แรงงานกลางแจ้งเชียงใหม่ต้องเผชิญกับอะไร ในภาวะที่โลกเดือดและฝุ่นพิษ

Date:

ปี 2566 ที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  โดยกล่าวว่ายุคโลกร้อน (Global Warming) สิ้นสุดลงแล้ว และขณะนี้ได้เข้าสู่ยุคโลกเดือด (Global Boiling) สถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดภัยพิบัติต่างๆ เช่น ไฟไหม้ป่า ภัยแล้ง น้ำท่วมฉับพลันเพิ่มขึ้น และรุนแรงมากขึ้นทั้งยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยจากมลพิษทางอากาศและภัยแล้ง การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากน้ำท่วม รวมถึงการเสียชีวิตจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด อีกทั้ง องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังได้คาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุเสียชีวิตจากความร้อนในอัตรา 58 ต่อแสนประชากร หรือ 14,000 คน ภายในปี 2623 หรือในอีก 57 ปีข้างหน้า

ผศ.ดร.ธรณ์ ธรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาเตือนถึงภาวะโลกเดือดที่กำลังเกิดขึ้นโดยอธิบายว่า “โมเดลล่าสุดทำนายว่า ปีนี้เอลนีโญอาจทำให้เมืองไทยร้อนเป็นประวัติการณ์ เอลนีโญจะจบลงช่วงเดือนมิถุนายน แต่ช่วงครึ่งปีแรกโลกจะร้อนเดือดไปทุกหนแห่ง หลายประเทศอาจร้อนจนทะลุสถิติเดิมในปีก่อน มีประเทศไทยอยู่ในเขตนั้นด้วย”

ภาพจาก Facebook : Thon Thamrongnawasawat

เสียงของแรงงานกลางแจ้ง จะมีบ้างไหมใครจะได้ยิน? 

รายงานจาก World Academic Forum เผยว่าระยะ 10 ปีต่อจากนี้ งานประมาณ 1.2 พันล้านตำแหน่ง หรือร้อยละ 40 ของแรงงานทั่วโลก จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่เกิดจากความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม และแรงงานที่ได้รับผลมากที่สุดคือแรงงานในประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย ต้องทนทำงานภายใต้ความร้อนจนไม่อาจทำงานได้ ซ้ำร้ายจะส่งผลต่อระดับผลิตภาพของแรงงาน ส่งผลต่อระดับเศรษฐกิจโดยรวม นี่จึงเป็นวาระสำคัญที่คนต้องหันมาสนใจว่าการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเป็นเรื่องที่ต้องผลักดันไปพร้อมกัน

เอก (นามสมมติ) แรงงานข้ามชาติจังหวัดเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์กับ Lanner ว่าตนและครอบครัวพักอาศัยอาศัยอยู่ในห้องเช่าในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงหน้าร้อนอุณหภูมิภายในห้องพักจะสูงมากจนนอนไม่ได้ ทำให้ตนกับครอบครัวต้องออกมานอนพื้นบริเวณนอกห้องพักเพื่อคลายร้อนในเวลากลางคืน ซึ่งออกมานอนเช่นนี้ตั้งแต่ปีที่แล้วในช่วงฤดูร้อนและเป็นช่วงที่สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 รุนแรงมากที่สุด ในปีนี้ก็เช่นกันที่ครอบครัวของเอกพร้อมกับเพื่อนบ้านผู้เช่าห้องข้างเคียง ต่างออกมานอนนอกห้องพักในเวลากลางคืน หรือเด็กนำตัวลงไปแช่นำ้ในอ่างผสมปูน และนำเสื้อที่เปียกชื้นมาสวมเพื่อบรรเทาความร้อน อีกทั้งยังต้องเผชิญกับฝุ่น PM2.5 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ภาพเด็กนำตัวลงไปแช่นำ้ในอ่างผสมปูนเพื่อคลายร้อน

“เริ่มออกมานอนข้างนอกเนื่องจากปีนี้รุนแรง แต่ปีที่แล้วก็มีออกมานอน แต่ไม่ได้เยอะเท่านี้ รุนแรงเท่านี้ ปีนี้ออกมานอนกันเกือบทุกห้อง เพราะมันไม่ไหว ร้อนไม่ไหว จะอาบน้ำ จะเอาเสื้อที่เปียก ๆ มาใส่ตอนอยู่ในห้องก็ไม่ไหว พยายามหาวิธีคลายร้อนโดยที่ไม่ออกไปนอกห้องแล้วแต่มันไม่ไหว ก็เลยจำเป็นต้องออกมา ปีที่แล้วก็ทำแบบนี้กันประมาณ 2-3 อาทิตย์ ในช่วงเดือนเมษายน ส่วนปีนี้เริ่มมา 1-2 สัปดาห์แล้ว” เอก กล่าว

ภาพครอบครัวของเอกและเพื่อนบ้านออกมานอนนอกห้องพักเพื่อคลายร้อน

เอกและครอบครัวมีอาชีพกรรมกรก่อสร้าง ทั้งวันในการทำงานเอกและครอบครัวต้องเผชิญกับภัยความร้อนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าจะป้องกันให้ตัวเองในระดับหนึ่ง เช่น การหาสแลมมาบังแดดขณะทำงาน และนำนำ้มารดตัวเองให้เปียกอยู่ตลอดเพื่อเพิ่มความชื้นให้กับร่างกาย 

ภาพการทำงานของเอกและครอบครัว

“ถ้าต้องก่อสร้างสิ่งที่อยู่กลางแจ้ง เช่น สร้างสระว่ายน้ำ เขาจะให้ทำหน้าร้อนเพราะหน้าฝนมันทำยาก พวกโครงสร้างสระว่ายน้ำจึงให้ทำในหน้าร้อน ตอนทำก็หาสแลมมาคลุมเอา ซึ่งทรมานมาก เพราะต้องลงไปในบ่อลึกที่ขุดไว้และปูกระเบื้องที่เมื่อโดนแดดแล้วตัวกระเบื้องจะร้อนมาก ๆ บางครั้งก็ใช้วิธีเอาน้ำมาราดหัวแล้วก็ไปทำงานต่อ ถ้าน้ำแห้งแล้วก็เอาน้ำมาราดหัวใหม่แล้วก็ไปทำงานต่อ ทำซ้ำไปซ้ำมา” เอก กล่าว

ภาพการทำงานของเอกและครอบครัว

รัฐในทำอะไรในภาวะโลกเดือด

พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดงานวันความปลอดภัยและอาชีวอนามัยสากล ประจำปี พ.ศ.2567 ภายใต้หัวข้อ “ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อความปลอดภัยและชีวอนามัย” ถึงปัญหาสภาพอากาศ ว่า ในปัจจุบันที่อากาศร้อนจัด โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ขณะนี้อุณหภูมิประมาณ 40-43 องศาเซลเซียส ผู้ใช้แรงงานหากรู้สึกร้อนจนเกินไปให้พยายามจิบน้ำบ่อยๆ เวลาทํางานให้ใส่เสื้อผ้าสีอ่อนๆ และไม่ควรสวมใส่เสื้อผ้าหลายชั้น เพื่อให้การระบายความร้อนดีขึ้น และที่สำคัญเวลาออกไปทำงานควรจะอยู่กันเป็นกลุ่ม หากเกิดโรคลมแดด (ฮีทสโตรก) ขึ้นมาจะได้ช่วยเหลือกันได้ รวมทั้งต้องหลีกเลี่ยงการทำงานกลางแจ้งในขณะที่แดดร้อน ๆ เพื่อเป็นการรักษาอุณหภูมิในร่างกายไม่ให้ร้อนจนเกินไป

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ

พิพัฒน์ ยังฝากไปถึงเจ้าของกิจการ หรือผู้ประกอบการ ควรจะดูแลผู้ใช้แรงงานในขณะทํางานในช่วงที่สภาพอากาศร้อนจัด ให้ทำงานในที่มีความเหมาะสม ถ้าหากอากาศร้อนจนเกินไป ควรงดทำงานกลางแจ้ง หรือหากจำเป็นต้องทำงานกลางแจ้งโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรติดตั้งพัดลมไอน้ำ เพื่อเป็นการลดอุณหภูมิให้กับลูกจ้าง

ด้าน เอก ได้ระบายกับ Lanner ว่ากลุ่มแรงงานข้ามชาติของตนเข้าไม่ถึงมาตรการของทางรัฐ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในช่วงเดือนเมษายนที่จังหวัดเชียงใหม่จะมีค่า AQI สูงเป็นอันดับ 1 ของโลกเป็นประจำทุกปี ซึ่งกลุ่มของตนไม่ได้รับหน้ากากอนามัยหรือมีสวัสดิการการตรวจสุขภาพในระบบทางเดินหายใจ และในสถานการณ์ช่วงหน้าร้อนมีอุณหภูมิสูงมากจนอาจเกิดความอันตรายต่อสุขภาพได้ ทำให้เอกร้องให้รัฐออกนโยบายที่ครอบคลุมแรงงานข้ามชาติและแรงงานกลางแจ้งอย่างพวกตน 

“มาตรการรัฐมันมาไม่ถึงเรา เราก็เอื้อมไม่ถึงมาตรการรัฐ ไม่มีมาตรการในเรื่องฝุ่น PM2.5 และภัยความร้อนต่อแรงงานเลย ยิ่งเป็นแรงงานข้ามชาติยิ่งไม่ได้อะไรเลย อีกทั้งแรงงานข้ามชาติยิ่งไม่สามารถมีบ้านเป็นของตัวเองต้องเช่าเอา และอยากให้ออกนโยบายเกี่ยวกับช่วงฝุ่น PM2.5 และช่วงหน้าร้อนให้กับแรงงาน ไม่ว่าจะเพื่อแรงงานข้ามชาติหรือแรงงานทั่วไปก็ดี เช่น เรื่องค่าไฟที่จะพอช่วยเหลือแรงงานหรือแรงงานข้ามชาติมากขึ้น และนายจ้างควรจะจัดพื้นที่ให้แรงงานอยู่แบบถ่ายเทอากาศมากกว่านี้ หรือในช่วง PM2.5 ควรมี marks แจกให้กับลูกน้อง” เอก กล่าว

วิจิตรา ดวงดี ผู้จัดการโครงการ Outreach Southeast Asia Pulitzer Center กล่าวในโครงการดังกล่าวว่า แรงงานฐานรากกลายเป็นด่านหน้าในการเผชิญกับภาวะที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งที่พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่ากลุ่มทุนทั้งหลาย เช่น

–    ไรเดอร์ส่งอาหาร ต้องเผชิญกับความร้อนในการขับขี่ยานยนต์ ที่มีผลการศึกษาออกมาแล้วว่า เหมือนกับมีไดร์เป่าผมมาจ่อหน้าอยู่ตลอดเวลา

–    เกษตรกร ต้องเผชิญความเสี่ยงที่ผลิตผลลดลง จนหลายคนต้องทิ้งไร่นามาทำงานในเมือง และกลายเป็น ‘คนจนเมือง’ ในที่สุด

–    ชาวประมง ต้องเผชิญกับวิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ​ โดยที่พวกเขาไม่สามารถเข้าไปแก้ไขได้ เพราะอยู่เหนือการควบคุม และอาจลงเอยที่พวกเขาต้องสูญเสียเงินและงานไป

อากาศยิ่งร้อน ยิ่งใช้เงินมาก

ตามการวิเคราะห์ที่เผยแพร่ในวารสาร Nature เผยให้เห็นว่าหากโลกยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อไป ผู้คนจะได้รับเงินจากการทำงานน้อยลงไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหนก็ตาม แต่ผลกระทบนั้นจะไม่เท่ากันอย่างยุติธรรม โดยเฉพาะกับคนที่ยากจน ก็จะยิ่งจนลงไปอีก ทำให้ความเท่าเทียมเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม เราทุกคนสามารถมองเห็นผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย เช่น เกษตรกรไม่สามารถปลูกพืชของพวกเขาได้เหมือนเดิมอีกต่อไป ชาวประมงจับปลาได้น้อยลง อากาศร้อนยังทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ข้าวของแพงขึ้น และผู้คนก็ต้องใช้จ่ายเงินเพื่อคลายความร้อน ปัจจัยต่าง ๆ ทำให้เงินที่เราหามาได้มีคุณค่าลดน้อยลงไป และที่สำคัญ คนที่รายได้น้อยอยู่แล้ว ก็จะยิ่งน้อยลงไปอีก พวกเขาจะมีเงินในการดำรงชีวิตน้อยลงเนื่องจากรายได้หดตัว และเงินที่มีอยู่ก็ต้องนำไปใช้จ่ายกับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากภาวะโลกร้อน พร้อมกับซื้อของต่าง ๆ เพื่อดับร้อน ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนไม่จำเป็น

แม้ว่าในปีนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้มีมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ตามนโยบายรัฐบาล ระหว่างเดือนมกราคม – เมษายน 2567 โดยลดค่าไฟฟ้า 21 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน ลดค่า Ft สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทจาก 89.55 สตางค์/หน่วย เป็น 39.72 สตางค์/หน่วย แล้วก็ตาม แต่สำหรับคนที่พักอาศัยตามห้องเช่าหรือหอพักไม่สามารถเข้ารับมาตรการดังกล่าวได้ การออกมาตรการที่ไม่ครอบคลุมคนทุกกลุ่มอย่างที่เสียงสะท้อนของ ‘เอก’ ได้กล่าวมาข้างต้น ทำให้แรงงานกลางแจ้งเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นกว่าเดิมในฤดูร้อน ไม่ว่าจะเป็นค่านำ้ ค่าไฟ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ เช่น โรคไมเกรน อาหารเป็นพิษ โรคทางผิวหนัง เป็นต้น อีกทั้งผลกระทบจากสถานการณ์ PM2.5 ที่ทำให้แรงงานกลางแจ้งต้องซื้อหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตนเองจากฝุ่น

ท้ายที่สุดแล้ว ภาวะโลกเดือดที่อุณหภูมิสูงจนทำให้ภูมิอากาศแปรปรวนและสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่รุนแรงอย่างต่อเนื่องทุกปีในภาคเหนือ ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะปล่อยให้แรงงานกลางแจ้งหรือแรงงานทุกคนอย่างที่เอกต้องเผชิญต่อไปโดยไม่มาตรการช่วยเหลือจริงหรือ

อ้างอิง

  • Thai PBS, (2566), โปรดทราบ! ไทยเข้าสู่ “ยุคโลกเดือด” เสี่ยงกระทบสุขภาพ, เข้าถึงได้จาก https://www.thaipbs.or.th/news/content/330934
  • Environman, (2567), รู้หรือไม่ โลกรวนทำคนจนลง 20% คนที่ยากจน ก็จะยิ่งจนลงอีก, เข้าถึงจาก https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=739938041681826&id=100069969091464&rdid=Gcm8TtsdF9tEieTw
  • The ACTIVE, ‘แรงงานไทย’ ด่านหน้า โดนวิกฤตภูมิอากาศเล่นงานมากที่สุด, เข้าถึงจาก https://theactive.net/news/socialmovement-20240503/
  • พรรคภูมิใจไทย, (2567), โลกเดือด !!! ห่วงใยผู้ใช้แรงงาน แนะ 6 ข้อช่วงอากาศร้อนจัด, เข้าถึงจาก https://bhumjaithai.com/news/96718
  • PEA, (2567), PEA แจ้งมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่ใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนมกราคม – เมษายน 2567

นักมานุษยวิทยามือสมัครเล่น ผู้ที่สนใจประเด็นทางสังคมรอบตัว และพยายามตามหาคำตอบเพื่ออธิบายปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังพัฒนาการสื่อสารประเด็นทางสังคมในหลากหลายรูปแบบ เพื่อต้องการให้สังคมเกิดการรับรู้เพิ่มขึ้น

วิชชากร นวลฝั้น
วิชชากร นวลฝั้น
นักมานุษยวิทยามือสมัครเล่น ผู้ที่สนใจประเด็นทางสังคมรอบตัว และพยายามตามหาคำตอบเพื่ออธิบายปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังพัฒนาการสื่อสารประเด็นทางสังคมในหลากหลายรูปแบบ เพื่อต้องการให้สังคมเกิดการรับรู้เพิ่มขึ้น

More like this
Related

เชียงใหม่รวมพลังเครือข่าย “เปิดโลกคนไร้บ้าน” ขับเคลื่อนระบบคุ้มครองคนไร้ที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่ลานประตูท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ คณะทำงานคนไร้บ้านเมืองเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่าย...

ไร้ความคืบหน้า ประชาชนลุ่มน้ำกก-สาย-รวก-โขง ร้องรัฐเร่งแก้ปัญหามลพิษเหมืองเมียนมา

21 ตุลาคม 2568 สืบสกุล กิจนุกร โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนสารโลหะหนักในแม่น้ำกก-สายรวก-โขงจากเหมืองแร่ในเมียนมา โดยระบุถึงนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกุล...

สภาฯ ผ่านฉลุยร่าง ‘พ.ร.บ.อากาศสะอาด’ 309 เสียง เตรียมส่งต่อวุฒิสภา กมธ.ชี้เป็น ‘อาวุธใหม่’ ทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ให้คนไทย

21 ตุลาคม 2568 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติ ‘เห็นชอบ’ ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. ... ในวาระที่...

เจียงใหม่กำลังจะ “โฮะ” แหมรอบ!

กับ Chiang Mai HO Zix เทศกาลดนตรีตี้รวมศิลปินออริจินัลเชียงใหม่ไว้นักที่สุดกว่า 40 วง 4...