เชียงใหม่สับลาบไล่ ส.ว.​

Date:

5 กันยายน 2565

5 กันยายน 2565 กป.อพช.ภาคเหนือ และเครือข่ายได้ร่วมกันจัดกิจกรรม “ลาบ ส.ว. #ตัดอำนาจส.ว. #ปิดสวิตช์ ส.ว. ” ​ ณ บริเวณลานท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ​

17.00 น.กิจกรรมทำลาบเนื้อควายฉบับคนเหนือ เพื่อสื่อถึงการตัดอำนาจ สว.ออกจากสภา ก่อนวาระรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เข้าสภา 6-7 ก.ย. นี้ ​ ในส่วนของเนื้อที่มักจะใช้ลาบประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนต้นขา และส่วนอก (นุ่มและติดมัน) ส่วนผสมประกอบด้วยดังนี้ ข่า ตะไคร้ ใบสาระแน ผักแผ้ว ต้นหอม ผักชี ​ พริกลาบ เครื่องใน เนื้อ ดี เลือด (ใช้เพื่อไม่ให้เนื้อที่ลาบติดเขียง) ​ ซึ่งมีดในการทำลาบจะต้องมีความคม​

18.00 น. กป.อพช. ภาคเหนือและเครือข่ายฯ ได้กล่าวแถลงการณ์ ระบุว่า​

“เนื่องด้วยวันที่ 6-7 กันยายน พ.ศ.2565 มีระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในประเด็นสำคัญ คือ การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ที่เสนอโดยการเข้าชื่อกันของประชาชน ซึ่งเป็นข้อเสนอให้ยกเลิกมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 หรือ การตัดอำนาจสมาชิกวุฒิสภา ที่มาจากการคัดเลือกของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการลงมติเลือกบุคคลให้เป็นนายกรัฐมนตรี เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนภาคเหนือเล็งเห็นว่า อำนาจที่มากเป็น “พิเศษ” ของสมาชิกวุฒิสภาที่มีที่มาแบบ “พิเศษ” ​ เป็นปัจจัยสำคัญทำให้รัฐสภาแห่งนี้ไม่ได้รับการเชื่อถือยอมรับ และทำให้รัฐบาลที่มาจากเสียงสนับสนุนของ สมาชิกวุฒิสภาขาดความชอบธรรม ขาดการยึดโยงกับประชาชน ทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรง​

ตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติทำรัฐประหารเมื่อปีพ.ศ. 2557 ก็ได้ยึดอำนาจการปกครองประเทศ ไปไว้ในมือคนกลุ่มเดียว และยังไม่คืนอำนาจให้อยู่ในมือของประชาชนอย่างแท้จริง แต่ยังคงยึดกุมอำนาจไว้ ด้วยกลไกหลากหลายในรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ ประกาศและคำสั่งของคสช. และองค์กรอีกมากมายที่ถูกแต่งตั้งขึ้น โดยเครื่องมือที่เห็นได้เด่นชัดที่สุด ก็คืออำนาจของสมาชิกวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรีนี้เอง และกลไกที่จะคืนอำนาจ ให้ประชาชน ได้ที่สำคัญที่สุด ​ คือ “การจัดการเลือกตั้งทั่วไปที่บริสุทธ์ โปร่งใส และเป็นธรรมโดยเร็ว” ซึ่งการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้านั้น จะไม่มีทางเป็นธรรมได้ และไม่มีทางที่จะได้รับการยอมรับ จากประชาชนได้ หากสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังคงมีอำนาจ “เหนือประชาชน” ที่จะลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนต่อไป และรัฐบาลชุดต่อไป ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อ ยกเลิกอำนาจ พิเศษของสมาชิกวุฒิสภาจึงเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น ที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน​

เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนภาคเหนือ จึงเห็นควรว่าให้ยกเลิกมาตรา 272 ตัดอำนาจ สว. โดยทันที เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน กระจายความมั่งคั่งให้ประชาชน ประชาชนมีเสรีภาพ เสมอภาค ภารดรภาพร่วมกัน​

5 กันยายน 2565​

ย่ำค่ำ ณ ประตูท่าแพ เชียงใหม่”​

องค์กรและเครือข่ายที่ร่วมลงนาม​

1. คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน ภาคเหนือ​

2. ชุมชนนักกิจกรรมภาคเหนือ (CAN)​

3. ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น​

4. มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ(มพน.)​

5. สำนักข่าว LANNER​

6. มูลนิธิสื่อประชาธรรม​

7. สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยนอร์ท เชียงใหม่​

8. บ้านสวนดอก​

9. ชมรมประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่​

10. ลำพูนปลดแอก​

11. ชาติพันธุ์ปลดแอก​

12. กลุ่ม R2S​

13. Lanna Project​

14. กลุ่มเฝ้าระวังอมก๋อย​

15.พรรควิฬาร์​

16. พิราบขาวเพื่อมวลชน​

17. KNACK​

18. NU- Movement ​

19. ทะลุ มช.​

20. สิทธิของคนพิการในการพัฒนาประชาธิปไตย​

21. เครือข่ายชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองพรรคก้าวไกล​

22. สหภาพแรงงานบาริสต้า เชียงใหม่​

23. มูลนิธิบ้านสบาย ผอ.สนั่น วุฒิ​

24. สถาบันการจัดการทางสังคม​

25. เครือข่ายปฏิบัติการลดโลกร้อน Thai C-CAN​

26. เครือข่ายทรัพยากรจังหวัดแพร่​

27. ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนโจ้โก้​

เวลา 18.10 น. หลังจากที่แถลงการณ์เสร็จแล้วประชาชนที่มาร่วมงานได้รับประทานลาบร่วมกัน พร้อมกับข้าวเหนียวร้อนๆ และผักเครื่องเคียง​

ปิดท้ายกิจกรรมด้วยการแสดงดนตรีจากกลุ่มชุมชนนักกิจกรรม​

“ด้วยความเชื่อมั่นว่าคนเท่ากัน”​

ภาพ : ประชาไท

#ตัดอำนาจสว ​ ​

#ยกเลิกมาตรา272

#คืนอำนาจให้ประชาชน

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

สุขภาพของ ‘เขา’ คือสุขภาพของ ‘เรา’ เหตุผลจริงของการรักษาที่ชายแดน บทเรียนที่แม่สอดและอุ้มผาง กับข้อตกลงสุขภาพข้ามพรมแดนที่ยังมาไม่ถึง

เรื่อง: กุลธิดา กระจ่างกุล อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก คือหนึ่งในพื้นที่ชายแดนที่มีพลวัตทางเศรษฐกิจและสังคมสูงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เมืองเล็กๆ แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของแรงงานข้ามชาติจากเมียนมาหลายหมื่นคนที่เข้ามาทำงานในโรงงาน การเกษตร การประมง...

คกน.-เครือข่าย เปิดเวที ‘ชาติพันธุ์กับรัฐธรรมนูญ’ บทเรียน 50 ปีสู่รัฐธรรมนูญที่คนเท่ากัน

1 ธันวาคม 2568 เครือข่ายกลุ่มเกษตรกรภาคเหนือ (คกน.) และเครือข่ายจัดเวทีเสวนาในหัวข้อ ‘การต่อสู้ของพี่น้องชาติพันธุ์กับความสำคัญของรัฐธรรมนูญ’ โดยมีองค์กรภาคประชาชนจากไทย–เมียนมาร่วมแลกเปลี่ยน เพื่อทบทวนประวัติศาสตร์การต่อสู้ด้านสิทธิชุมชน...

เมียนมาพบพื้นที่ปลูกฝิ่นสูงสุดในรอบ 10 ปี ท่ามกลางความไม่มั่นคงยืดเยื้อ

3 ธันวาคม 2025 พื้นที่ปลูกฝิ่นในเมียนมาเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสิบปี ตามรายงานล่าสุดของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ซึ่งระบุถึงแนวโน้มการขยายตัวของพืชเสพติดในช่วงที่ประเทศยังเผชิญความขัดแย้งและเศรษฐกิจที่ถดถอยอย่างต่อเนื่อง รายงาน ‘การสำรวจฝิ่นเมียนมา 2025’...