แอมเนสตี้ชี้ กองทัพเมียนมาทรมานผู้ต่อต้านการรัฐประหาร เลขาธิการเผย “คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต้องเพิ่มแรงกดดันต่อกองทัพเมียนมา”

Date:

03/08/2022

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยในการเปิดตัวรายงานสรุปใหม่ พบเจ้าหน้าที่ในเรือนจำและสถานที่สอบปากคำของทางการเมียนมา มักควบคุมตัวบุคคลที่ต่อต้านการทำรัฐประหารในปี 2564 อย่างต่อเนื่องเพื่อทรมานและปฏิบัติที่โหดร้ายหรือการย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เป็นเวลากว่าหนึ่งปีครึ่งหลังการยึดอำนาจที่ทำให้การเปลี่ยนผ่านสู่การปกครองของพลเรือนต้องยุติลง


แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัวรายงานสรุปใหม่ “15 วันแต่เหมือนกับ 15 ปี” (15 Days Felt like 15 Years)” โดยเป็นการสัมภาษณ์ 15 ครั้งในเดือนมีนาคม 2565 กับอดีตผู้ถูกควบคุมตัว ทนายความของนักโทษ และผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งการทบทวนรายงานใหม่กว่า 100 ฉบับ เป็นบันทึกข้อมูลประสบการณ์ที่โหดร้ายของบุคคล ตั้งแต่ขณะถูกจับกุม จนถึงการสอบปากคำและคุมขัง รวมทั้งหลังได้รับการปล่อยตัว


ภายในรายงานสรุปได้กล่าวถึงการปฎิบัติของหน่วยงานทหารเมียนมา ที่เรียกได้ว่าละเมิดกฎหมายในทุกขั้นตอนของกระบวนการจับกุมและควบคุมตัว นับตั้งแต่การรัฐประหารที่เกิดขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ตั้งแต่การจับกุมโดยไม่มีหมายจับ การบังคับให้รับสารภาพ ไปจนถึงการทรมานหรือการปฏิบัติที่โหดร้ายอย่างอื่น การบังคับให้สูญหาย การตอบโต้สมาชิกในครอบครัว การห้ามไม่ให้ผู้ถูกควบคุมตัวติดต่อกับครอบครัวและทนายความ และการประหารชีวิตโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อชายสี่คนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
จากการให้ข้อมูลของผู้ถูกควบคุมตัวหลายคนผ่านงานสรุปชิ้นนี้ เผยให้เห็นว่ามีการทรมานทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ เพื่อบังคับให้รับสารภาพ และรีดเค้นข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานต่อต้านรัฐประหาร ด้วยวิธีต่างๆไม่ว่าจะเป็นการตบ เตะ ทุบตีด้วยพานท้ายปืน สายไฟ และกิ่งของต้นปาล์ม การใช้กระบองช็อตไฟฟ้า การกดหัวผู้ถูกคุมขังลงไปในถังน้ำ รวมไปถึงการทรมานทางจิตใจอย่างการขู่ว่าจะฆ่าและข่มขืน ตัดขาดผู้ถูกคุมขังจากโลกภายนอก และการตรวจค้นร่างกายผู้ถูกคุมขังที่เป็นคนข้ามเพศ ที่ล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวเพื่อตรวจสอบว่าผู้ถูกคุมขังเป็นเพศชายหรือหญิงกันแน่เป็นต้น


แอกเนส คาลามาร์ด เลขาธิการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่า เมียนมาได้ตกต่ำลงอย่างไม่อาจจินตนาการได้ ทั้งการปฏิบัติที่โหดร้ายและโหดเหี้ยมต่อผู้ถูกควบคุมตัว โดยเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่มีเจตนา เพื่อทำลายขวัญและกำลังใจของพวกเขา และบังคับให้ประชาชนเลิกต่อต้านการทำรัฐประหารปี 2564


ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.amnesty.or.th/latest/news/1023/


ภาพ : ข่าวสด
#Lanner

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

#เลือกอนาคตของเฮา รวมสีสันศูนย์ประชามติภาคเหนือ หลายจังหวัดเริ่มแล้ว ก่อนกา ‘เห็นชอบ’ 8 ก.พ. 69

ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือเริ่มตั้ง ‘ศูนย์ประชามติ’ ในหลายจังหวัด โดยใช้พื้นที่ของเอกชนและชุมชนเป็นจุดทำงาน เช่น ร้านหนังสือ คาเฟ่...

#เลือกอนาคตของเฮา จวนหมู่เฮาจาวเหนือไปก๋าประชามติรัฐธรรมนูญใหม่ วันเดียวกับเลือกตั้ง 8 ก.พ. 69

อย่างตี้ฮู้กั๋นว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดหื้อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันเลือกตั้ง แต่วันเดียวกั๋นนี้จะมี ‘ก๋านออกเสียงประชามติ’...

มองบ้านใหญ่ภาคเหนือในเลือกตั้ง 69: 18 ตระกูลย้ายพรรค–22 ตระกูลปักหลักที่เก่า–อีก 3 ตระกูลก้าวจากท้องถิ่นสู่การเมืองระดับชาติ

‘บ้านใหญ่’ ไม่ได้หมายถึงครอบครัวที่เล่นการเมืองเพียงครอบครัวเดียว แต่หมายถึงเครือข่ายตระกูลการเมืองที่สืบทอดบทบาทและอิทธิพลต่อเนื่องยาวนาน โดยที่สมาชิกในเครือข่ายมักกระจายตัวอยู่ทั้งในสนามการเมืองท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้รับเหมางบประมาณ และภาคธุรกิจ  ในการเลือกตั้งปี 2569 ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้...

เมืองที่ ‘ทุกคนต้องมีรถ’ ถึงจะใช้ชีวิตได้ ชีวิตคนพิจิตรในวันที่ขนส่งสาธารณะจังหวัดพึ่งพาไม่เคยได้

เรื่อง: สุทธิกานต์ วงศ์ไชย, ภาพ: ภูบดี หิรัญวิวัฒน์วงศ์ แม้ในต่างจังหวัด ผู้คนยังคงต้องพึ่งพาขนส่งสาธารณะในชีวิตประจำวัน แต่ระบบที่ควรทำหน้าที่รองรับกลับค่อยๆ หดเล็กลงเรื่อยๆ...