ศาลเชียงรายยกฟ้องคดีมาตรา 112 บอส ฉัตรมงคล ชี้พยานหลักฐานโจทย์ไม่เพียงพอ

Date:

27 มีนาคม 2566 ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ในเวลา 9.00 น. ศาลจังหวัดเชียงรายนัดฟังคำพิพากษาในคดีของ ‘บอส’ ฉัตรมงคล วัลลีย์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในบริษัทเอกชน วัย 28 ปี ผู้ถูกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) เหตุจากถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้คอมเมนต์ข้อความมีเนื้อหาหมิ่นกษัตริย์ฯ ในโพสต์ของเพจเฟซบุ๊ก ‘ศรีสุริโยไท’

ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน นายองอาจ เทียนหิรัญ เป็นผู้อ่านคำพิพากษายกฟ้องจำเลย โดยอ่านในเนื้อหาส่วนคำวินิจฉัย สรุปความได้ว่า พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์แล้วเห็นว่า ไม่มีพยานบุคคลและหลักฐานที่ยืนยันว่าจำเลยกระทำความผิดจริง ที่โจทก์เชื่อว่าจำเลยกระทำผิดมาจากตำรวจชุดสืบสวนที่นำชื่อเฟซบุ๊กที่ถูกกล่าวหา ไปค้นในทะเบียนราษฎร์ของจำเลย แล้วนำมาเปรียบเทียบกับภาพในเฟซบุ๊ก 

เมื่อพิจารณาทางนำสืบของจำเลยที่ชี้ให้เห็นว่าหน้าเฟซบุ๊กมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้โดยง่าย  โดยไม่ต้องเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ประกอบกับ การตรวจสอบเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กกระทำได้โดยยาก อย่างการที่โจทก์นำส่งเฟซบุ๊กดังกล่าวไปตรวจสอบกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแล้วไม่สามารถยืนยันผู้ใช้งานได้ พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่เพียงพอรับฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษายกฟ้อง

คดีดังกล่าวนี้ถูกแจ้งโดย นัธทวัฒน์ ชลภักดี แอดมินเพจ “ศรีสุริโยไท” เหตุเกิดจากเมื่อวันที่ วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 เวลาประมาณ 14.00 น. นัธทวัฒน์ได้โพสต์ข้อความว่า “เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ หัวใจของเราคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สิ่งที่พวกเราต้องการที่สุดคือกำลังใจ ไม่มีแบ่งพรรค แบ่งพวก แบ่งสี” ในเพจ “ศรีสุริโยไท” 

ต่อมาผ่านไป 2 ชั่วโมง เวลาประมาณ 16.00 น. ได้เปิดดูเพจดังกล่าว พบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชีชื่อเดียวกับฉัตรมงคล ได้คอมเมนต์ข้อความในโพสต์ดังกล่าว ซึ่งนัธทวัฒน์เห็นว่าเป็นข้อความที่หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์

ข้อมูลจาก

https://database.tlhr2014.com/public/case/1897/lawsuit/672/

พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

Lanner Editor
Lanner Editor
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

More like this
Related

‘บางระกำโมเดล’ ก้าวไกลระดับโลก แต่ ‘คน’ โดนทิ้งไว้กลางน้ำ

เรื่อง: ฐิติพร มะโนวรรณา, ภาพ: ตุลา ธารา ‘บางระกำโมเดล’ โครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ภายใต้สำนักงานชลประทานที่ 3...

เบื้องหลังเจ้าตลาดแร่แรร์เอิร์ธโลก จีนกับห่วงโซ่อุปทานเหมืองแร่ในเมียนมา

เรื่อง: สุทธิกานต์ วงศ์ไชย, ภาพ: วีรภัทร เหลาเกิ้มหุ่ง เบื้องหลังโทรศัพท์สมาร์ตโฟน รถยนต์ไฟฟ้า และกังหันลม ล้วนมีวัตถุดิบสำคัญที่ถือเป็นหัวใจของเทคโนโลยีสมัยใหม่...

ริมกกซวยซ้ำ! น้ำประปา ผัก ปลา ปนเปื้อนโลหะหนัก ชาวบ้าน 7 รายมีสารในปัสสาวะสูง จี้รัฐเร่งแก้ไข

ผ่านมากว่าครึ่งปีกับวิกฤตสารโลหะหนักปนเปื้อนในแม่น้ำกกที่ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อระบบนิเวศของสายน้ำ แต่กระทบไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนริมฝั่งแม่น้ำ เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การประกอบอาชีพอย่างการประมงและการเกษตร กลายเป็นปัญหาใหญ่ข้ามพรมแดนที่ไม่อาจแก้ได้ฝ่ายเดียว นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสายน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนมานับไม่ถ้วนกำลังเผชิญกับหายนะอย่างหนัก แม่น้ำกกมีต้นกำเนิดอยู่ในเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ไหลเข้าสู่ประเทศไทยในตำบลท่าตอน...

วิกฤตชาวประมงปากน้ำกก ยื่นข้อเสนอ 4 ข้อ รัฐเยียวยา-เร่งเจรจาหยุดสารพิษ

​14 ตุลาคม 2568 ชาวประมงจากสามชุมชนปากแม่น้ำกก ได้แก่ บ้านเชียงแสนน้อย บ้านสบคำ ตำบลเวียง และบ้านสบกก...