ประชาชนลุ่มน้ำยวม เงา เมย สาละวิน ยื่นฟ้องศาลปกครองเชียงใหม่ ยกเลิกผันน้ำยวมหลัง EIA ร้านลาบมีปัญหา 

Date:

“ถ้าสร้างเขื่อนจริงได้อพยพแน่นอน ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน เขาไม่ให้ความยุติธรรมกับชาวบ้าน” น้ำเสียงหนึ่งของชาวบ้าน

18 ตุลาคม 2566 เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำยวม เงา เมย สาละวิน กว่า 70 คนจากหลายหมู่บ้านในพื้นที่ 3 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล (แนวผันน้ำยวม) ยื่นฟ้องศาลปกครองเชียงใหม่ ขอให้ยกเลิกโครงการดังกล่าวที่จะพาดผ่านพื้นที่ป่ารอยต่อทั้งหมด 3 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำสำคัญ และผ่านป่าอนุรักษ์ทั้งหมด 5 แห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติแม่เงา ป่าสงวนแห่งชาติแม่ยวม

การยื่นฟ้องคดีครั้งนี้มีตัวแทนประชาชนลุ่มน้ำยวม เงา เมย สาละวิน รวม 66 คนโดยมีผู้รับมอบอำนาจผู้ฟ้องคดี ได้แก่ ส.รัตนมณี พลกล้า, ธรธรร การมั่งมี, เฉลิมศรี ประเสริฐศรี, ทนายความเครือข่าย และนักกฎหมายของมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน เป็นผู้รับมอบอำนาจในการดำเนินคดีแทนผู้ฟ้องคดี

ส.รัตนมณี พลกล้า เล่าว่าโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพลมีการทำ EIA มาตั้งแต่ ปี 2559-2563 และมีการพิจารณาผ่าน EIA โดย คชก. หรือ คณะกรรมการผู้ชํานาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในปี 2564 ส.รัตนมณี เล่าว่า ที่ผ่านมาพี่น้องในพื้นที่พยายามเข้าไปมีส่วนร่วมและขอข้อมูล EIA แต่ได้รับการปฏิเสธมาอย่างต่อเนื่อง แต่เพิ่งจะได้ในปี 2564 ที่เป็นฉบับถมดำที่มีข้อมูลไม่ครบและมีการปกปิดข้อมูลทำให้ไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้ จนในที่สุดในปี 2566 ก็ได้เอกสารที่ไม่ปกปิดข้อมูลจากกรมชลประทาน ซึ่ง EIA ผ่านมาแล้วกว่า 2 ปี

ส.รัตนมณี เล่าต่อว่าหลังจากได้รับ EIA และทำการตรวจสอบพบว่ายังมีปัญหาอยู่หลายส่วนโดยเฉพาะประเด็นการรับฟังความคิดเห็นที่อ้างว่ามีการไปพบประชาชนที่เป็นที่มาของ EIA ร้านลาบ ที่เป็นแค่การนัดกันทานข้าวกันปกติแต่ไม่ได้บอกว่าจะเป็นการนัดทำ EIA ซึ่งอีกหนึ่งกรณีที่น่ากังวลคือการไปรับทราบข้อมูลว่ามีการพูดคุยเกี่ยวกับแม่น้ำสาละวินโดยจัดเสวนาเกี่ยวกับแม่น้ำสาละวิน แต่ในภาพกลับเป็นภาพของเสวนาเกี่ยวกับเขื่อนในแม่น้ำโขง ที่เป็นคนละเรื่อง คนละวัน คนละปี ซึ่งเป็นปัญหาในการอย่างมากในการจัดทำ EIA จึงเป็นสาเหตุที่เกิดการยื่นฟ้องในครั้งนี้ 

การยื่นฟ้องในครั้งนี้มีผู้ถูกฟ้องคดี 5 ราย ได้แก่ กรมชลประทาน, คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ, สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี 

โดยการยื่นฟ้องในคดีนี้ผู้ฟ้องคดีมีการขอศาลได้โปรดพิจารณาพิพากษาทั้งหมด 5 ข้อ ดังนี้

1.ขอให้พิพากษาว่า โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล แนวส่งน้ำยวม-อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล เป็นโครงการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการดำเนินการต่างๆของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งห้าเกี่ยวกับโครงการเป็นการดำเนินการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้เพิกถอน/ยกเลิกโครงการดังกล่าวเสีย

2.ขอให้พิพากษาว่า การจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ของ โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล แนวส่งน้ำยวม-อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล เป็นรายงานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้เพิกถอนรายงานและการให้ความเห็นชอบดังกล่าวเสีย 

3.ขอให้พิพากษาว่า การจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนของโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล แนวส่งน้ำยวม-อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล เป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้เพิกถอนการดำเนินการดังกล่าวเสีย

4.ขอให้พิพากษาว่า ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งห้า ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง การแจ้งข้อมูลและการเผยแพร่ข้อมูลอย่างเหมาะสมและจริงจัง จัดให้มีกระบวนการมีส่วนร่วม และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ก่อนที่จะดำเนินการและระหว่างดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับการดูแล ปกป้อง รักษาแม่น้ำยวม แม่น้ำเงา แม่น้ำเมย และแม่น้ำสาละวิน

5.ขอให้พิพากษาว่า ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งห้า ดำเนินการออกกฎหมาย หรือกฎ หรือระเบียบ เพื่อดำเนินการการคุ้มครอง อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในลุ่มแม่น้ำแม่น้ำยวม แม่น้ำเงา แม่น้ำเมย และแม่น้ำสาละวิน 

ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเขื่อนภูมิพล แนวส่งน้ำยวม-อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล และตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ในชื่อ EIA ร้านลาบ มีองค์ประกอบของโครงการ 7 องค์ประกอบ ได้แก่ เขื่อนผันน้ำยวม ,ถนนเข้าเขื่อน ,อ่างเก็บน้ำยวม ,สถานีสูบน้ำบ้านสบเงา ,ระบบอุโมงค์ส่งน้ำ (62 กม.) ,พื้นที่เก็บกองวัสดุจากการขุดเจาะอุโมงค์และถนนเข้าหัวงานต่างๆ ทางออกอุโมงค์ส่งน้ำและการปรับปรุงลำห้วยงูด มีพื้นที่โครงการรวมกว่า 3,641 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ (โซน ซี(C)) มีพื้นที่ซ้อนทับกับพื้นที่เตรียมประกาศอุทยานแห่งชาติแม่เงา และเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 โดยหมู่บ้านและรายชื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโครงการตามที่อ้างใน EIA ครอบคลุมพื้นที่ 36 หมู่บ้าน โดยมีครัวเรือนที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการ 29 ราย 

หลังจากการยื่นฟ้องคดีทนายความระบุว่า การยื่นฟ้องเกี่ยวกับคดีสิ่งแวดล้อมในปี 2566 เป็นคดีที่ 4  ศาลปกครองเชียงใหม่ได้รับเรื่องการฟ้องแล้ว ซึ่งระหว่างนี้ศาลปกครองจะนำเอกสารที่ยื่นฟ้องไปพิจารณาต่อไป ซึ่งศาลปกครองจะมีการรับฟ้องอีกครั้งหลังจากนี้

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

More like this
Related

นักกิจกรรมเชียงใหม่จัด Run2Free ‘วิ่งเพื่อเสรีภาพ’ ร้องหยุดจองจำผู้เห็นต่าง ไม่ลืมเพื่อนในเรือนจำ

25 ตุลาคม 2568 กลุ่มเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรม ‘วิ่งเพื่อเสรีภาพ X ยืนหยุดขัง Run2Free’...

บทเรียนจากหอยมินามาตะ ถึงปลาน้ำกก รัฐยืนยันปรุงสุก-กินได้ แต่ระยะยาวปลอดภัยแค่ไหน?

เรื่อง: สุพศิน สุทธิวรวิทย์ 12 กันยายน 2568  กรมประมงร่วมกับสำนักงานประมงอำเภอแม่อาย รายงานผลตรวจสัตว์น้ำจากแม่น้ำกก จังหวัดเชียงใหม่ โดยสุ่มเก็บตัวอย่างจากหลายจุดในพื้นที่อำเภอแม่อาย...

แรงงานภาคเหนือ ยื่นข้อเสนอถึงกระทรวงแรงงาน ‘Decent Work’ เรียกร้องยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน

24 ตุลาคม 2568 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายแรงงานภาคเหนือเข้ายื่นหนังสือข้อเสนอ Decent Work หรือ งานที่มีคุณค่า...

สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เห็ด’ CAC ชวนร่วมกิจกรรมปิดท้าย ‘FUNGI IN YOUR HEADLIGHTS’

พบศิลปิน อานนท์ นงเยาว์ และ NooN Collectiveเสาร์ที่ 25 ตุลาคมนี้ ณ...