สมัชชาคนจน แถลง รัฐบาลต้องมาจากเสียงข้างมาก จี้ ส.ว.อย่าทำลายประชาธิปไตย พร้อมเดินหน้าเขียนรธน.

Date:

17 พฤษภาคม 2566 สมัชชาคนจน ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล ว่าพรรคที่มี ส.ส. มากที่สุดจะต้องเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล โดยเนื้อหาในแถลงการณ์มีดังนี้

พรรคที่มี ส.ส. มากที่สุดต้องเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลและเดินหน้าเขียนรัฐธรรมนูญใหม่

ภายหลังจากการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ได้สิ้นสุดลง และมีรายงานผลการนับคะแนนเสียงออกมาเป็นที่แน่ชัด แม้ว่า กกต จะยังไม่ได้มีการรับรองอย่างเป็นทางการก็ตาม เป็นที่น่ายินดีว่า พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย ได้รับคะแนนเสียงท่วมท้น มีจำนวนผู้แทนราษฎรมากเป็นอันดับหนึ่ง คือประมาณ 152 คน   พรรคก้าวไกล ไม่เพียงแต่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในการเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลเท่านั้น พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีจำนวนผู้แทนราษฎรมากเป็นอันดับสอง ก็ได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจนที่จะสนับสนุนให้พรรคก้าวไกล เป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล อันเป็นแนวทางปฏิบัติของระบอบประชาธิปไตยสากลอีกด้วย

ในขณะเดียวกันกลุ่มอำนาจเก่า ที่เคยใช้การรัฐประหารเป็นเครื่องมือในการทำลายระบอบประชาธิปไตย ตั้งรัฐบาลเผด็จการทหาร เขียนรัฐธรรมนูญที่ออกแบบมาเพื่อค้ำจุนอำนาจของตน ตั้งองค์กรและกลไกกับดักที่จะสกัดกั้นประชาธิปไตย และสืบทอดระบอบอำนาจนิยม ที่มุ่งกำราบปราบปรามประชาชนและพรรคการเมือง ให้อ่อนแอ และสยบยอมอยู่ในอำนาจศักดินา กลับแสดงท่าทีไม่ยอมรับให้พรรคก้าวไกล เป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลและไม่ยอมรับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เป็นนายกรัฐมนตรี 

กลุ่มอำนาจเก่านี้ พยายามที่จะใช้กลไกกับดักที่ฝ่ายตนได้จัดเตรียมไว้ มาทำลายความหวังของประชาชน ซึ่งกลไกกับดักชิ้นแรกที่กลุ่มอำนาจเก่ากำลังนำมาใช้ ก็คือ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งมีอำนาจพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญปี 2560 อันอัปยศ บิดเบือนหลักการประชาธิปไตย และไม่เห็นหัวประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย

สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้รับการคัดเลือกมาจากคณะรัฐประหาร ดังนั้น บทบาทของ สว. ในปัจจุบัน จึงเป็นที่จับตามองว่า กำลังจะทำลายประชาธิปไตยอยู่หรือไม่ โดยจะสกัดขัดขวาง หรือใช้กลอุบายต่างๆ  เพื่อไม่ให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่ได้รับคะแนนเสียง และมี สส. มากเป็นลำดับ 1 ได้จัดตั้งรัฐบาลตามความต้องการของประชาชน ไม่เพียงเท่านี้ พรรคการเมืองที่เป็นนั่งร้านให้กับคณะรัฐประหาร และรัฐบาลที่เกี่ยวเนื่องกับคณะรัฐประหาร ก็เป็นที่จับจ้องของประชาชน ด้วยเหตุเช่นเดียวกัน

สมัชชาคนจน ขอยืนยันว่า เราขอสนับสนุนให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จนมีจำนวน สส มากที่สุด ได้เป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล และได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมมนตรี และเราขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองทุกพรรค สมาชิกวุฒิสภา องค์กรต่างๆ ทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชนทั่วไป แสดงการสนับสนุนในลักษณะเดียวกัน

ประเทศไทยประสบกับความเสียหาย ความทุกข์ยาก และความบอบช้ำ มากว่า 8 ปี แล้ว จากประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช ที่ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน และอุปโลกน์ตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยกระบวนการที่ฉ้อฉล สมัชชาคนจนเห็นว่า เราไม่อาจจะยอมรับความฉ้อฉลเช่นนี้อีกต่อไป ถึงเวลาแล้ว  ที่ทุกภาคส่วน ต้องเคารพมติประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง เพื่อที่บ้านเมืองของเราจะได้หลุดพ้นจากความตกต่ำ เดินหน้าเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย และเริ่มการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชนโดยเร็วที่สุด

ประชาธิปไตยที่กินได้  การเมืองที่เห็นหัวคนจน

สมัชชาคนจน

16 พฤษภาคม 2566

พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

Lanner Editor
Lanner Editor
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

สุขภาพของ ‘เขา’ คือสุขภาพของ ‘เรา’ เหตุผลจริงของการรักษาที่ชายแดน บทเรียนที่แม่สอดและอุ้มผาง กับข้อตกลงสุขภาพข้ามพรมแดนที่ยังมาไม่ถึง

เรื่อง: กุลธิดา กระจ่างกุล อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก คือหนึ่งในพื้นที่ชายแดนที่มีพลวัตทางเศรษฐกิจและสังคมสูงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เมืองเล็กๆ แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของแรงงานข้ามชาติจากเมียนมาหลายหมื่นคนที่เข้ามาทำงานในโรงงาน การเกษตร การประมง...

คกน.-เครือข่าย เปิดเวที ‘ชาติพันธุ์กับรัฐธรรมนูญ’ บทเรียน 50 ปีสู่รัฐธรรมนูญที่คนเท่ากัน

1 ธันวาคม 2568 เครือข่ายกลุ่มเกษตรกรภาคเหนือ (คกน.) และเครือข่ายจัดเวทีเสวนาในหัวข้อ ‘การต่อสู้ของพี่น้องชาติพันธุ์กับความสำคัญของรัฐธรรมนูญ’ โดยมีองค์กรภาคประชาชนจากไทย–เมียนมาร่วมแลกเปลี่ยน เพื่อทบทวนประวัติศาสตร์การต่อสู้ด้านสิทธิชุมชน...

เมียนมาพบพื้นที่ปลูกฝิ่นสูงสุดในรอบ 10 ปี ท่ามกลางความไม่มั่นคงยืดเยื้อ

3 ธันวาคม 2025 พื้นที่ปลูกฝิ่นในเมียนมาเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสิบปี ตามรายงานล่าสุดของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ซึ่งระบุถึงแนวโน้มการขยายตัวของพืชเสพติดในช่วงที่ประเทศยังเผชิญความขัดแย้งและเศรษฐกิจที่ถดถอยอย่างต่อเนื่อง รายงาน ‘การสำรวจฝิ่นเมียนมา 2025’...