‘สมชาย’ งง ‘เศรษฐา’ ใช้อะไรวัด “เชียงใหม่อากาศดี”

Date:

16 มี.ค.2567 สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เขียนจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี โดยเผยแพร่ผ่านเพจเฟซบุ๊ค “ศูนย์วิจัยฯ มหาวิทยาลัยหน้าบางแห่งหนึ่ง” หลัง นายเศรษฐา โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชัน X โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการบรรยายบรรยากาศเมืองเชียงใหม่ยามค่ำคืนว่า “ปรากฏว่าอากาศช่วงกลางคืนเชียงใหม่คืนนี้ดีกว่าที่คิด” หลังจากการร่วมรับประทานอาหารค่ำกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพักของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา

เนื้อความภายในจดหมายของ สมชาย บรรยายความผิดหวังของตนต่อ เศรษฐา พร้อมถามถึงเกณฑ์ที่ใช้วัดความ “อากาศดี” ในเมืองเชียงใหม่ ทั้ง ๆ ที่ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เทไปในทิศทางเดียวกัน ว่าสภาพอากาศในเมืองเชียงใหม่ตอนนี้ถือว่า “ไม่ถูกสุขภาพมาก”

นอกจากนี้ สมชาย ยังได้แนะนำ เศรษฐา ผ่านจดหมายดังกล่าว โดยแนะให้นายเศรษฐาออกไปรับฟังเสียงจากประชาชนบ้าง การใช้เวลาเพียง 1-2 ชั่วโมงนั่งรับประทานอาหารก็ไม่ได้ทำให้สุขภาพต้องเสียจากผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 มากเท่าไรนัก ต่างจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่มาแล้วเป็นเวลาหลายปี รวมถึงต้องได้รับฝุ่นควันเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวันเพื่อหาเลี้ยงชีพ

“ขอสารภาพว่าผมไม่ได้มีความคาดหวังอะไรมากนักกับคุณเศรษฐา ในฐานะของนายกรัฐมนตรี แต่การมาเยือนเชียงใหม่ในวันที่ 15 มีนาคม กลับสร้างความผิดหวังเป็นอย่างมากแก่ข้าพเจ้า ภายหลังจากที่ได้มีข่าวออกมาทางสื่อมวลชนว่า “เชียงใหม่คืนนี้อากาศดี” (ดูรายละเอียดhttps://www.facebook.com/photo/?fbid=835655748591175&set=a.648490497307702)

ความผิดหวังประการแรก คุณเศรษฐา ใช้อะไรเป็นมาตรวัดว่าอากาศเชียงใหม่ดี ถ้าลองเปิดตาดูข้อมูลใน IQAir หรือแอฟอื่น ๆ ก็ล้วนบ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกัน เช้าวันที่ 15 และเช้าวันที่ 16 มีนาคม ปริมาณฝุ่นของเชียงใหม่ขึ้นไปอยู่ในระดับสีม่วง อันแปลว่า “ไม่ถูกสุขภาพมาก”

เพียงแค่การไปนั่งในร้านอาหารริมแม่น้ำแล้วบอกว่าอากาศดี มีอะไรเป็นหลักฐานยืนยันข้อความดังกล่าว อย่าลืมว่าคุณเศรษฐา ก็แค่โฉบมาวันสองวันแถมนอนในโรงแรมที่มีเครื่องปรับอากาศเป็นอย่างดี การสูดฝุ่นเข้าไปชั่วโมงสองชั่วโมงก็คงไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากเท่าไหร่ แต่ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ต้องมีชีวิตทั้ง 24 ชั่วโมง ทำมาหากิน นอนในบ้านที่อาจไม่มีเครื่องกรองอากาศ เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ การสูดฝุ่นเข้าไปกำลังเป็นการตายผ่อนส่งมิใช่หรือ

ลองออกไปฟังเสียง ฟังความรู้สึก ฟังอารมณ์ ของคนในพื้นที่บ้างก็ดีนะครับ แทนที่จะใช้เวลาไปกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ถ้าอยากเจอกลับไปกรุงเทพฯ เมื่อไหร่ก็หาเวลาไปเจอกันเถอะครับ แทนที่มาถึงเชียงใหม่จะมารับฟังเสียงของประชาชนท่ามกลางวิกฤติฝุ่น กลับไปปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่กับบรรดาผู้มีอำนาจ นักการเมือง ข้าราชการระดับสูง ถ้าจะทำแบบนี้ก็ไม่ต้องเชียงใหม่หรอก

ความผิดในเรื่องต่อมาก็คือ การทำหน้าที่ในฐานะของฝ่ายบริหารที่มีอำนาจสูงสุด พวกเราได้ฟ้องคดีฝุ่น PM 2.5 ต่อศาลปกครองเชียงใหม่ และศาลปกครองได้มีคำวินิจฉัยที่ ส 1/2567 ตัดสินว่านายกฯ และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม ละเลยและล่าช้าต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และมีคำตัดสินให้นายกฯ และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมใช้อำนาจตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม และแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง แต่เป็นที่น่าเสียใจว่าทางคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมได้อุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว จึงทำให้ผลของคำพิพากษาต้องเลื่อนออกไปอีก

ทั้งที่คุณเศรษฐา ได้แสดงท่าทีต่อการแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่นมานับตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่งในปีที่ผ่านมา แต่ทำไมจึงปล่อยให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม อุทธรณ์ต่อคำตัดสินอันทำให้การแก้ไขปัญหานี้ยืดเยื้อออกไปอีก ทำไมนายกฯ ในฐานะที่มีอำนาจสูงสุดจึงไม่สั่งการให้ยุติการอุทธรณ์ แล้วดำเนินการสั่งการตามกฎหมายที่มีอย่างจริงจัง

ผมคาดเดาว่าหากมีการประกาศว่าเชียงใหม่มีมลพิษรุนแรงคงจะกระทบกับธุรกิจการท่องเที่ยว อันเป็นกลไกขับดันทางเศรษฐกิจอันหนึ่งที่พอจะช่วยประคองให้เศรษฐกิจไทยไม่ล่มจมไปมากกว่านี้ ทำให้คุณเศรษฐา ต้องไปนั่งดมฝุ่นแล้วบอกว่า “เชียงใหม่อากาศดี” ทั้งที่ก็รู้อยู่เต็มตาเต็มจมูกว่าฝุ่นมันปกคลุมบ้านเมืองมากขนาดไหน

ความผิดหวังต่อคนที่เราไม่เคยคาดหวังไว้นี่มันเป็นเรื่องที่ชวนให้ละเหี่ยใจไม่น้อยนะครับ

สมชาย ปรีชาศิลปกุล
16 มีนาคม 2567”


ทางด้านนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ก็ได้โพสต์รูปภาพตนเอง ปั่นจักรยาน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ พร้อมข้อความ “ไม่ได้จับจักรยานมาร่วม 10 ปีวันนี้เลยมาซ้อมปั่นพอให้ได้เหงื่อ 2 กม. ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ครับ” ในขณะที่ค่าฝุ่นเมืองเชียงใหม่วันนี้ (16 มี.ค.2567) วัดได้อยู่ที่ 281 AQI

พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

Lanner Editor
Lanner Editor
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

More like this
Related

กระทรวงทรัพย์ฯ รุกตรวจคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้าน กะเหรี่ยงรวมมิตร-ห้วยทรายขาว ยืนยันเบื้องต้นไม่พบสารหนูปนเปื้อน

17 ตุลาคม 2568 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เดินหน้าตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้านในพื้นที่จังหวัดเชียงราย หลังประชาชนแสดงความกังวลต่อความปลอดภัยของแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคที่อาจปนเปื้อนสารโลหะหนัก สุชาติ ชมกลิ่น...

‘บางระกำโมเดล’ ก้าวไกลระดับโลก แต่ ‘คน’ โดนทิ้งไว้กลางน้ำ

เรื่อง: ฐิติพร มะโนวรรณา, ภาพ: ตุลา ธารา ‘บางระกำโมเดล’ โครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ภายใต้สำนักงานชลประทานที่ 3...

เบื้องหลังเจ้าตลาดแร่แรร์เอิร์ธโลก จีนกับห่วงโซ่อุปทานเหมืองแร่ในเมียนมา

เรื่อง: สุทธิกานต์ วงศ์ไชย, ภาพ: วีรภัทร เหลาเกิ้มหุ่ง เบื้องหลังโทรศัพท์สมาร์ตโฟน รถยนต์ไฟฟ้า และกังหันลม ล้วนมีวัตถุดิบสำคัญที่ถือเป็นหัวใจของเทคโนโลยีสมัยใหม่...

ริมกกซวยซ้ำ! น้ำประปา ผัก ปลา ปนเปื้อนโลหะหนัก ชาวบ้าน 7 รายมีสารในปัสสาวะสูง จี้รัฐเร่งแก้ไข

ผ่านมากว่าครึ่งปีกับวิกฤตสารโลหะหนักปนเปื้อนในแม่น้ำกกที่ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อระบบนิเวศของสายน้ำ แต่กระทบไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนริมฝั่งแม่น้ำ เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การประกอบอาชีพอย่างการประมงและการเกษตร กลายเป็นปัญหาใหญ่ข้ามพรมแดนที่ไม่อาจแก้ได้ฝ่ายเดียว นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสายน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนมานับไม่ถ้วนกำลังเผชิญกับหายนะอย่างหนัก แม่น้ำกกมีต้นกำเนิดอยู่ในเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ไหลเข้าสู่ประเทศไทยในตำบลท่าตอน...