‘​PATANI COLONIAL TERRITORY’​ สิทธิ​ ความทรงจำ​ และความยุติธรรม​ ในภาวะอาณานิคม

Date:

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์​ 2566 มีการจัดกิจกรรมร่วมเล่นบอร์ด​เกมและฟังเสวนาในหัวข้อ​ ‘สิทธิ​ ความทรงจำ​ และความยุติธรรม​ ในภาวะอาณานิคมผ่านการเล่นกระดานเกม​ PATANI COLONIAL TERRITORY’​ ณ​ ห้อง LB1401  มหาวิทยาลัย​เชียงใหม่​ เวลา​ 13.00 -​ 16.00 น.​ จัดโดย​ กลุ่มนิติซ้าย​ -​ Law​ of​ Left ผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย​ อารีฟีน โสะ คณะทำงานกลุ่ม Chachiluk Boardgame, รศ.ดร.ทศพล ทรรศนกุลพันธ์​ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,​ ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ ภาควิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และดร.ขวัญชนก กิตติวาณิชย์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่



โดยมีจุดประสงค์เพื่อตั้งคำถามกับ Board Game ว่าทำไมเจ้าหน้าที่ถึงเข้ามาและถกเถียงระหว่างประเด็นประวัติศาสตร์ปาตานีและประวัติศาสตร์สยาม กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่องมาจากการจัดกิจกรรมครั้งก่อน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2565 แต่ไม่ได้จัด เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามากดดันจนต้องยกเลิกไป ซึ่งเป็นประเด็นจาก ‘การ์ดเจาะเอ็นร้อยหวาย’ ว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่มีความจริงและเป็นเพียงเรื่องเล่า

ศรยุทธได้เสนอมุมมองจากกิจกรรมในครั้งก่อนที่ได้จัดไปนั้น ทีมผู้จัดประสบความสำเร็จอย่างมาก ที่ทำให้หน่วยความมั่นคงหยิบงานวิจัยเรื่องเอ็นร้อยหวายที่ไม่เป็นที่รู้จักมากขึ้นมาตอบโต้ จุดนี้ทำให้เห็นว่างานวิจัยจะมีพลังมากขึ้น เมื่อมีเหตุการณ์มากระทบ

ขวัญชนกเสนอว่าความน่าสนใจของคนมลายูในพื้นที่คือ วัฒนธรรมที่สัมพันธ์กับศาสนาที่ผูกกับวิถีชีวิต ซึ่งจุดที่น่าสังเกตคือ รัฐไทยไม่ได้มีการบัญญัติให้ศาสนาใดเป็นศาสนาประจำชาติ แต่มีกฎหมายว่าพระมหากษัตริย์ต้องเป็นพุทธมามกะเท่านั้น ทำให้เป็นประเด็นให้คนมลายูไม่รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในสังคมและทำให้เรื่องเล่าของตนไม่ได้ไปคู่กับประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งก่อให้เกิดรอยแยกที่ทำให้เกิดการรวมกลุ่มต่อสู้เพื่อประวัติศาสตร์ จนเกิดข้อเรียกร้องว่า ทำอย่างไรจึงจะเกิดการถกเถียง ซึ่งเกมนี้ก็เป็นอีกหนึ่งการถกเถียง 

กระบวนการทางประวัติศาสตร์และความทรงจำ

ศรยุทธตั้งข้อสงสัยว่า กระบวนการค้นหาความรู้ทางประวัติศาสตร์ มีผลกระทบกับความทรงจำของชาวบ้านหรือไม่ ซึ่งผมคิดว่าความทรงจำนั้นไม่ได้มีความหมายว่ามันถูกหรือผิด ชีวิตมนุษย์มีความสามารถในการเลือกที่จะจดจำเหตุการณ์ได้ ดังนั้นการใช้กระบวนการทางประวัติศาสตร์กับความความทรงจำเป็นคนละเรื่องกัน

ศรยุทธเสนออีกว่าหากมองความทรงจำจะเห็นว่ามันคือ วิธีการจัดการอดีตที่ไม่สามารถจัดการประวัติศาสตร์ของตนได้ ซึ่งเนื้อของการเล่ามันคือการเปิดพื้นที่ให้คนได้เล่าเพิ่ม แต่ปัญหาคือเราจะเล่ามันอย่างไรได้บ้าง เอ็นร้อยหวายไม่ใช่ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์แต่เป็นข้อเท็จจริงในความทรงจำของผู้คน

ขวัญชนกเสนอว่า ความทรงจำคือกระบวนการที่สามารถเลือกที่จะจดจำได้และสามารถกำหนดทางเลือกชีวิตเราได้ ฉะนั้นความทรงจำเลยมีความสำคัญจนรัฐต้องออกมาห้ามและกำกับ โดยให้เหตุผลว่าไม่ต้องการให้ก่อเกิดความขัดแย้ง ในมุมมองของรัฐไทยจะเห็นว่าประวัติศาสตร์ไทยได้ถูกท้าทายมาก ดังนั้นจึงต้องมีการจัดการความทรงจำ โดยการให้หลายกลุ่มออกมาร่วมแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์ถึงข้อเท็จจริง การที่รัฐปิดกั้นจะนำไปสู่การจำกัดอิสรภาพทางความคิด

โดยอารีฟีนเล่าว่า ในความทรงจำของเรา ในฐานะของคนปาตานี สิ่งที่เรารู้สึกและสิ่งที่ยุยงปลุกปั่นเราคือ สถานการณ์ความขัดแย้ง “ผมเชื่อว่ามีคนส่วนมากที่คิดเหมือนกับเรา แต่ก็มีวิธีการขับเคลื่อนทางการเมืองที่แตกต่างกัน เราคิดว่าสิ่งที่เราเลือกสามารถเปลี่ยนแปลงผู้คนได้”

Right to self determination ในประเทศไทย



ทศพลได้เสนอเรื่อง Right to self-determination ซึ่งมีความหมายว่า สิทธิในการกำหนดอนาคตตัวเอง สิทธิในการแสดงเจตจำนงความต้องการในระดับปัจเจก และในระดับกลุ่มที่มีนัยยะว่าเป็นความต้องการของประชาชนทั้งหลาย ทศพลจึงหันมามองถึงประเทศไทยที่ถือว่าเป็นแนวหน้าที่เข้าร่วมสนธิสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนว่ามีการพูดถึงเรื่อง Self-determination อย่างไร 

ทศพลเผยว่า ประเทศไทยได้ใส่พลังกับมันอย่างเข้มข้น จากในตอนที่เข้าร่วมกติกาสิทธิพลเมืองและการเมือง ประเทศไทยมีท่าทีปฎิเสธ Self-determination ไปเลย ทั้งที่มันอยู่ในข้อกำหนดช่วงต้นสนธิสัญญา ซึ่งรัฐไทยได้ทำการ ‘ทำถ้อยแถลงตีความ’ คือการที่รับข้อกำหนดเท่าที่ไม่กระทบต่อบูรณะภาพแห่งดินแดน มันจึงนำมาสู่นวัตถกรรมหนึ่งในรัฐธรรมนูญปี 2540 นั่นก็คือ สิทธิชุมชน มันเป็นยืนยันวิถีการปฏิบัติเฉพาะในพื้นที่ ที่วิถีปฏิบัติอาจไม่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติใด ซึ่งจะเห็นได้ว่ารัฐไทยได้นำเข้ามาในรัฐธรรมนูญนานแล้ว แต่หากมันถึงระดับที่รัฐไทยปฏิเสธการมีส่วนร่วมของรัฐใดอย่างรุนแรงแล้ว ก็จะมีการดำเนินในระดับชาติและตีตัวออกจากรัฐไทยเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐไทยก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ปรากฏว่ารัฐไทยได้หลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้มาตลอดคือ จะไม่มีการแยกขบวนการอย่างชัดเจน โดยจะถูกถือว่าเป็นกลุ่มองค์กรอาชญากรรมหรือก่อการร้าย ไม่ใช่กองกำลังที่นำไปสู่การแยกดินแดนหรือคู่ขัดแย้ง นอกจากนี้รัฐไทยยังให้สิทธิการลงสมัครเลือกตั้งสส. หรือสิทธิในการเลือกตั้งแก่คนในพื้นที่ ทำให้จากข้อเหล่านี้ถือว่าไม่เข้าข่ายตามกฎหมายสิทธิมนุษยธรรม แต่เห็นจากการที่ทหารได้ดำเนินคดีกับคนในพื้นที่เรื่องนี้ ก็ถือว่าเป็นกรณีที่ย้อนแย้งมาก

พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

Lanner Editor
Lanner Editor
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

More like this
Related

เชียงใหม่รวมพลังเครือข่าย “เปิดโลกคนไร้บ้าน” ขับเคลื่อนระบบคุ้มครองคนไร้ที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่ลานประตูท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ คณะทำงานคนไร้บ้านเมืองเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่าย...

ไร้ความคืบหน้า ประชาชนลุ่มน้ำกก-สาย-รวก-โขง ร้องรัฐเร่งแก้ปัญหามลพิษเหมืองเมียนมา

21 ตุลาคม 2568 สืบสกุล กิจนุกร โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนสารโลหะหนักในแม่น้ำกก-สายรวก-โขงจากเหมืองแร่ในเมียนมา โดยระบุถึงนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกุล...

สภาฯ ผ่านฉลุยร่าง ‘พ.ร.บ.อากาศสะอาด’ 309 เสียง เตรียมส่งต่อวุฒิสภา กมธ.ชี้เป็น ‘อาวุธใหม่’ ทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ให้คนไทย

21 ตุลาคม 2568 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติ ‘เห็นชอบ’ ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. ... ในวาระที่...

เจียงใหม่กำลังจะ “โฮะ” แหมรอบ!

กับ Chiang Mai HO Zix เทศกาลดนตรีตี้รวมศิลปินออริจินัลเชียงใหม่ไว้นักที่สุดกว่า 40 วง 4...