พุธิตา ชี้ พ.ร.บ.อากาศสะอาด บางมาตราสอดไส้สกปรก ปิดปากประชาชน-สื่อมวลชน

Date:

17 มกราคม 2567 เวลา 15:27 น. ณ อาคารรัฐสภา ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ รับหลักการ พรบ.อากาศสะอาด ทั้ง 7 ฉบับ ด้วยคะแนนเอกฉันท์ท่วมท้น 443 ต่อ 0 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯจำนวน 39 คนมาพิจารณาในวาระ 2 ด้าน พุธิตา ชัยอนันต์ สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล พบข้อกฎหมายที่เหมือนจะเป็นการเอื้อให้มีการปิดปากประชาชน และสื่อมวลชน ในร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดของ ครม. (มาตรา 81)

พุธิตา ชัยอนันต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามถึง ร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด ฉบับครม. หมวดที่ 9 มาตรา 81 ซึ่งมีความว่า

ผู้ใดแพร่หรือไขข่าวที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับอันตรายจากแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศใดโดยมีเจตนาที่จะทำลายชื่อเสียงหรือความไว้วางใจของสาธารณะชนต่อการดำเนินกิจการโดยชอบด้วยกฎหมาย ของแหล่งกำเนิดมลพิษนั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน หนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ’

และ มาตรา 81 วรรค 2 ความว่า

‘หากการแพร่หรือไขข่าวตามวรรคหนึ่งกระทำโดยการประกาศโฆษณาหรือออกข่าวทางหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรือสื่อสารมวลชนอย่างอื่น ผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ห้าปีหรือปรับไม่เกินห้าแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ’

โดย พุธิตา ได้อภิปรายว่า “โทษจำคุก 1 ปี 5 ปี มาจากไหนคะ? มีไว้ทำไม ต้องถามผู้ร่างกฎหมายฉบับนี้มีเจตนาเพื่ออะไร กฎหมายฉบับนี้โดยเฉพาะมาตรา 81 ดูผิวเผินเหมือนจะให้ความเป็นธรรมแก่ฝั่งผู้ประกอบการ แต่ในความเป็นจริงเรายังมีกฎหมายอื่นที่จะคุ้มครองผู้ประกอบการในกรณีที่ถูกข้อมูลเท็จโจมตีอยู่ ไม่ว่าเป็นกฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา กฎหมายหมิ่นประมาท หรือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์” 

พุธิตา ยังกล่าวต่อว่า การเปิดโปง การตั้งคำถามต่อการกระทำความผิดของผู้ประกอบการ หรือการตั้งข้อสังเกตโดยประชาชนหรือสื่อมวลชนเมื่อได้รับเบาะแสหรือข้อเท็จจริงเบื้องต้น แล้วสื่อสารออกไปเพื่อเฝ้าระวังจับตา ควรเป็นสิทธิเสรีภาพที่พึงกระทำได้ ไม่ควรสร้างกฎหมายในลักษณะนี้ขึ้นมาเพื่อขู่ประชาชนและสื่อมวลชน

พุธิตา ได้ยกตัวอย่างประกอบการอภิปรายว่า “สมมติว่าบริษัท A เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อรัฐบาล ข้าราชการท้องถิ่นและผู้มีอำนาจในสังคม แต่บริษัทนี้มีการปล่อยมลพิษทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างมาก พวกเขาจะหันหน้าไปพึ่งใคร ความหวังของพวกเขาคือคนธรรมดาที่กล้าออกมาพูดหรือตั้งคำถาม และสื่อมวลชนที่กล้าออกมาขุดคุ้ย ตีแผ่ เผยแพร่ข้อมูล และความหวังสุดท้ายคือ กฎหมายที่คุ้มครอง รับรองสิทธิเสรีภาพของประชาชน และกฎหมายที่เอื้อต่อการตรวจสอบ เพื่อเพิ่มโทษทางอาญาหรือโทษทางสังคมให้กับผู้ประกอบการที่กระทำความผิด เพื่อกระตุ้นความรับผิดชอบต่อสังคม” 

ในตอนท้าย พุธิตา ชัยอนันต์ ได้ระบุว่า ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ฉบับของครม.ที่เป็นผู้เสนอ มีปัญหาที่ มาตรา 81 ที่เขียนในลักษณะที่คลุมเคลือ ตีความได้กว้าง เอื้อให้มีการฟ้องร้องปิดปากประชาชนและสื่อมวลชน ข่มขู่ด้วยระวางโทษจำคุก ซึ่งเป็นการตัดตอน ระงับการมีส่วนร่วมของประชาชนและสาธารณะชน

ทั้งนี้ พุธิตายังคงสนับสนุนและโหวตเห็นชอบ ทุกร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดทั้ง 7 ฉบับ และปิดท้ายด้วยข้อเสนอแนะว่า แม้ว่าที่ประชุมจะมีมติเห็นชอบให้ร่างกฎหมายนี้ผ่านในวาระแรก แต่ต้องมีการแก้ไขในชั้นกรรมาธิการ โดยต้องตัดมาตรา 81 ออกไป

พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

Lanner Editor
Lanner Editor
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

สุขภาพของ ‘เขา’ คือสุขภาพของ ‘เรา’ เหตุผลจริงของการรักษาที่ชายแดน บทเรียนที่แม่สอดและอุ้มผาง กับข้อตกลงสุขภาพข้ามพรมแดนที่ยังมาไม่ถึง

เรื่อง: กุลธิดา กระจ่างกุล อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก คือหนึ่งในพื้นที่ชายแดนที่มีพลวัตทางเศรษฐกิจและสังคมสูงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เมืองเล็กๆ แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของแรงงานข้ามชาติจากเมียนมาหลายหมื่นคนที่เข้ามาทำงานในโรงงาน การเกษตร การประมง...

คกน.-เครือข่าย เปิดเวที ‘ชาติพันธุ์กับรัฐธรรมนูญ’ บทเรียน 50 ปีสู่รัฐธรรมนูญที่คนเท่ากัน

1 ธันวาคม 2568 เครือข่ายกลุ่มเกษตรกรภาคเหนือ (คกน.) และเครือข่ายจัดเวทีเสวนาในหัวข้อ ‘การต่อสู้ของพี่น้องชาติพันธุ์กับความสำคัญของรัฐธรรมนูญ’ โดยมีองค์กรภาคประชาชนจากไทย–เมียนมาร่วมแลกเปลี่ยน เพื่อทบทวนประวัติศาสตร์การต่อสู้ด้านสิทธิชุมชน...

เมียนมาพบพื้นที่ปลูกฝิ่นสูงสุดในรอบ 10 ปี ท่ามกลางความไม่มั่นคงยืดเยื้อ

3 ธันวาคม 2025 พื้นที่ปลูกฝิ่นในเมียนมาเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสิบปี ตามรายงานล่าสุดของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ซึ่งระบุถึงแนวโน้มการขยายตัวของพืชเสพติดในช่วงที่ประเทศยังเผชิญความขัดแย้งและเศรษฐกิจที่ถดถอยอย่างต่อเนื่อง รายงาน ‘การสำรวจฝิ่นเมียนมา 2025’...