เรื่อง: ปองภพ ดั่นสมานฉันท์ชัย
Summary
- แต่เดิมแล้ว งบประมาณก้อนนี้ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทของรัฐบาล แต่โครงการดังกล่าวต้องถูกยกเลิกไป คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2568 ให้หน่วยงานราชการทุกระดับสามารถยื่นข้อเสนอโครงการเพื่อของบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาทได้
- งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจใน 17 จังหวัดภาคเหนือ รวมแล้วทั้งหมด 18,590,044,900 บาท ซึ่งคิดเป็น 16.11% ของงบประมาณทั้งหมด
- จังหวัดเชียงใหม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงสุดที่ 6.2 พันล้านบาท ส่วนจังหวัดลำพูนได้รับงบประมาณน้อยที่สุดที่ 497 ล้านบาท
- กระทรวงคมนาคมได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงสุดในภาคเหนือ โดยได้ไปกว่า 10,423 ล้านบาท ซึ่งมากกว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งอยู่ในอันดับสองมากกว่าสองเท่า
- โครงการที่ได้รับงบประมาณสูงสุด 10 อันดับแรกของกระทรวงคมนาคมในภาคเหนือล้วนเป็นโครงการ “ปรับปรุงถนน”
- ธนาคารแห่งประเทศไทยตั้งข้อสังเกตว่า แม้การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการลงทุนใหม่จากภาคเอกชนอย่างมีนัยสำคัญ
“โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568 วงเงิน 115,000 ล้านบาท คาดกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.4% เพิ่มการจ้างงาน 7.4 ล้านคน พบว่า 73% ของเม็ดเงินไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนที่เหลือไปช่วยผลกระทบภาคการส่งออก เพิ่มผลิตภาพ และดิจิทัล ไปจนถึงภาคการท่องเที่ยว”
ข้อความข้างต้นคือการสรุปเนื้อหาของงบประมาณการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประจำปีงบประมาณ 2568 ซึ่งเดิมเป็นงบประมาณที่รัฐบาลกันเอาไว้เพื่อดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการเงินดิจิตอล 1 หมื่นบาท แต่แล้วด้วยเงื่อนไขด้านความตึงเครียดทางการคลังของรัฐบาล และความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมกับเงื่อนไขอื่น ๆ ส่งผลให้นโยบายดังกล่าวเป็นอันต้องล่มปากอ่าวไป
รัฐบาลจึงได้ประกาศให้หน่วยงานราชการทุกระดับสามารถยื่นขอจัดสรรงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท เปิดทางให้โครงการที่เคยถูกเก็บไว้ในลิ้นชัก ได้รับการปัดฝุ่นขึ้นมาเสนอของบประมาณต่อรัฐบาล
กระทั่ง รองนายกรัฐมนตรี (พิชัย ชุณหวชิร) ได้เสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อคณะรัฐมนตรี และได้รับความเห็นชอบ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 โดยมีโครงการผ่านการพิจารณาวงเงินทั้งสิ้น 115,375 ล้านบาท
รายงานชิ้นนี้จึงจะพาทุกคนไปสำรวจงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจก้อนนี้ ว่าบรรจุ “โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ” ประเภทใดเอาไว้บ้าง หน่วยงานใดและโครงการใดได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงสุด ไปจนถึงชวนทุกคนตั้งคำถามว่า งบประมาณก้อนนี้จะสามารถนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่?
กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ ‘คมนาคม’ ได้มากสุด
หลังการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย หรือ เงินหมื่นดิจิตอล มีเหตุให้ล่มปากอ่าว ทำให้เมื่อสิ้นเดือนตุลาคม 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงต่าง ๆ เสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้งบประมาณกลางปี 2568 ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ที่แรกเริ่มเตรียมไว้เป็นเงินสำหรับโครงการเงินหมื่นดิจิตอล
จากข้อมูลของ Rocket Media Lab ที่คำนวนรายการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หรืองบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจปีงบประมาณ 2568 สามารถย่อยออกมาเป็นงบประมาณใน 17 จังหวัดภาคเหนือที่ได้รับจัดสรรงบประมาณทั้งสิ้น 18,590,044,900 บาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 16.11% ของงบประมาณทั้งหมด (115,375,271,500 บาท) โดยจังหวัดที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงสุด คือ จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับจัดสรรงบประมาณกว่า 6.2 พันล้านบาท และจังหวัดที่ได้รับงบประมาณน้อยที่สุด คือ จังหวัดลำพูน ที่ 497 ล้านบาท โดยแบ่งได้ดังนี้
จังหวัด | งบประมาณรวม (บาท) |
เชียงใหม่ | 2,567,354,100 |
เชียงราย | 1,876,112,000 |
ลำปาง | 1,216,040,700 |
ลำพูน | 497,774,900 |
แม่ฮ่องสอน | 884,588,000 |
พะเยา | 732,640,500 |
น่าน | 852,674,800 |
แพร่ | 554,849,100 |
ตาก | 962,000,200 |
สุโขทัย | 1,101,990,700 |
อุตรดิตถ์ | 786,136,900 |
กำแพงเพชร | 1,016,316,500 |
พิษณุโลก | 907,282,200 |
เพชรบูรณ์ | 1,274,136,900 |
พิจิตร | 696,740,900 |
นครสวรรค์ | 1,582,309,400 |
อุทัยธานี | 1,081,097,800 |
ในการกระตุ้นเศรษฐกิจงบประมาณปี 2568 จะจัดสรรผ่านทางกระทรวงต่างๆ ลงสู่ท้องถิ่นแต่ละจังหวัด โดยไม่ผ่านการมีส่วนร่วมขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยกระทรวงที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจสูงสุดในภาคเหนือ คือ กระทรวงคมนาคม ที่ได้รับงบประมาณกว่า 10,423 ล้านบาท สูงกว่ากระทรวงเกษตรฯ ที่ได้รับงบประมาณเป็นอันดับที่สอง มากกว่า 2 เท่าตัว ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับการจัดสรรงบประมาณเป็นอันดับสุดท้าย โดยได้รับงบฯ เพียง 13.5 ล้านบาท

แม้จะเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่งบประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาทกลับถูกจัดสรรให้กับกระทรวงคมนาคม หน่วยงานผู้ทำหน้าที่บริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านการเดินทาง ซึ่งเป็นการลงทุนที่หวังผลระยะยาวและเป็นประโยชน์สาธารณะมากกว่า “การกระตุ้นเศรษฐกิจ” ในระยะสั้น เพื่อหวังการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว ดังที่พรรคเพื่อไทยเคยประกาศว่าเป็น “พายุหมุนทางเศรษฐกิจ” โดยหากแบ่งรายจังหวัดตามกระทรวงจะแบ่งได้ดังนี้
จังหวัด | กระทรวง | งบประมาณ (บาท) |
เชียงราย | กระทรวงคมนาคม | 888,961,000.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 285,000,000.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 453,471,600.00 | |
รัฐวิสาหกิจ | 48,457,000.00 | |
กระทรวงกลาโหม | 154,583,900.00 | |
กระทรวงวัฒนธรรม | 42,700,000.00 | |
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา | 2,938,000.00 | |
เชียงใหม่ | กระทรวงคมนาคม | 1,371,837,000.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 562,832,400.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 240,696,700.00 | |
รัฐวิสาหกิจ | 311,988,000.00 | |
กระทรวงวัฒนธรรม | 80,000,000.00 | |
ลำปาง | กระทรวงคมนาคม | 456,133,000.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 246,580,000.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 506,444,600.00 | |
รัฐวิสาหกิจ | 6,883,100.00 | |
ลำพูน | กระทรวงคมนาคม | 303,285,000.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 72,281,000.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 116,631,400.00 | |
รัฐวิสาหกิจ | 2,335,000.00 | |
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา | 3,242,500.00 | |
น่าน | กระทรวงคมนาคม | 490,184,000.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 298,635,000.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 59,355,800.00 | |
กระทรวงวัฒนธรรม | 4,500,000.00 | |
พะเยา | กระทรวงคมนาคม | 294,910,000.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 261,240,700.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 133,036,400.00 | |
รัฐวิสาหกิจ | 19,934,000.00 | |
กระทรวงกลาโหม | 20,567,400.00 | |
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา | 2,952,000.00 | |
แพร่ | กระทรวงคมนาคม | 327,090,000.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 39,288,000.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 87,519,000.00 | |
รัฐวิสาหกิจ | 53,578,100.00 | |
กระทรวงกลาโหม | 47,374,000.00 | |
แม่ฮ่องสอน | กระทรวงคมนาคม | 610,106,400.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 233,445,000.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 24,567,600.00 | |
รัฐวิสาหกิจ | 15,339,000.00 | |
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา | 1,130,000.00 | |
ตาก | กระทรวงคมนาคม | 520,270,000.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 220,170,000.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 213,316,200.00 | |
รัฐวิสาหกิจ | 8,244,000.00 | |
กำแพงเพชร | กระทรวงคมนาคม | 423,769,000.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 444,946,000.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 103,709,500.00 | |
รัฐวิสาหกิจ | 890,000.00 | |
กระทรวงวัฒนธรรม | 42,500,000.00 | |
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา | 502,000.00 | |
อุตรดิตถ์ | กระทรวงคมนาคม | 584,810,000.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 175,000,000.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 24,433,900.00 | |
รัฐวิสาหกิจ | 1,893,000.00 | |
สุโขทัย | กระทรวงคมนาคม | 525,071,000.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 428,543,000.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 84,223,800.00 | |
กระทรวงกลาโหม | 20,650,900.00 | |
กระทรวงวัฒนธรรม | 31,400,000.00 | |
เพชรบูรณ์ | กระทรวงคมนาคม | 1,079,830,000.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 33,800,000.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 103,297,000.00 | |
รัฐวิสาหกิจ | 34,764,000.00 | |
กระทรวงกลาโหม | 16,445,900.00 | |
กระทรวงวัฒนธรรม | 6,000,000.00 | |
พิษณุโลก | กระทรวงคมนาคม | 604,610,000.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 70,213,700.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 108,330,500.00 | |
รัฐวิสาหกิจ | 121,372,000.00 | |
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา | 2,756,000.00 | |
พิจิตร | กระทรวงคมนาคม | 479,871,000.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 9,450,000.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 133,417,600.00 | |
รัฐวิสาหกิจ | 11,454,800.00 | |
กระทรวงกลาโหม | 62,547,500.00 | |
นครสวรรค์ | กระทรวงคมนาคม | 1,091,181,000.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 230,900,000.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 35,018,800.00 | |
รัฐวิสาหกิจ | 95,314,000.00 | |
กระทรวงกลาโหม | 122,695,600.00 | |
กระทรวงวัฒนธรรม | 7,200,000.00 | |
อุทัยธานี | กระทรวงคมนาคม | 371,170,000.00 |
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | 561,900,000.00 | |
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | 93,977,800.00 | |
รัฐวิสาหกิจ | 54,050,000.00 |
กระตุ้นแบบเดิม ๆ แต่หวังผลลัพธ์ใหม่?
เราจะเห็นได้ว่ากระทรวงคมนาคมเป็นกระทรวงที่ได้รับงบประมาณที่ได้ชื่อว่า “กระตุ้นเศรษฐกิจ” มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในทุกจังหวัด โดยสามารถจำแนกโครงการ 10 อันดับแรกของกระทรวงคมนาคมที่ได้รับจัดสรรลงในพื้นที่ภาคเหนือ ได้ดังนี้
อันดับ | โครงการ | จังหวัด | งบประมาณ (บาท) |
1 | งานก่อสร้างเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 117 ตอน ป่าขนุน – วังผาชัน จ.อุตรดิตถ์ | อุตรดิตถ์ | 73,000,000 |
2 | ปรับปรุงระบบสายส่งไฟฟ้าลงใต้ดิน ท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน ตำบลจองคำ อำเภอเมืองแม่อ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน 1 แห่ง | แม่ฮ่องสอน | 70,000,000 |
3 | งานบำรุงตามกำหนดเวลา ทางหลวงหมายเลข 101 ตอน แยกปากจั๊วะ – แยกเจริญราษฎร์ ตอน 2 จ.แพร่ | แพร่ | 40,000,000 |
4 | ปรับปรุงจุดเสี่ยงจุดอันตราย ถนนสาย ชม.3023 แยกทางหลวงหมายเลข 107 – บ้านแม่สลัก อ.ฝาง, แม่อาย จ.เชียงใหม่ 1 แห่ง | เชียงใหม่ | 35,000,000 |
5 | เพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัย ถนนสาย กพ.6070 ผังเมืองรวมเมืองกำแพงเพชร อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร 1 แห่ง | กำแพงเพชร | 35,000,000 |
6 | งานบำรุงตามกำหนดเวลา ทางหลวงหมายเลข 1 ตอน หางน้ำหนองแขม – บ้านหว้า จ.นครสวรรค์ | นครสวรรค์ | 35,000,000 |
7 | ปรับปรุงจุดเสี่ยงจุดอันตราย ถนนสาย ชม.3004 แยกทางหลวงหมายเลข 107 – บ้านหนองยาว อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 1 แห่ง | เชียงใหม่ | 35,000,000 |
8 | งานบำรุงตามกำหนดเวลา ทางหลวงหมายเลข 3005 ตอน นครสวรรค์ – โกรกพระ จ.นครสวรรค์ | นครสวรรค์ | 35,000,000 |
9 | ปรับปรุงจุดเสี่ยงจุดอันตราย ถนนสาย ชม.5036 แยกทางหลวงชนบท ชม.3035 – บ้านทุ่งเสี้ยว อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ 1 แห่ง | เชียงใหม่ | 35,000,000 |
10 | งานบำรุงพิเศษและบูรณะ ทางหลวงหมายเลข 122 ตอน ทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ด้านตะวันตก ตอน 1 จ.นครสวรรค์ | นครสวรรค์ | 35,000,000 |
ดังที่เห็นจาก 10 อันดับโครงการที่ได้รับงบประมาณสูงสุดของกระทรวงคมนาคมต่างเป็นโครงการ “ปรับปรุงถนน” ทั้งสิ้น ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่างบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ ห่างจากเป้าหมายของมันไปไกล
หากกล่าวด้วยความเห็นใจที่มีต่อรัฐบาล เหตุที่งบประมาณก้อนนี้ไม่สามารถตอบโจทย์การกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เป็นผลจากการไม่สามารถผลักดันนโยบายของพรรคแกนนำรัฐบาลให้เป็นจริงได้
งบประมาณที่เตรียมจัดสรรสำหรับนโยบายดังกล่าวจึงต้องนำออกมาเบิกจ่าย ประกอบกับกรอบเวลาที่บีบคั้น จึงนำไปสู่การที่รัฐบาลต้องประกาศให้กระทรวงต่าง ๆ สามารถส่งโครงการที่เคยไว้ในลิ้นชัก เสนอมาให้รัฐบาลพิจารณาได้
ท้ายที่สุด โครงสร้างการจัดสรรงบประเมินของไทย ซึ่งเดิมทีคุ้นเคยกับการอัดฉีดงบประมาณก้อนโตให้กับกระทรวงเจ้าพ่อโครงการอย่าง กระทรวงคมนาคม อยู่แล้ว จึงนำไปสู่การจัดสรรงบประมาณในรูปแบบที่ “คุ้นเคย” ด้วยการอัดฉีดงบประมาณเข้าไป “ที่เดิม”
โครงสร้างการจัดสรรงบประมาณที่ถ่ายเทเม็ดเงินลงทุนจำนวนมากลงไปที่ถนนเช่นที่เกิดขึ้นกับงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 2569 ดำเนินมาต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 20 ปี ธนาคารแห่งประเทศไทย วิเคราะห์ประสิทธิภาพของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างถนนในฐานะเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจเผยให้เห็นข้อจำกัดที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติของการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ตั้งข้อสังเกตที่สำคัญว่า แม้เม็ดเงินลงทุนภาครัฐจะมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว บางปีอาจเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 20 ทว่า การลงทุนดังกล่าวกลับไม่ส่งผลให้เกิดการลงทุนใหม่ ๆ จากภาคเอกชนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดจากการที่กว่า 2 ใน 3 ของเม็ดเงินจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจถูกจัดสรรให้กับโครงการที่มีลักษณะเป็นการ “ซ่อมสร้าง” เป็นส่วนใหญ่ อาทิ การซ่อมสร้างถนนทางหลวง โครงการชลประทาน และอาคารสำนักงาน
โครงการประเภทนี้ แม้จะมีความจำเป็นในการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ แต่โดยพื้นฐานแล้วไม่ได้มีศักยภาพในการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ หรือดึงดูดการลงทุนเพิ่มเติมจากภาคเอกชนในลักษณะที่ก่อให้เกิดการต่อยอดทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง
งบประมาณที่ใช้ไปกับการซ่อมแซมและปรับปรุงสิ่งที่เคยมีอยู่แล้วบ่อยครั้ง อาจบ่งชี้ถึงปัญหาด้านคุณภาพของการก่อสร้างในอดีต หรือการขาดการบำรุงรักษาที่เหมาะสม ซึ่งทำให้งบประมาณจำนวนมากถูกใช้ไปเพื่อแก้ไขปัญหาเดิมซ้ำ ๆ แทนที่จะเป็นการลงทุนที่สร้างมูลค่าเพิ่ม
ในขณะเดียวกัน โครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนใหม่จากภาคเอกชนนั้น ยังคงอยู่ในระยะเริ่มต้นของการก่อสร้าง ซึ่งหมายความว่าผลประโยชน์จากการลงทุนเหล่านี้ยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่ในระยะเวลาอันใกล้ได้เลย
การที่งบประมาณส่วนใหญ่เป็น “ซ่อมสร้าง” ชี้ให้เห็นถึงการจัดสรรทรัพยากรที่อาจไม่สอดคล้องกับเป้าหมายการกระตุ้นการลงทุนระยะยาว งบประมาณที่ใช้ไปกับการซ่อมแซมซ้ำๆ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาคุณภาพงานหรือการขาดการบำรุงรักษาในอดีต ซึ่งเป็นการลงทุนที่ไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มแต่อย่างใด
สถานการณ์เศรษฐกิจและการคลังของประเทศไทยในปัจจุบัน เป็นเครื่องยืนยันที่ชัดเจนแล้วว่า การพัฒนาที่เอาถนนเป็นแกนนำ มิอาจนำมาซึ่งความรุ่มรวยทางเศรษฐกิจสู่ท้องถิ่นแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี โครงสร้างทางงบประมาณเดิมเช่นนี้ กลับเป็นมรดกส่งต่อไปที่งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 2568 อย่างเห็นได้ชัด
รายการอ้างอิง
- Rocket Media Lab. (23 มิถุนายน 2568). งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.15 แสนล้าน ถูกนำไปใช้เรื่องอะไร ผ่านหน่วยงานไหนบ้าง. Rocket Media Lab. https://rocketmedialab.co/economic-stimulus-budget/
- Rocket Media Lab. (23 มิถุนายน 2568). งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 2568 [ข้อมูลดิบ]. Rocket Media Lab. https://rocketmedialab.co/database-economic-stimulus-budget/
- วาราดา ทองจำนงค์ และ ปิติพัฒน์ ชูปลื้ม. (24 มิถุนายน 2568). สรุปโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568 วงเงิน 1.15 แสนล้านบาท คาดกระตุ้น GDP ได้ 0.4% เพิ่มการจ้างงาน 7.4 ล้านคน. The Standard. https://thestandard.co/thailands-2025-economic-stimulus-package/
- สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก. (6 มิถุนายน 2568). “มหาดไทย” เปิดไทม์ไลน์ ขอรับการจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท. https://www.thaitv5hd.com/web/content.php?id=50957
- สภาองค์กรของผู้บริโภค. (1 กรกฎาคม 2568). เจาะงบ กระตุ้นเศรษฐกิจ 1.5 แสนล้าน สภาผู้บริโภคขอระบบขนส่งฯ ที่เป็นธรรม. สถาองค์กรของผู้บริโภค. https://www.tcc.or.th/01072568_economic-stimulus_article/
- เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ, กฤษฏิ์ ศรีปราชญ์, จารีย์ ปิ่นทอง, ศิริกัญญา ตันสกลุ, รจุา อดิศรกาญจน์, แพรวไพลิน วงษ์สินธุวิเศษ และพิมพ์อร วัชรประภาพงศ์. (2560). การลงทุนเอกชนของไทย (1/3) : 8 ข้อเท็จจริงการลงทุนไทย. ธนาคารแห่งประเทศไทย. https://www.bot.or.th/content/dam/bot/documents/th/research-and-publications/research/discussion-paper-and-policy-paper/6NetForeignDirectInvestment.pdf

ปองภพ ดั่นสมานฉันท์ชัย
เกิดและโตในภาคเหนือตอนล่าง เรียนตรีจิตวิทยา กำลังเรียนโทสังคมศาสตร์ สนใจอ่านสังคมจากการมองประเด็นเล็ก ๆ