ปีนี้ มะม่วงล้นตลาด ราคาดิ่งลง 10 เท่า เหลือกิโลละ 2-3 บาท ส่วนหนึ่งเพราะภาวะโลกรวน

เรื่อง: ณิชา เวชพานิช

ชาวสวนมะม่วงปล่อยมะม่วงเน่าคาต้น เพราะราคาขายไม่คุ้มค่าจ้างเก็บเกี่ยว อำเภอบ้านโฮ่งจังหวัดลำพูน

มะม่วงเป็นผลไม้ประจำบ้านไทย เก็บกินได้ทั่วไปที่สวนหลังบ้าน ไปจนถึงขึ้นห้างเป็นของฝากชื่อดังและส่งออกต่างประเทศ ยิ่งฤดูมะม่วงออกช่วงหน้าร้อน ช่วยทำให้วันร้อนๆ สดชื่น แต่ปีนี้เหมือนจะมีมากเกินไปจนแทบไม่ไหว

ปีนี้ ผลผลิตมะม่วงเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ไม่ว่าจะ สวนเชิงพาณิชย์หรือสวนหน้าบ้าน ต้นมะม่วงต่างออกลูกเต็มต้น รัฐบาลจัดเทศกาลกินมะม่วง หรือแม้กระทั่งจับมือกับปั๊มน้ำมันแจกมะม่วงทุกยอดใบเสร็จ 300 บาท แต่มะม่วงก็ยังคงเยอะล้นตลาด จนราคาดิ่ง ชาวสวนมะม่วงพากันปล่อยเน่าคาต้นเพราะขายได้ไม่คุ้มกับค่าจ้างเก็บ 

“ปีที่แล้ว ขายได้ 35 บาทต่อโล ปีนี้ 3.5 บาท ราคาหายไป 10 เท่า” ไพโรจน์ ลิ้มฤาษี ชาวสวนมะม่วงวัย 65 ปี เล่า เขาปลูกมะม่วงพันธุ์มหาชนกบนที่ 18 ไร่ อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน

มะม่วงเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ ชาวสวนสูงอายุหลายคนยังหวังเป็นเงินเก็บกินเกษียณ เพราะใช้กำลังดูแลสวนมะม่วงน้อยกว่าทำนา มกราคมปีนี้ ภาพต้นมะม่วงติดช่อดอกสะพรั่งเต็มต้นทำให้ใครๆ หลายคนตื่นตาตื่นใจ แต่ไม่กี่เดือนต่อมา ความรู้สึกแฮปปี้นั้นก็ดิ่งวูบ

“โควิดยังดีกว่านี้ ตอนนั้นขายได้ 15 บาท” ไพโรจน์ว่า “ปีนี้ราคาแย่ที่สุดที่เคยเจอมา”

ปีนี้มะม่วงพากันออกเต็มต้น ตั้งแต่ต้นมะม่วงหน้าบ้านจนถึงสวนพาณิชย์ ภาพ: ธีระวัฒน์ พุทธจันทร์

ทำไมปีนี้ มะม่วงเยอะ

ไพโรจน์เริ่มรู้สึกเอะใจตอนมกราคม ช่อดอกมะม่วง ลักษณะเหมืองหางงอนยาวสีเหลืองอ่อน บานสะพรั่งเต็มต้น 

นักวิชาการเผยว่า อากาศเย็นผิดปกติยาวกว่าสองอาทิตย์ช่วงเดือนมกราคม เป็นสาเหตุที่ทำให้มะม่วงติดดอกมากปีนี้ กรมอุตุวิทยาระบุว่า อุณหภูมิลดต่ำลง 1 องศาเซลเซียสทั่วประเทศ

“สภาพอากาศที่หนาวเย็นเป็นระยะเวลาค่อนข้างนานกว่าปกติตอนต้นปี ส่งผลให้มะม่วง แทงช่อดอกกันมาก ไม่ว่าต้นที่สมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์ก็ตาม” 

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วินัย วิริยะอลงกรณ์ อาจารย์สาขาวิชาพืชสวน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อผลไม้เขตร้อนในภาคเหนือช่วงหลายปีที่ผ่านมา 

มะม่วงสะสมอาหารเพื่อแทงช่อดอกได้ดีในช่วงอุณหภูมิ 10–15°C เมื่ออุณหภูมิไต่เพิ่มขึ้นจนถึงราว 30°C ดอกเพศเมียและเพศผู้จะเริ่มผสมพันธุ์ ก่อนจะติดผล อากาศหนาวต้นปีนี้ทำให้มะม่วงและผลไม้เขตร้อนอื่นๆ เช่น ทุเรียน มังคุด ลำไย หรือเงาะ สะสมอาหารและแทงช่อดอกได้มาก

นักอุตุนิยมวิทยาหลายคนเผยว่า อุณหภูมิที่ลดต่ำช่วงมกราคมอาจเป็นผลจากสภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลง มวลอากาศเย็นมากกว่าปกติจากจีนพัดเข้าสู่ไทย เป็นผลต่อเนื่องมาจากปรากฏการณ์กระแสลมวนขั้วโลกหรือที่เรียกว่า ‘โพลาร์ วอร์เท็กซ์’

โพลาร์ วอร์เท็กซ์ (Polar Vortex) คือ ความกดอากาศต่ำและอากาศเย็นขนาดใหญ่ ซึ่งหมุนวนอยู่บริเวณขั้วโลก แต่อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นกำลังทำให้ระบบธรรมชาตินี้รวน โดยกระแสลมกรด (กระแสลมแรงที่พัดอยู่ในชั้นบรรยากาศชั้นสูง) ที่เคยพัดเป็นแนวขวางกั้นอยู่ มีกำลังอ่อนลง เปิดให้อากาศเย็นบริเวณขั้วโลกดังกล่าวสามารถแผ่ขยายลงมาทางภูมิภาคตอนใต้ได้ 

“เราพบว่า กระแสลมกรดเบี่ยงเส้นทางออกจากแนวพัดปกติ เปิดให้แถบความเย็นจากขั้วโลกพัดลงมาสู่ภูมิภาคแถบอบอุ่นแบบจีน” ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย อธิบาย

“ถึงแม้ไทยจะไม่สัมผัสโพลาร์ วอร์เท็กซ์โดยตรงจากขั้วโลก แต่ก็พูดได้ว่าเราได้รับอิทธิพลทางอ้อมด้วย”

อาจารย์เสริมว่า นอกจากปัจจัยโลกร้อนแล้วนั้น อากาศหนาวช่วงมกราปีนี้ยังเป็นผลจากการทยอยเข้าสู่อิทธิพลปรากฏการณ์ลานีญาที่กระแสลมนำเอาความชื้นจากทางมหาสมุทรมา ทำให้หนาวเย็นหลายวันมากขึ้น

ขาดความเข้าใจเรื่องลมฟ้าอากาศ

ไพโรจน์คิดว่าคงผ่านมรสุมมะม่วงล้นตลาดได้ เพราะมีลูกค้ารอซื้ออยู่เกาหลีใต้ ประเทศที่นำเข้ามะม่วงจากไทยมากที่สุด แต่ฝนที่มาเร็วช่วงพฤษภาคม ก็ทำให้เปลือกเรียบเนียนของมะม่วงเต็มไปด้วยจุดด่างดำ ยอดสั่งซื้อถูกยกเลิก

เขายอมรับว่า ไม่เชื่อพยากรณ์อากาศเท่าไหร่ เลยไม่ได้เตรียมตัวรับมือฝนหนึ่งที่มาเร็วกว่าช่วงปีก่อนๆ ราวหนึ่งสัปดาห์ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศกำลังเปลี่ยนเข้าสู่ภาวะลานีญา 

ชาวสวนมะม่วงอีกรายหนึ่ง ธีระวัฒน์ พุทธจันทร์ ก็ไม่มั่นใจว่าการพยากรณ์อากาศนั้นแม่นยำ

“ผมฟังพยากรณ์อากาศจากข่าวบ้าง” ธีระวัฒน์ ของสวนมะม่วง 6 ไร่ ที่อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา กล่าว “ก็เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง”

ชาวสวนหลายคนพึ่งพาภูมิปัญญาท้องถิ่น สังเกตสภาพแวดล้อมเพื่อพยากรณ์อากาศ มะม่วงออกเยอะปีนี้ทำให้หลายคนหวนนึกถึงคำกล่าวของผู้เฒ่าผู้แก่ “ปีไหน มะม่วงออกช่อดอกมาก จะเกิดพายุฝนรุนแรง”

กรมอุตุนิยมวิทยาตรวจสอบคำกล่าวนั้นและยืนยันว่าไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ เชื่อมโยงการออกดอกมะม่วงว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดพายุรุนแรง พร้อมย้ำให้เกษตรกรหยุดปล่อยข่าวปลอม 

แต่ความเชื่อนี้อาจมีรากที่มาจากข้อสังเกตลักษณะเกิดซ้ำในธรรมชาติ ดร.สนธิ ให้ความเห็นว่า การที่สภาพอากาศปรับเข้าสู่ลานีญา ทำให้เกิดอากาศหนาวเย็นและฝนตกหนักช่วงท้ายปี ลานีญาเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งทำให้อากาศเย็นจนมะม่วงติดดอกเยอะ จึงอาจเป็นข้อสังเกตได้ 

ตัวแทนกรมอุตุฯ เผยกับ Climate Tracker Asia ว่า ยังไม่สามารถตอบได้ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นสาเหตุทำให้มะม่วงปีนี้ออกเยอะหรือไม่ โดยจะต้องศึกษาเพิ่ม ปัจจุบัน การศึกษาเพื่อเชื่อมโยงเหตุการณ์ทางธรรมชาติกับ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Attribution) ยังมีให้ศึกษาอีกมาก 

“ชาวสวนไทยยังไม่ค่อยรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบต่อการทำเกษตร น่าเสียดาย เพราะถ้ารู้ว่าอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก็ช่วยให้หาทางลดความเสียหายได้” อ.วินัย ผู้เชี่ยวชาญเกษตร กล่าว

เขาเสริมว่า เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เช่น สถานีวัดอากาศทางการเกษตรเล็กๆ ในสวนจะช่วยเกษตรกรทำความเข้าใจอากาศในไร่สวนตนได้ แต่ตอนนี้เทคนิคแบบนี้มักจะใช้อยู่แค่ในโครงการวิจัยและไม่ได้นำมาปฏิบัติใช้จริงต่อ 

ไพโรจน์ยอมรับว่าเขาไม่เชื่อพยากรณ์อากาศ เลยไม่ได้เตรียมตัวรับมือฝนที่มาเร็วจนทำลายมะม่วงส่งออก

ทางรอด ฝ่ามะม่วงล้น

ระหว่างที่ชาวสวนมะม่วงไทยพยายามปรับตัวกับสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หลายคนก็มีวิธีการเอาตัวรอดอย่างสร้างสรรค์

เจ้าของสวนมะม่วงหลายคนคอยโพสต์ภาพต้นมะม่วงสำหรับฤดูกาลนี้ในกลุ่มเฟซบุ๊ก ให้ลูกค้าจองล่วงหน้า บางคนใช้เทคนิคพ่นกรดจิบเบอเรลลิก (ฮอร์โมนจีเอ) เพื่อชะลอการเติบโตของผล จะได้โตเต็มที่ช้าลง แล้วขายหลังพ้นระยะล้นตลาดให้ได้ราคาสูงขึ้น โดยอาจได้ 20 บาทต่อกิโลกรัม

แต่การพ่นฮอร์โมนจีเออาจมีความเสี่ยงระยะยาว เพราะมีงานวิจัยศึกษาว่า แม้จีเอจะใช้อย่างแพร่หลายในประเทศกำลังพัฒนา แต่ก็อาจจะกระทบกับสุขภาพผู้บริโภคและความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้ 

สำหรับไพโรจน์ ทางออกคือขายมะม่วงเปลือกกระดำกระด่างให้สหกรณ์แปรรูปแถวบ้าน เปลี่ยนผลไม้ ‘หน้าตาไม่สวย’ เป็นมะม่วงอบแห้ง ‘วิสาหกิจชุมชน พัฒนาผลิตภัณฑ์พืชผักสมุนไพรและผลไม้’ อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน มีสมาชิกชาวสวนมะม่วงกว่า 50 คน รับซื้อมะม่วงมาปอก แล้วเข้าเครื่องฟรีซดราย กลายเป็นมะม่วงแห้ง ส่งขายเป็นขนมติดร้านกาแฟแฟรนไชส์ เก็บไว้กินได้ถึงสองปี ช่วยเพิ่มมูลค่า 3-4 เท่าเทียบกับราคาขายมะม่วงสด 

“วันนึง เราแปรรูปได้ประมาณ 120 ตะกร้า” เยาวเรศ หลวงมูล รองประธานวิสาหกิจอธิบาย “ปีนี้ เราแปรรูปมะม่วงเยอะกว่าปีก่อนสามเท่า ถ้ามีศักยภาพมากกว่านี้ มีเครื่องมือพร้อม เราก็อยากทำเพิ่ม ชาวสวนบ้านเราจะได้ขายมะม่วงได้”

มะม่วงล้นตลาดปีนี้เป็นแค่ผลกระทบมุมเดียวจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปี 2561  อากาศร้อนจัดทำให้มะม่วงออกดอกน้อยและยังเจอเพลี้ย กระทบกับรายได้ชาวสวนในอีกทางหนึ่ง

เยาวเรศ ซึ่งเป็นชาวสวนมะม่วงเองคนหนึ่งเชื่อว่า อุตสาหกรรมผลไม้ไทยจะต้องมีการวางแผนล่วงหน้า ครอบคลุมตั้งแต่พยากรณ์อากาศ วางแผนเพาะปลูก แนวทางแปรรูป จนถึงทำการตลาดขาย ที่สำคัญที่สุด ชาวสวนต้องได้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจะได้ไม่ถูกปล่อยทิ้งไว้กับผลไม้เน่าล้นตลาด

“ปีนี้หนักมากสำหรับชาวสวนมะม่วง แต่เรื่องผลไม้ล้นตลาดก็ไม่ใช่เรื่องใหม่” เยาวเรศว่า “เดี๋ยวอะไรแบบนี้ก็จะเกิดขึ้นอีก เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม”

บทความเผยแพร่ครั้งแรกเป็นภาษาอังกฤษทางเว็บ  Climate Tracker Asia

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง