ล้านนาเนี่ยน: ‘ผู้ประกอบการกาดหลวง’ ถึง ‘ผู้ประกอบการหาดใหญ่’ ในวันฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังน้ำท่วมรุนแรง

Date:

“ถ้ารัฐช่วยได้ อยากจะให้ช่วยคนที่หาดใหญ่เยอะๆ หน่อย เพราะเขาเหมือนกับคนสิ้นไร้ไม้ตอกเลย เหลือแต่ตัวอย่างเดียว ทรัพย์สินอะไรก็เสียหายหมด เริ่มจาก 0 ใหม่ ถ้ารัฐมีความสามารถที่จะช่วยได้แต่ร้านเป็นแสนก็ถือว่ายังน้อยอยู่นะในความรู้สึกของเรา” เจ้าของร้านดอกไม้

“ขอให้มีกำลังใจสู้ อะไรที่มันผ่านไปแล้วพยายามสู้ให้ได้ ห้ามคิดสั้น สู้ชีวิตให้ได้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง ห้ามคิดสั้นเด็ดขาด สู้ไป ขอให้โชคดีกันทุกคน อย่าได้าเจออะไรแบบนี้กันอีกเลย เพราะตัวเองก็เจอมาแล้ว ค่อยๆ กัดฟันไป เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง” ร้านผ้าเด่นเจริญ 

“ล้านนาเนี่ยน” ชวนฟังเสียงผู้ประกอบการในกาดหลวงต่อเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ ในฐานะคนเหนือที่เคยประสบภัยน้ำท่วมมาก่อนเมื่อปีที่แล้ว มีอะไรที่อยากบอกคนใต้บ้าง การจะลุกขึ้นยืนใหม่ภายใต้สภาพเศรษฐกิจปัจจุบันไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ รัฐบาลควรคำนึงถึงอะไรบ้างในมาตรการช่วยเหลือเยียวยา เพื่อให้ผู้ประกอบการกลับมาตั้งหลักใหม่ได้อีกครั้ง

เจ้าของร้านดอกไม้

ทัดดาว เจ้าของร้านดอกไม้ในกาดหลวงเล่าว่า เธอเข้าใจหัวอกพ่อค้าแม่ค้าที่กิจการถูกน้ำท่วมมากๆ เพราะตอนน้ำท่วมเชียงใหม่เมื่อปี 2567 ร้านเธอเองก็ไม่รอด สินค้าจมแช่น้ำเสียหาย ขนาดท่วมน้อยกว่าหาดใหญ่มากยังต้องใช้เวลาเก็บร้าน ล้างโคลน กว่าจะกลับมาเปิดร้านใหม่ได้อีกครั้งใช้เวลาเป็นสัปดาห์ และกว่าคนซื้อจะกลับมาจริงๆ ก็ใช้เวลาอีก ตอนนั้นน้ำท่วมกาดหลวงระดับ 1 เมตร เธอยังรู้สึกเครียดมากที่ฝ่าน้ำจากบ้านที่นอกเมืองเข้ามาดูร้านไม่ได้เลย แต่หาดใหญ่เท่าที่เห็นคงต้องใช้เวลาหลายเดือน เนื่องจากน้ำท่วมสูงมาก

“เราก็เลยเข้าใจว่าคนที่น้ำท่วมเป็น 2 – 3 เมตร จะขนาดไหน ขนาดเราเจอแค่นี้ เรายังทำใจยากเลย ตอนที่น้ำท่วมเชียงใหม่รัฐบาลไม่เยียวยาร้านค้า เขาจะให้แต่ที่อยู่อาศัยที่เราต้องพักอาศัยอยู่ที่นั่น ที่ตลาดเลยไม่มีใครได้รับ กาดหลวงไม่สามารถไปยื่นเยียวยาได้ เสียหายก็ต้องรับสภาพกันไป”

ถ้าส่งเสียงไปถึงรัฐบาลได้ ทัดดาวก็ไม่อยากให้คนที่หาดใหญ่ต้องเผชิญกับการไม่ได้รับการเยียวยาหรือการไม่ถูกเหลียวแลเหมือนเธอ

“ถ้ารัฐช่วยได้ อยากจะให้ช่วยคนที่หาดใหญ่เยอะๆ หน่อย เพราะเขาเหมือนกับคนสิ้นไร้ไม้ตอกเลย เหลือแต่ตัวอย่างเดียว ทรัพย์สินอะไรก็เสียหายหมด เริ่มจาก 0 ใหม่ ถ้ารัฐมีความสามารถที่จะช่วยได้แต่ร้านเป็นแสนก็ถือว่ายังน้อยอยู่นะในความรู้สึกของเรา แต่เราก็เข้าใจว่ารัฐบาลของเราเงินอาจจะไม่พอ ก็ต้องแล้วแต่เขาจะไปคำนวณไปจัดการว่าควรจะได้สักเท่าไหร่ แต่ให้ได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี แต่ละคนก็เดือดร้อนกันหมด ร้านค้าก็พังเสียหายหมดเลย สำหรับผู้ประกอบการอาจต้องมีเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้เขาไปเริ่มต้นใหม่ และผ่อนจ่ายระยะยาวให้เขาฟื้นตัวได้ก่อน ต้องมีเงินกู้ให้เขาเป็นก้อนไปลงทุนใหม่”

“เราเห็นใจเขาเนอะ พอดีเป็นมุสลิมก็เลยช่วยผ่านทางจุฬาราชมนตรีไปด้วย อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกัน ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการ ก็เคยประสบปัญหานี้มาก่อน แต่อาจจะไม่หนักเท่าคนหาดใหญ่ ก็ต้องสู้กันต่อไป เราก็ต้องทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว เลี้ยงตัวเอง ขอให้ฟื้นตัวเร็วๆ ขอให้มีกำลังใจ”

ร้านผ้าเด่นเจริญ 

“พูดจริงๆ นะ หาดใหญ่ช่วยช้ามาก รัฐบาลเขามีพาวเวอร์เยอะมาก เขาน่าจะจัดการภายในไม่กี่วันต้องเสร็จ อันนี้นานเกิน กลายเป็นว่าคนแย่และคนตายเยอะเกิน รัฐบาลมีเงินเยอะ มีทุกอย่างเยอะ พาวเวอร์ก็เยอะ คนก็เยอะ แล้วทำไมเขาช้าจริงๆ น่าจะจัดการให้ได้เร็วที่สุด เอาคนออกมา แต่กลายเป็นว่าหลายวันเกิน มันไม่ใช่แล้ว เขาช่วยผิดหลักมาก ช้ามาก”

เจ้าของร้านเด่นเจริญ ร้านขายผ้าขนาดใหญ่ในกาดหลวงพูดการบริหารจัดการน้ำท่วมหาดใหญ่ของรัฐบาลที่เธอเห็นจากในข่าว ประชาชนหลายคนติดค้างอยู่ในบ้าน ไม่มีอาหารกิน ร้านค้าพังเสียหาย เลวร้ายที่สุดคือการที่มียอดผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก  เด่นเจริญเองก็เคยผ่านวิกฤตน้ำท่วมกาดหลวงเมื่อปี 2567 มาเช่นกัน ในตอนนั้นความช่วยเหลือของภาครัฐต่อผู้ประกอบการมีน้อยมาก ร้านของเธอเสียหายหลักล้านบาท ต้องทิ้งผ้าทิ้งของที่จมน้ำ ที่พอขายได้ก็เอามากองขายราคาถูกหน้าร้าน แต่ความช่วยเหลือจากรัฐที่ลงมาถึงมีเพียงค่าซ่อมแซมร้าน 

“ตอนน้ำท่วมกาดหลวง ทั้งร้านนี้เขาให้ 2 ครั้ง 10,000 บาทครั้งนึ่ง 9,000 บาทครั้งนึ่ง แค่นั้น คล้ายกับเป็นค่าซ่อม หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้มาช่วยอะไร ไม่ช่วยอะไรสักแอะหนึ่ง…เราทิ้งผ้าทิ้งของไปเป็นล้าน มันเสียหาย มันเน่ามันเฟะ ทำอะไรไม่ได้”

ในมุมคนที่ทำธุรกิจเจ้าของร้านเด่นเจริญอยากให้รัฐบาลส่งความช่วยเหลือลงไปถึงผู้ประกอบการและคนในหาดใหญ่ให้ได้มากที่สุด 

“อยากให้รัฐบาลช่วยเขา ทำความสะอาดให้เขา ซ่อมได้ซ่อม เพราะรัฐบาลเขามีเงินเยอะ พาวเวอร์เยอะ ทุกอย่างเยอะไปหมด ต้องช่วยเขา ต้องช่วยให้ประชาชนฟื้นตัวได้สบายใจ เพราะอย่างน้อยมีคนมาช่วย”

เธอเองไม่อาจเห็นผู้ประกอบการในหาดใหญ่ได้รับความช่วยเหลือที่ลงมาไม่ถึงเหมือนตอนน้ำท่วมกาดหลวง คำพูดว่า 9,000 กับ 10,000 ที่หลุดออกมาจากปากเจ้าของกิจการขนาดใหญ่ที่เจ็บหนักจากน้ำท่วมมาก่อน แฝงไปด้วยความละเหี่ยใจไม่น้อย

“ควรช่วยเขาเท่าที่รัฐบาลควรช่วย ไม่ใช่น้อยแบบนี้ ไม่งั้นเขาจะทำอย่างไรกับชีวิต ถ้าคุณไม่ช่วยเขา แล้วคุณก็เก็บภาษีเก็บทุกอย่างเยอะ ช่วยได้ช่วยเขาไปเถอะ ให้เยอะให้เต็มที่ให้เขาสบายใจ อย่างน้อยช่วยสัก 30% หรือ 20% ก็ยังดี”

“อย่างน้อยช่วยเขาสัก 6 เดือนก็ยังดี เรื่องเงิน (ชดเชยรายได้)  ให้เขามีกินมีใช้ ให้เขามีกำลังใจหน่อย เพราะเขาเละตุ้มเป๊ะไปหมดแล้ว”

เจ้าของร้านเด่นเจริญอยากฝากไปถึงผู้ประกอบการที่หาดใหญ่ที่ต้องเผชิญความจริงหลังน้ำท่วมใหญ่ในตอนนี้ว่า “ขอให้มีกำลังใจสู้ อะไรที่มันผ่านไปแล้วพยายามสู้ให้ได้ ห้ามคิดสั้น สู้ชีวิตให้ได้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง ห้ามคิดสั้นเด็ดขาด สู้ไป ขอให้โชคดีกันทุกคน อย่าได้าเจออะไรแบบนี้กันอีกเลย เพราะตัวเองก็เจอมาแล้ว ค่อยๆ กัดฟันไป เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง”

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

แม่น้ำสาละวินปนเปื้อนสารโลหะหนัก ชาวบ้านเสี่ยงสารพิษ-ขาดน้ำสะอาด รัฐทำอะไรบ้าง?

28 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 แถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำสาละวิน ระบุว่าน้ำดิบที่ชาวบ้านใช้อยู่เกินมาตรฐานทุกจุด โดยวัดระดับสารหนูได้ 0.023–0.029...

ศาลเชียงรายนัดไต่สวน 2 ตัวแทนชุมชน หลังร้องเพลงซอคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะป่าหุ่ง ชาวบ้านย้ำแค่ปกป้องบ้านเกิด

ภาพ: วชิรญาณ์ วิรัชบุญญากร 1 ธันวาคม 2568 ที่ศาลจังหวัดเชียงราย พันโทสมเจต ช่างซอ หรือ...

เมืองเพื่อ ‘รถ’ หรือ ‘คน’ ทุ่ม 2–4 พันล้านแก้รถติดคันคลอง ชาวเชียงใหม่ถามกลับ “ออกแบบเพื่อใคร?”

เรื่อง: วรรณวิษา พะเลียง โครงการปรับปรุงถนนทางหลวงหมายเลข 121 หรือ ‘ถนนคันคลองชลประทาน’ ของกรมทางหลวง กลายเป็นประเด็นร้อนด้านผังเมืองครั้งใหญ่ของเชียงใหม่ หลังรัฐเสนอใช้งบประมาณกว่า...

กฎหมายเปิดเเต่สิทธิยังติดขัด วงสนทนาเครือข่ายยุติการตั้งครรภ์ในเชียงใหม่ กับกำแพงอคติที่ต้องฝ่าไป

เรื่อง: วรรณวิษา พะเลียง ภาพ: พิมลวรรณ ปานทุ่ง 23 พฤศจิกายน 2568 มูลนิธิทำทาง ร่วมกับสองสถานบริการทำแท้งปลอดภัยในจังหวัดเชียงใหม่...