่มและสนับสนุนอิสระในการทำงานของภาคประชาสังคม



7.ถึงเวลากระจายอำนาจ

ดร.ณัฐกร วิทิตานนท์ อาจารย์สำนักวิชาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยกปัญหาการกระจายอำนาจ เป็นคำถามต่อพรรคการเมืองถึงนโยบายการกระจายอำนาจคืนสู่ท้องถิ่น

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เสนอนโยบายการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ที่ท้องถิ่นสามารถตัดสินใจได้เองว่าตนมีความพร้อมพอจะเลือกผู้ว่าฯ ของจังหวัดหรือไม่

พุธิตา ชัยอนันต์ ชี้ว่าการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นคือการระเบิดพลังทางเศษรฐกิจ เป็นการแจกจ่ายงบประมาณไปใช้อย่างตรงจุดโดยคนที่รู้จักปัญหาในพื้นที่จริง พรรคก้าวไกลเสนอนโยบายยกเลิกคำสั่งรัฐบาลคสช.ภายใน 100 วัน.จัดทำประชามติการกระจายอำนาจภายใน 1 ปี และกระจายงบประมาณให้กับท้องถิ่นทั่วประเทศ 2 แสนล้านบาทต่อปีภายใน 4 ปี

จักรวาลธวัฒน์ วรรณาวงค์ ชี้ว่าการให้ท้องถิ่นตัดสินใจอนาคตของตัวเองคือหัวใจสำคัญของการกระจายอำนาจ

วัชรกรณ์ กันธิ ชี้ว่าการกระจายอำนาจเป็นการเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นได้รับรู้ถึงปัญหาและหาทางแก้ไขปัญหาในพื้นที่ของตัวเอง

ทรงธรรม โรจนเครือวัลย์ ยกประเด็นการตรวจสอบความโปร่งใส่ของการกระจายอำนาจเพื่อที่การกระจายอำนาจจะสามารถกระจายสู่ท้องถิ่น

วิภาพรรณ วงษ์สว่าง มองว่าควรรวบนายกอบจ.และผู้ว่าฯให้เป็นสิ่งเดียวกัน โดยมีประชาชนเป็นผู้เลือกและมีอำนาจสูงสุดในการปกครองท้องถิ่นพร้อมส่วนกลางที่ทำหน้าที่ผู้ประสานงาน

ลักษณารีย์ ดวงตาดำ เชื่อว่าทุกจังหวัดพร้อมที่จะเลือกตั้งผู้ว่าฯของตัวเอง พรรคสามัญชนเสนอการปฏิรูประบบภาษีให้กลับคืนสู่พื้นที่

โดยสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ https://www.facebook.com/lanner2022/videos/1293391147921500

สามารถดาวน์โหลด Human Rights Agenda “วาระสิทธิมนุษยชน” ได้ที่ https://www.amnesty.or.th/files/1316/8109/5175/Human_Rights_Agenda_Booklet.pdf


พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

Lanner Editor
Lanner Editor
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

More like this
Related

บทเรียนจากหอยมินามาตะ ถึงปลาน้ำกก รัฐยืนยันปรุงสุก-กินได้ แต่ระยะยาวปลอดภัยแค่ไหน?

เรื่อง: สุพศิน สุทธิวรวิทย์ 12 กันยายน 2568  กรมประมงร่วมกับสำนักงานประมงอำเภอแม่อาย รายงานผลตรวจสัตว์น้ำจากแม่น้ำกก จังหวัดเชียงใหม่ โดยสุ่มเก็บตัวอย่างจากหลายจุดในพื้นที่อำเภอแม่อาย...

แรงงานภาคเหนือ ยื่นข้อเสนอถึงกระทรวงแรงงาน ‘Decent Work’ เรียกร้องยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน

24 ตุลาคม 2568 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายแรงงานภาคเหนือเข้ายื่นหนังสือข้อเสนอ Decent Work หรือ งานที่มีคุณค่า...

สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เห็ด’ CAC ชวนร่วมกิจกรรมปิดท้าย ‘FUNGI IN YOUR HEADLIGHTS’

พบศิลปิน อานนท์ นงเยาว์ และ NooN Collectiveเสาร์ที่ 25 ตุลาคมนี้ ณ...

‘บ้านหนองเต่า’ รักษาป่า รักษาวิถีชีวิต ท่ามกลางปัญหาสิทธิที่ดิน

เรื่อง: รัญชิดา อาริกุล ‘บ้านหนองเต่า’ ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ของชาวกะเหรี่ยง หรือ...