เรื่อง ปวีณา หมู่อบล
อีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งมีหมุดหมายสำคัญคือถือเอาวันที่ 31 ธันวาคม และวันที่ 1 มกราคม เป็นวันสุดท้ายและวันแรกของปี ฤกษ์ยามดังกล่าวเป็นผลมาจากอิทธิพลของการนับวันเดือนปีตามแบบปฏิทินเกรกอเรียน (Gregorian Calendar) หรือปฏิทินสากล ซึ่งเป็นระบบสุริยคติ กล่าวคือ อิงการโคจรของดวงอาทิตย์ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นปฏิทินมาตรฐานที่นิยมใช้กันไปทั่วโลก
ทว่าในอดีต ทั้งคนล้านนาและคนภาคกลาง (สยาม) ต่างก็ไม่ได้ใช้ระบบการนับวันเดือนปีแบบสุริยคติ ไม่ได้มีเดือนมกราคมเป็นเดือนแรก และไม่ได้มีเดือนธันวาคมเป็นเดือนสุดท้าย หากแต่ใช้ระบบปฏิทินแบบจันทรคติเป็นหลัก แต่ถึงอย่างนั้น ระบบปฏิทินของชาวล้านนาและชาวสยามก็ไม่ได้เป็นวัฏจักรเดียวกัน
จากการศึกษาของ ชยุตภัฏ คำมูล ชี้ให้เห็นว่าในอดีตสังคมล้านนามีระบบการนับวันเดือนปีเป็นของตนเอง ที่เรียกว่า “ปักขทืน” ซึ่งมีบทบาทต่อสังคมล้านนามานาน นับตั้งแต่ยุคเก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง เรื่อยมาจนกระทั่งสมัยเป็นประเทศราชของสยาม อันเป็นช่วงเวลาที่ “ความเป็นล้านนา” เช่น ภาษา วรรณกรรม และองค์ความรู้ด้านต่างๆ ของล้านนาถูกลดความสำคัญลง รวมทั้งถูกแทนที่ด้วยวัฒนธรรมจากสยาม ในระยะที่วัฒนธรรมต่างๆ จากภาคกลางเคลื่อนเข้ามาสู่ล้านนา ปักขทืนเองก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับองค์ความรู้อื่นๆ กลายเป็นของขึ้นหิ้ง มีเพียงพระสงฆ์บางรูป และปู่จ๋านบางท่าน ที่ยังคงเก็บรักษาและพยายามสืบทอดองค์ความรู้นี้ไว้
ว่าด้วยการนับวัน เดือน และปีในปักขทืนล้านนา
ปักขทืน หรือปฏิทินโบราณล้านนา เป็นการนับวันเดือนปีในแบบจันทรคติ (อิงกับการโคจรของดวงจันทร์) โดยคนล้านนาในอดีตจะนับวันตามระบบแบบ “วันเม็ง” ที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวมอญ เป็นการนับวันทั้ง 7 ในรอบสัปดาห์ คือนับตั้งแต่วันอาทิตย์ถึงวันเสาร์ ซึ่งในบางครั้งการบันทึกลงคัมภีร์ใบลานหรือพับสาก็มักจะออกชื่อวันโดยผสมกับภาษาบาลี หรือบ้างก็ใช้ตัวเลขแทนชื่อวัน เช่น ๑ แทนวันอาทิตย์ และ ๗ วันเสาร์ เป็นต้น
ในส่วนการนับเดือน ปักขทืนล้านนาจะมีวิธีการคำนวณเฉพาะของตนเอง โดยเริ่มจากวันขึ้น 1 ค่ำของแต่ละเดือนทางจันทรคติแบบล้านนา จากนั้นก็คำนวณตามลำดับไปจนถึงสิ้นเดือน ก่อนจะเริ่มขึ้นเดือนใหม่ในวันขึ้น 1 ค่ำถัดไป การคำนวณเดือนแบบจันทรคติล้านนาทำให้การนับเดือนแรกในปักขทืนต่างจากการนับเดือนแรกในปฏิทินแบบจันทรคติของภาคกลาง กล่าวคือ เดือนแรกในจันทรคติล้านนาจะเร็วกว่าเดือนแรกในจันทรคติของภาคกลางประมาณ 2 เดือน
ทั้งนี้ หากนำลำดับเดือนจันทรคติล้านนาและเดือนจันทรคติภาคกลาง มาเปรียบเทียบกับลำดับเดือนแบบสากลที่ใช้กันในปัจจุบันก็จะช่วยให้เห็นความแตกต่างได้ชัดเจนขึ้น ดังนี้
| ลำดับเดือนจันทรคติล้านนา | ลำดับเดือนจันทรคติภาคกลาง | ลำดับเดือนแบบสากล |
| เดือนเกี๋ยง หรือเดือนเจี๋ยง | เดือนสิบเอ็ด | เดือนตุลาคม |
| เดือนยี่ | เดือนสิบสอง | เดือนพฤศจิกายน |
| เดือนสาม | เดือนอ้าย | เดือนธันวาคม |
| เดือนสี่ | เดือนยี่ | เดือนมกราคม |
| เดือนห้า | เดือนสาม | เดือนกุมภาพันธ์ |
| เดือนหก | เดือนสี่ | เดือนมีนาคม |
| เดือนเจ็ด | เดือนห้า | เดือนเมษายน |
| เดือนแปด | เดือนหก | เดือนพฤษภาคม |
| เดือนเก้า | เดือนเจ็ด | เดือนมิถุนายน |
| เดือนสิบ | เดือนแปด | เดือนกรกฎาคม |
| เดือนสิบเอ็ด | เดือนเก้า | เดือนสิงหาคม |
| เดือนสิบสอง | เดือนสิบ | เดือนกันยายน |
และในส่วนการเปลี่ยนปีใหม่ คนล้านนาในอดีตจะใช้ระบบสุริยคติโดยอิงกับคัมภีร์ที่มีชื่อเรียกแตกต่างกัน เช่น สุริยยาตร์ เพทังคศาสตร์ มัธยมสิทธานต์ และคัมภีร์มูลละ เป็นต้น ซึ่งจะต้องคำนวณโดยผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ แต่โดยมากแล้วก็มักจะตรงกับเดือนเมษายน (ตามปฏิทินแบบสากล) ในช่วงวันที่ 13, 14 และ 15 ของเดือน ซึ่งจะเรียกกันว่า “วันปี๋ใหม่เมือง”
ทั้งนี้ ปักขทืนล้านนาก็ใช้ระบบ 12 ปีนักษัตรในการนับรอบปี ซึ่งชาวล้านนาจะเรียกว่า “ปีเปิ้ง” โดยการนับปีเปิ้งของชาวล้านนาก็มีต่างออกไปจากการนับปีนักษัตรทั่วไป คือมีเรียกปีเฉพาะของตนเอง และเปลี่ยนรูปสัตว์จากหมูมาเป็นช้าง ดังนี้
| 12 ปีนักษัตรแบบล้านนา/ปีเปิ้ง | 12 ปีนักษัตรแบบจีน | รูปสัตว์ |
| ปีใจ้ | ปีชวด | หนู |
| ปีเปล้า | ปีฉลู | วัว |
| ปียี | ปีขาล | เสือ |
| ปีเหม้า | ปีเถาะ | กระต่าย |
| ปีสี | ปีมะโรง | งูใหญ่ |
| ปีใส้ | ปีมะเส็ง | งูเล็ก |
| ปีสะง้า | ปีมะเมีย | ม้า |
| ปีเม็ด | ปีมะแม | แพะ |
| ปีสัน | ปีวอก | ลิง |
| ปีเร้า | ปีระกา | ไก่ |
| ปีเส็ด | ปีจอ | หมา |
| ปีใค้ | ปีกุน | แบบล้านนาใช้ ช้างแบบจีนใช้ หมู |
ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่าปักขทืนเคยมีอิทธิพลมากต่อสังคมล้านนาและได้ถูกลดความสำคัญลงภายหลังการกลายเป็นประเทศราชของสยาม แต่ถึงอย่างนั้นปักขทืนก็ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมากทั้งจากพระสงฆ์ ปู่จ๋าน และปราชญ์ล้านนาหลายท่าน ผ่านการผสมผสานระหว่างปักขทืนแบบหน้าเดือน (เฉพาะ 1 เดือน) และปฏิทินแบบสากล ซึ่งช่วยทำให้ปักขทืนได้กลับมามีบทบาทต่อสังคมล้านนาอีกครั้ง โดยเฉพาะเนื้อหาในส่วนที่ว่าด้วยเรื่อง “มื้อจั๋นวันดี”
มื้อจั๋นวันดี : วันดีวันเสีย รายละเอียดของฤกษ์ยามที่คือความเฉพาะของปักขทืนล้านนา
มื้อจั๋นวันดี เป็นหนึ่งในเนื้อหาของปักขทืนล้านนา คือส่วนที่ว่าด้วยวันดีวันเสีย หรือฤกษ์งามยามดีและฤกษ์ร้ายยามเสียในปฏิทินล้านนา ซึ่งถือเป็นเนื้อหาในระบบปฏิทินที่สะท้อนภูมิปัญญาของชาวล้านนาได้อย่างชัดเจน เพราะเป็นการนับวันทั้งในระบบจันทรคติและสุริยคติ ร่วมกับการใช้ปีจุลศักราชในการคำนวณเพื่อกำหนดปี
วันดีวันเสียนี้มีอิทธิพลและบทบาทอย่างสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของชาวล้านนา กระทั่งในปัจจุบัน ปักขทืนที่ได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ก็ยังคงมีเนื้อหาของวันดีและวันเสียกำกับเอาไว้ชัดเจน อาทิ วันเก้ากอง ซึ่งเป็นวันที่จะทำกิจการใดๆ ก็ดีทุกอย่าง, วันฟ้าตีแส่ง (ฟ้าตี่แสง) อันเป็นวันที่ใช้สำหรับงานมงคลอย่างงานสมรส งานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ งานเปิดร้านค้า เปิดสำนักงาน เชื่อกันว่าเป็นดีกว่าอื่นๆ ทั้งหลาย และวันม้วย ซึ่งเป็นวันเสีย ถือเป็นวันที่ทำอะไรไม่เจริญไม่ประสบความสำเร็จ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี การกำหนดวันดีและวันเสียในปักขทืนล้านนาเองก็มีหลากฉบับหลายสำนวน แต่ที่สำคัญๆ นั้นจะได้แก่ ฉบับวัดธาตุคำ ฉบับวัดหนองปลามัน ฉบับชมรมปักขทืนล้านนา ฉบับสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและล้านนาสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และฉบับโครงการจัดพิมพ์ปฏิทินและผลงานปริวรรตเอกสารล้านนาวัดน้ำลัด (ต.นาปรัง อ.ภูเพียง จ. น่าน)
โดยสรุปแล้ว ปักขทืนล้านนา ก็คือระบบการนับวันเดือนปีแบบล้านนา ที่นอกจากจะใช้บอกวันเวลาเช่นเดียวกับปฏิทินโดยทั่วไปแล้ว ยังมีรายละเอียดมื้อจั๋นวันดี หรือวันดีวันเสีย ซึ่งช่วยทำให้รู้วันที่เหมาะสมกับการประกอบกิจกรรมหรือพิธีกรรมต่างๆ ได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดแล้ว ปักขทืนถือเป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาและอัตลักษณ์ของล้านนาได้อย่างชัดเจน
อ้างอิง
ชยุตภัฎ คำมูล. หนึ่งทศวรรษแห่งพัฒนาการปักขทืนล้านนา. ออนไลน์. เข้าถึงได้ที่: https://journal-liberalarts.mju.ac.th/wtms_newsDetail.aspx?nID=6762&lang=th-TH
พระครูอดุลสีลกิตติ์ (ประพัฒน์ ฐานวุฑฺโฒ). วันดี วันเสีย ฤกษ์ยาม ตามปฏิทินล้านนา ฉบับวัดธาตุคำ. ออนไลน์ เข้าถึงได้ที่: https://www.finearts.go.th/storage/contents/file/tLAfmFTcHRfxBwOCzDOqKJSib70N2XMtOinGyrMk.pdf
“ปีเปิ้ง” ล้านนากับพหุวัฒนธรรมความเป็นสากล. ออนไลน์. เข้าถึงได้ที่: https://www.cmcity.go.th/News/25337-%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%87%E2%80%9D%20%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B2%20%20%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%20%E0%B8%9E%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A5.html
