25 สิงหาคม 2568 มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ Shan Human Rights Foundation (SHRF) ออกแถลงการณ์เปิดเผยข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมและวิดีโอคลิปล่าสุด ระบุว่า พบการทำเหมืองแรร์เอิร์ธอย่างน้อย 19 แห่ง ภายใต้การควบคุมของ กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (National Democratic Alliance Army – NDAA) หรือที่รู้จักในชื่อ ‘กองทัพเมืองลา’ บริเวณเขตเมืองยอง ทางตะวันออกของรัฐฉาน ห่างจากแม่น้ำโขงเพียง 40 กิโลเมตร
ข้อมูลดาวเทียมเปรียบเทียบตั้งแต่ปี 2564 พบว่า เดิมมีเหมืองแรร์เอิร์ธเพียง 3 แห่ง แต่ถูกทิ้งร้างไปทั้งหมด ขณะที่แหล่งเหมืองใหม่ 19 แห่งที่ปรากฏในปี 2568 แสดงให้เห็นการขยายตัวของเหมืองแร่อย่างชัดเจนในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เหมืองเหล่านี้มีลักษณะบ่อสกัดแร่เป็นวงกลมหลายชั้น ใช้วิธีการทำเหมืองแบบละลายแร่ (in-situ leaching) ซึ่งเป็นเทคนิคที่เคยพบในรัฐคะฉิ่น


จากวิดีโอที่คนงานเหมืองโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ ยังพบอุปกรณ์การทำเหมืองจำนวนมาก รวมทั้งกระสอบสารเคมีหลายพันกระสอบ และท่อส่งสารเคมีที่วางตามไหล่เขาเพื่อละลายแร่หายาก ข้อมูลระบุว่า ปัจจุบันมีเหมือง 16 แห่งที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน และอีก 3 แห่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
เหมืองส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาสูง 4,000-5,000 ฟุต ห่างจากชายแดนจีนเพียง 4 กิโลเมตร โดยมีการปล่อยน้ำเสียลงสู่ลำธารซึ่งไหลลงสู่แม่น้ำโหลย (Lwe River) สาขาของแม่น้ำโขง นอกจากนี้ยังพบเหมืองอีก 4 แห่งที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำโหลย และปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำเช่นกัน
แม่น้ำโหลยไหลลงไปรวมกับแม่น้ำโขงที่เมืองสบโหลย ฝั่งตรงข้ามกับแขวงหลวงน้ำทา ประเทศลาว อยู่ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำราว 125 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดบรรจบชายแดนไทย–ลาว–เมียนมา ทำให้เกิดความกังวลว่าการทำเหมืองอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพน้ำในระดับภูมิภาค
พื้นที่ที่เหมืองตั้งอยู่นั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพ NDAA หรือเขตปกครองพิเศษที่ 4 ซึ่งดำเนินการปกครองตนเองมาตั้งแต่การลงนามหยุดยิงกับรัฐบาลทหารเมียนมาเมื่อปี 2532 นอกจากเหมืองแรร์เอิร์ธแล้ว ยังมีเหมืองแมงกานีสขนาดใหญ่ยาวกว่า 8 กิโลเมตรตามแนวเทือกเขาติดพรมแดนจีน โดยมีการจ้างแรงงานจีนจำนวนมากตั้งแต่ปี 2549 และส่งผลกระทบต่อชุมชนชาติพันธุ์ท้องถิ่น รวมทั้งทำให้สิ่งแวดล้อมในแม่น้ำโหลยเสื่อมโทรมตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา นาย อ่อง อ่อง รัฐมนตรีรัฐฉานที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลทหารเมียนมา พร้อมด้วยพลตรีโซหล่าย ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคสามเหลี่ยม ได้เดินทางเยือนเมืองลา เพื่อพบปะกับผู้นำ NDAA แม้รายละเอียดการหารือจะไม่ได้ถูกเปิดเผย แต่ก่อนหน้านั้นเพียงหนึ่งวัน คณะผู้แทนชุดเดียวกันก็ได้เข้าพบผู้นำกองทัพว้า (United Wa State Army – UWSA) ที่เมืองป๊อกและปางซาง ในรัฐฉานตอนเหนือด้วย
การเปิดเผยครั้งนี้ของมูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ สะท้อนถึงการขยายตัวของอุตสาหกรรมเหมืองในพื้นที่ชายแดนรัฐฉาน ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมและความเสี่ยงข้ามพรมแดนในลุ่มน้ำโขงต่อไป
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...