12 พฤษภาคม 2566 อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนำทีมปราศรัยใหญ่ก่อนวันเลือกตั้ง ณ ลานโชว์ ดีซี เขตห้วยขวาง โปรยคำขวัญส่งท้าย “หัวใจนี้ เพื่อรับใช้ประชาชน”
อนุทิน ขึ้นปราศรัยโดยกล่าวขอบคุณประชาชนที่สนับสนุนตน พร้อมชูสโลแกน “พูดแล้วทำ”
อนุทิน เผยว่าช่วง 4 ปีที่ผ่านมาที่ได้ทำงานร่วมกับรัฐบาล มีกรอบเดิมคือไม่ไปทำงานในจังหวัดที่ไม่ได้เลือก แต่ตนไม่มองแบบนั้น ยืนยันหลักการจังหวัดไหนไม่เลือก ยิ่งต้องทำงานให้จังหวัดนั้นเลือกตนให้ได้
“วันนี้ผมมีความพร้อมที่จะรับใช้พี่น้องประชาชนทั้งชาวกรุงเทพฯ และคนไทยทั่วประเทศ ผมขึ้นมาอยู่ถึงจุดนี้ได้ไม่มีทางลัด แต่มาด้วยผลงาน” อนุทินกล่าว
อีกทั้ง อนุทิน ยังเผยความพึงพอใจในภาพรวมการทำงานของพรรคในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาว่าเป็นไปได้อย่างดีทำตามกฎกติกา ความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาลเป็นไปอย่างดีมาก ไม่มีขัดแย้งกับใคร จะขัดแย้งเฉพาะกับผู้ไม่หวังดีกับบ้านเมือง และคนที่ทุจริตไม่มีความปราถนาดีกับประชาชนเป็นหลัก
“รัฐบาลใน 4 ปีนั้น อยู่รอดก็เพราะพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่ขัดแย้ง ไม่เอาเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ ก้าวข้ามการทะเลาะเบาะแว้ง ซึ่งที่เหลือเราสามารถทำงานได้หมด” อนุทินกล่าว
อนุทิน ยังเผยปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ที่ประชาชนต้องแบกรับในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยเสนอใช้รถแอร์ EV ปลอดควันจำนวน 5,000 ภายในปีหน้าในจังหวัดกรุงเทพฯ ภายใต้ราคาไม่เกิน 40 บาท
“พวกเราจะเข้ามาทำงาน รับใช้พี่น้องกทม.อย่างสุดความสามารถ เหมือนกับ 4 ปีที่ผ่านมา มีพรรคภูมิใจไทยเท่านั้นที่ใส่ใจในชีวิตของพ่อแม่พี่น้อง ยกระดับทั้งสาธารณะสุข ยกระดับทั้งสุขภาพ ยกระดับทั้งคุณภาพชีวิต ยกระดับทั้งเศรษฐกิจ ปากท้องของพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน” อนุทินกล่าว
อนุทิน เชื่อว่าประชาชนจะสามารถรู้ได้ว่าพรรคตนพูดจริงทำจริง จากที่เห็นได้จากการทำงานของพรรค ยืนยันเข้ามาทำงานเพื่อประชาชน ทำงานด้วยสติ ชี้ “คนไทยเสียโอกาสมาเยอะ มันถึงเวลาต้องกอดกัน ต้องช่วยกันแล้ว”
นอกจากนี้ระหว่างปราศรัย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ปรากฏตัว บริเวณทางด่วน พระราม ด้านบนจุดปราศรัย พร้อมชูป้ายแสดงข้อความ “เราไม่เอากัญชา เอากัญชากลับไป”, “กัญชาฆ่าเยาวชน”, “ยกเลิกกัญชา” และ “บ้ากัญชาพาสังคมพัง” โดย อนุทิน ได้นำประชาชนปรบมือให้ ก่อนจะตะโกน “ลงๆ ลงมาโดดมาๆ อย่าลืมว่า เรานัดกินข้าวกันอยู่ แล้วอาทิตย์หน้าเจอกันนะ”
โดยในช่วงท้ายของการปราศรัย อนุทิน เผยกับสื่อมวลชนว่าการมาเยือนของ ชูวิทย์ จะยิ่งทำให้พรรคภูมิใจไทยมีคะแนนเสียงเพิ่มมากขึ้น และมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีคะแนนเสียงมากกว่าการเลือกตั้งปี 2562 อย่างแน่นอน
