‘แรงงานชนะ’ ศาลฎีกายืนคำพิพากษาให้แรงงานข้ามชาติ 35 ราย รับเงินเยียวยา 9 แสนจากกองทุนลูกจ้าง

Date:

5 สิงหาคม 2568 ศาลแรงงานภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีหมายเลขดำ ร212–246/2564 และคดีหมายเลขแดง ร58–92/2565 โดยศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลแรงงานภาค 5 และศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ให้แรงงานข้ามชาติและไร้สัญชาติ 35 ราย มีสิทธิได้รับเงินจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 939,770 บาท หลังจากถูกบริษัทซับคอนแทรคเบี้ยวค่าจ้างระหว่างที่ทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่

คดีนี้เริ่มต้นในปี 2563 เมื่อแรงงานกลุ่มนี้ไม่ได้รับค่าจ้างและค่าชดเชย แม้พนักงานตรวจแรงงานจะมีคำสั่งให้นายจ้างจ่ายเงินตามกฎหมาย แต่นายจ้างกลับเพิกเฉย มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (HRDF) จึงเข้าช่วยเหลือและยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างแทนแรงงานทั้งหมด 38 ราย

ในปี 2564 คณะกรรมการกองทุนฯ กลับอนุมัติเงินช่วยเหลือเฉพาะแรงงานไทยเพียง 1 ราย ส่วนอีก 37 คน ซึ่งเป็นแรงงานข้ามชาติและไร้สัญชาติ ถูกปฏิเสธ โดยอ้างว่าใบอนุญาตทำงานไม่ตรงกับนายจ้างที่ปฏิบัติงานจริง และบางรายไม่มีเอกสารเข้าเมืองที่ถูกต้อง

แรงงานจึงฟ้องต่อศาลแรงงานภาค 5 ซึ่งมีคำพิพากษาในปี 2565 ให้เพิกถอนมติดังกล่าว และให้จ่ายเงินแก่แรงงาน 35 ราย (บางรายเดินทางกลับประเทศต้นทางแล้ว) ต่อมาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษมีคำพิพากษายืนตาม และล่าสุด ศาลฎีกาได้วินิจฉัยยืนตามคำตัดสินเดิม

ศาลฎีกาชี้ว่า การจำกัดสิทธิแรงงานจากสถานะการเข้าเมือง เป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 126 การไม่อนุมัติเงินสงเคราะห์ให้แรงงานกลุ่มนี้จึงถือเป็นการตีความกฎหมายเกินเลย และต้องเพิกถอนมติของคณะกรรมการกองทุนฯ และคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัด

นอกจากนี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การอุทธรณ์ของคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง และผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ใช่อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง จึงอยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลฎีกา

จาย แสง (นามสมมุติ) หนึ่งในแรงงานที่ร่วมฟ้องคดีเล่าว่า เหตุผลที่เขาลุกขึ้นมาสู้ เพราะนายจ้างค้างค่าจ้างนานถึง 45 วัน จนหลายคนไม่มีเงินเช่าห้อง ไม่มีข้าวกิน เขาและเพื่อนๆ จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลุกขึ้นมาดำเนินคดี ซึ่งคำพิพากษาวันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้สิทธิของแรงงานข้ามชาติได้รับการยอมรับ จึงรู้สึกดีใจกับคำวินิจฉัยในครั้งนี้

ศุกาญจน์ตา สุขไผ่ตา นักปกป้องสิทธิแรงงาน ให้ความเห็นว่า แม้คำพิพากษาจะออกมาในทางที่ดี แต่ยังมีคำถามสำคัญตามมา เช่น แรงงานจะได้รับเงินเมื่อไร และใครมีอำนาจสั่งจ่ายเงิน ดังนั้นภารกิจของภาคประชาชนยังไม่จบ

เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเคยเป็นกลไกที่แรงงานเข้าถึงได้จริง แต่ต่อมาระเบียบกลับถูกเปลี่ยน ขัดกับแนวทางที่ประเทศไทยกำลังผลักดันเรื่อง BHR (ธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชน) คำพิพากษานี้จึงควรถูกใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการรณรงค์เพื่อให้มีการปรับระเบียบให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนสากล รวมถึงเป็นโอกาสให้สถานประกอบการตระหนักว่าความมั่นคงของแรงงานคือรากฐานสำคัญของการผลิตที่ยั่งยืน

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

มองบ้านใหญ่ภาคเหนือในเลือกตั้ง 69: 18 ตระกูลย้ายพรรค–22 ตระกูลปักหลักที่เก่า–อีก 3 ตระกูลก้าวจากท้องถิ่นสู่การเมืองระดับชาติ

‘บ้านใหญ่’ ไม่ได้หมายถึงครอบครัวที่เล่นการเมืองเพียงครอบครัวเดียว แต่หมายถึงเครือข่ายตระกูลการเมืองที่สืบทอดบทบาทและอิทธิพลต่อเนื่องยาวนาน โดยที่สมาชิกในเครือข่ายมักกระจายตัวอยู่ทั้งในสนามการเมืองท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้รับเหมางบประมาณ และภาคธุรกิจ  ในการเลือกตั้งปี 2569 ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้...

เมืองที่ ‘ทุกคนต้องมีรถ’ ถึงจะใช้ชีวิตได้ ชีวิตคนพิจิตรในวันที่ขนส่งสาธารณะจังหวัดพึ่งพาไม่เคยได้

เรื่อง: สุทธิกานต์ วงศ์ไชย, ภาพ: ภูบดี หิรัญวิวัฒน์วงศ์ แม้ในต่างจังหวัด ผู้คนยังคงต้องพึ่งพาขนส่งสาธารณะในชีวิตประจำวัน แต่ระบบที่ควรทำหน้าที่รองรับกลับค่อยๆ หดเล็กลงเรื่อยๆ...

เด็กหนึ่งคนคืออนาคตของหลายสังคม สิทธิการศึกษาเด็กไร้พรมแดนจากเมียนมา ที่ ‘เรียนได้’ แต่ ‘ไปต่อไม่ได้’

เรื่อง: กุลธิดา กระจ่างกุล  ท่ามกลางรอยแบ่งพรมแดนระหว่างประเทศ ไปจนถึงเส้นแบ่งสถานะทางสังคม ‘การศึกษา’ ถูกยกให้เป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และเป็นเครื่องมือทรงพลังในการสร้างความเสมอภาคแก่ผู้คน แต่สำหรับเด็กข้ามชาติและเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติในประเทศไทย การศึกษาอาจ...

ชาวเชียงใหม่จัดกิจกรรมสองขั้วท่ามกลางความตึงเครียดไทย–กัมพูชา ทั้งฝ่ายต่อต้านสงครามและฝ่ายให้กำลังใจทหาร

24 ธันวาคม 2568 เวลา 17.00 น. ชาวเชียงใหม่กลุ่มหนึ่งรวมตัวจัดกิจกรรมแสดงจุดยืน “ต่อต้านสงคราม ไทย–กัมพูชา”...