‘เปลี่ยนบ่อยไม่พัก’ ครม.โยกผู้ว่าฯ ภาคเหนือ 4 จังหวัด บางที่คนเก่าอยู่แค่ 9 เดือน ส่วนพะเยา–ตากยังว่าง

19 สิงหาคม 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย จำนวนทั้งสิ้น 25 ตำแหน่ง โดยเป็นการสับเปลี่ยนตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศหลายแห่ง ซึ่งรวมถึง 6 จังหวัดในภาคเหนือที่มีการสับเปลี่ยนตำแหน่งดังกล่าว ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง แม่ฮ่องสอน พะเยา และตาก

จากการแต่งตั้งครั้งนี้ มี 4 จังหวัดที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่เข้ารับตำแหน่งแล้ว ได้แก่ เชียงใหม่ มี ทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ แทน นิรัชต์ พงษ์สิทธาวรณ์ ซึ่งถูกแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมการปกครอง, เชียงราย ปรับเป็น รัฐพล นราดิศร อดีตผู้ว่าฯ พะเยา มาทำหน้าที่แทน ชรินทร์ ทองสุข ที่ถูกโยกย้ายไปเป็นผู้ว่าฯ ขอนแก่น, ลำปาง ได้ วิบูรณ์ แววบัณฑิต อดีตผู้ว่าฯ มหาสารคามและน่าน มารับตำแหน่งแทน ชุติเดช มีจันทร์, และ แม่ฮ่องสอน โยก ชุติพร เสชัง อดีตผู้ว่าฯ นครสวรรค์ เข้ารับตำแหน่ง

ขณะที่ พะเยา และ ตาก ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดคนเดิมได้รับการโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งใหม่ ยังไม่มีรายชื่อผู้ว่าฯ คนใหม่อย่างเป็นทางการในรอบนี้ โดยยังคงรอการแต่งตั้งเพิ่มเติมจากกระทรวงมหาดไทยในลำดับถัดไป

‘แม่แจ่มโมเดลพลัส’ สู่เก้าอี้ผู้ว่าฯ เชียงใหม่

ทศพล เผื่อนอุดม จบการศึกษารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตจากนิด้า นิติศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และรัฐศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เคยดำรงตำแหน่งนายอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างปี 2558–2559 ที่มีบทบาทสำคัญในการริเริ่มและผลักดัน “แม่แจ่มโมเดลพลัส” ซึ่งเป็นความพยายามร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคมในการแก้ปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และการใช้ที่ดินในพื้นที่ต้นน้ำ โดยยึดหลักการลดพื้นที่ปลูกข้าวโพดเชิงเดี่ยว ส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจ ปลูกกาแฟอินทรีย์ และสร้างทางเลือกทางเศรษฐกิจให้กับชาวบ้านในพื้นที่

ต่อมา ทศพลได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในปี 2566 และเลื่อนเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ก่อนจะกลับมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้งในปี 2568 นี้

สำหรับผู้ว่าฯ คนก่อนหน้าอย่าง นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 จนถึงเดือนสิงหาคม 2568 รวมระยะเวลาประมาณ 2 ปี 10 เดือน ก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอธิบดีกรมการปกครอง

9 เดือนเก้าอี้สั่น เชียงรายเปลี่ยนผู้ว่าฯ ใหม่

จังหวัดเชียงรายได้รับการแต่งตั้งผู้ว่าฯ คนใหม่ คือ รัฐพล นราดิศร อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา

รัฐพล นราดิศร จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยพายัพ และปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์ราชการหลากหลาย เริ่มต้นจากตำแหน่งปลัดอำเภอในปี 2559 ก่อนจะขยับขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่มงานในสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ และกองคลัง กระทรวงมหาดไทย จากนั้นย้ายไปเป็นหัวหน้าสำนักงานจังหวัดตากในปี 2560 และดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทยในช่วงปลายปีเดียวกัน ต่อมาในเดือนธันวาคม 2562 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และในปี 2566 ขยับขึ้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา

การเข้ารับตำแหน่งของรัฐพลมีขึ้นหลัง ชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าฯ คนก่อนหน้า ถูกโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น โดยชรินทร์เพิ่งรับตำแหน่งผู้ว่าฯ เชียงรายเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 และดำรงตำแหน่งอยู่ราว 9 เดือนเท่านั้น

ผู้ว่าฯ หญิง จากนครสวรรค์ถึงแม่ฮ่องสอน

ชุติพร เสชัง เริ่มต้นเส้นทางราชการจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกรม สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ก่อนจะย้ายมารับตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ และได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 กระทั่งล่าสุด ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ได้มีมติแต่งตั้งให้เธอย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน

การเข้ารับตำแหน่งของชุติพรเกิดขึ้นในช่วงที่ เอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดคนก่อนหน้า ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ ตุลาคม 2567 และดำรงตำแหน่งได้เพียงประมาณ 10 เดือนเท่านั้น กำลังจะถูกโยกย้ายตามรอบใหม่ แม้จะยังไม่มีประกาศคำสั่งย้ายอย่างเป็นทางการ แต่มีการแต่งตั้งชัดเจนแล้วว่าแม่ฮ่องสอนจะได้ผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่คือ น.ส.ชุติพร เสชัง ซึ่งนับเป็นหนึ่งในผู้หญิงไม่กี่คนที่ได้รับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

‘เล่นเกมเก็บเวลผู้ว่าฯ’ ผู้ว่าฯ ใหม่ลำปาง นั่งมาแล้ว 3 จังหวัด

วิบูรณ์ แววบัณฑิต จบการศึกษาระดับปริญญาตรีรัฐศาสตร์ (เกียรตินิยมอันดับ 1) จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และปริญญาโทด้านการวางแผนภาคและเมืองจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผ่านหลักสูตรนักปกครองระดับสูง (นปส.) รุ่นที่ 57 และหลักสูตรผู้นำการเปลี่ยนแปลงระดับสูง (ป.ย.ป.2) มีประสบการณ์หลากหลายทั้งในระดับกระทรวงและระดับจังหวัด เช่น ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย นักทรัพยากรบุคคลเชี่ยวชาญ และผู้อำนวยการสูง สำนักงานจังหวัดระยอง

ในระดับพื้นที่ เขาเริ่มจากตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ปี 2559 ก่อนขึ้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดน่านเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 จากนั้นย้ายไปเป็นผู้ว่าฯ จังหวัดมหาสารคามในปี 2566 และในรอบการโยกย้ายปี 2568 ได้รับการแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง

การเข้ารับตำแหน่งของวิบูรณ์มีขึ้นหลัง ชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางคนก่อนหน้า พ้นจากตำแหน่งในเดือนสิงหาคม 2568 หลังดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ตุลาคม 2567 รวมระยะเวลาประมาณ 10 เดือน ส่วนปลายทางของ ชุติเดชยังไม่มีข้อมูลยืนยันแน่ชัดจากคำสั่งแต่งตั้งในขณะนี้

ขณะที่จังหวัดพะเยาและตาก ยังไม่มีรายชื่อผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่ในรอบนี้ แม้ว่าผู้ว่าฯ คนเดิมของทั้งสองจังหวัดจะถูกโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งอื่นแล้วก็ตาม พะเยาเดิมมี รัฐพล นราดิศร ดำรงตำแหน่งก่อนจะถูกแต่งตั้งให้ไปเป็นผู้ว่าฯ เชียงราย ส่วนตากมี สมชัย กมลเทพเทวินทร์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย การเว้นว่างตำแหน่งของทั้งสองจังหวัดจึงอยู่ระหว่างรอการแต่งตั้งเพิ่มเติมจากกระทรวงมหาดไทยในลำดับถัดไป

การโยกย้ายครั้งนี้นอกจากจะเปลี่ยนแปลงตำแหน่งระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยแล้ว ยังสะท้อนความผันผวนของตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ว่าฯ หลายคนดำรงตำแหน่งในจังหวัดเดิมไม่ถึงปี ก่อนจะถูกโยกย้ายไปทำหน้าที่ใหม่ สถานการณ์เช่นนี้ไม่เพียงแต่ทำให้การขับเคลื่อนนโยบายจังหวัดขาดความต่อเนื่อง แต่ยังอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อระบบราชการในระดับพื้นที่

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง