RedPoetry การต่อสู้ที่ยังไม่จบสิ้น ?

Date:


เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ได้มีกิจกรรมรับชมภาพยนตร์สารคดีเรื่อง ‘RedPoetry’ รอบปฐมทัศน์ โดยหมายิ้มสตูดิโอ ณ สวนอัญญา เฮือนครูองุ่น มาลิก จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากการรับชมภาพยนตร์ ยังมีการจัดแสดงดนตรีสด และ Performance art โดยลานยิ้มการละคร ต่อด้วยการสนทนาในหัวข้อ “ยังมีจิตใจจะใฝ่ฝัน” ผู้ร่วมสนทนาโดย ดร.ภาสกร อินทุมาร สาขาวิชาการละคอน คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, พชร คำชำนาญ นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม และผู้ชวนสนทนาโดย วัชลาวลี คำบุญเรือง

RedPoetry คือภาพยนตร์สารคดีที่นำเสนอเรื่องราวของรามิล นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ได้ต่อสู้และเคลื่อนไหวเพื่ออิสรภาพ โดยการใช้บทกวีและ Performance Art จนถูกต้องโทษทางคดีความมากมาย ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย ศุภโมกข์ ศิลารักษ์​ คนทำหนังอิสระ ทำให้เป็นการผสมผสานระหว่างการนำเสนอแบบภาพยนตร์และ Performance Art สนธนาหัวข้อ

“ยังมีจิตใจจะใฝ่ฝัน”


ภาสกรเสนอว่า ในการทำความเข้าใจPerformance art ที่ต้องอาศัยการใช้องค์ประกอบรอบ ๆ ในการแสดงนั้น ไม่สามารถจะนิยามออกมาให้เข้าใจตรงกันได้ ซึ่งอำนาจการตีความนั้นอยู่ที่ผู้ชม แต่ความน่าสนใจคือ การที่สามารถนำไปใช้กับการเคลื่อนไหวเพื่อการสื่อสาร เพราะ Performance art นั้นมีความแตกต่างจาก Performing art ตรงที่ Performance art สามารถที่จะตีความได้กว้างมากกว่า 

ภาสกรยังกล่าวเสริมอีกว่า จำเป็นที่จะต้องสร้าง Narrative ชุดใหม่ ขอยกตัวอย่างเมื่อ 20 ปีก่อนผมเคยทำเรื่อง HIV ที่เป็นการเคลื่อนไหวแบบเรื่องราวชุดใหม่ เพื่อต่อต้านความคิดเห็นแบบกลางผ่านการจัดนิทรรศการ ซึ่งเป็นการใช้ศิลปะในการต่อสู้


พชรยังเสริมต่อจากประเด็นภาสกรอีกว่า Social Media ก็ยังมีส่วนช่วยในการสร้าง  Narrative ชุดใหม่เช่นกัน จากที่ผมได้ทำงานประเด็นชาติพันธุ์ ได้มีการดัน Hashtag ขึ้นมา อย่าง #Saveบางกลอย ซึ่งมีส่วนช่วยอย่างมากในการทำให้ประเด็นของเรานั้นกว้างขึ้น

พชรกล่าวว่า กิจกรรมเหล่านี้มันมีมาตลอด ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของงาน ไม่ว่าจะเป็นละครเวทีหรือเป็นภาพยนตร์สั้น มันก็มีมาตลอดในระยะหนึ่ง แต่บางทีมันก็หายไปในช่วงรัฐประหาร

พชรแสดงความคิดเห็นหลังจากภาพยนตร์ว่า อำนาจบางรัฐอะไรบางอย่างได้ผลักให้ให้เราไปอยู่ชายขอบ เพื่อที่จะถูกตีตราและถูกกระทำความรุนแรงโดยรัฐ


คนในยุคผมผ่านความรุนแรงและสภาวะการต่อเผด็จการอย่างเข้มข้น ในปัจจุบันก็ยังเห็นว่ามันยังมีผู้ที่ถูกกดขี่อย่างหนัก ทำให้ตั้งคำถามว่า เราจะอยู่ในสังคมอย่างนี้จริง ๆ เหรอ ซึ่งคนรุ่นใหม่ที่ออกมาเราไม่ได้คิดแค่กับตัวเอง แต่เราคิดว่าคนเท่ากันทำให้เราสามารถก้าวเข้าไปต่อสู้กับทุกปัญหา ท่ามกลางความอยุติธรรม

พชรยังเสนออีกว่า การทำงานกับผู้คนในพื้นที่มันมีความท้าทายสูงมาก เนื่องจากที่เราไปทำงานทุกเรื่องมันเชื่อมโยงกัน เป็นโครงสร้างที่หลีกเลี่ยงประเด็นทางการเมืองไม่ได้ อาทิ กฎหมายอุทยานที่เกิดในช่วงสงครามเย็น ทำให้เราพยายามที่จะทำงานกับคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ และเครือข่ายอีกหลากหลายเครือข่าย เพื่อที่จะทำให้ประเด็นของเราไปได้กว้าง ท้าทายมัน และกล้าที่จะนำเสนอมัน

Lanner Editor
Lanner Editor
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

คนนี้หน้าคุ้นๆ เป็นแล้ว เป็นอยู่ เป็นต่อ? ย้อน 5 เลือกตั้ง สส. เขตภาคเหนือ ใครยึดเก้าอี้แน่นสุด

มองย้อนกลับไป 20 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา ประเทศไทยมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)...

#เลือกอนาคตของเฮา รวมสีสันศูนย์ประชามติภาคเหนือ หลายจังหวัดเริ่มแล้ว ก่อนกา ‘เห็นชอบ’ 8 ก.พ. 69

ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือเริ่มตั้ง ‘ศูนย์ประชามติ’ ในหลายจังหวัด โดยใช้พื้นที่ของเอกชนและชุมชนเป็นจุดทำงาน เช่น ร้านหนังสือ คาเฟ่...

#เลือกอนาคตของเฮา จวนหมู่เฮาจาวเหนือไปก๋าประชามติรัฐธรรมนูญใหม่ วันเดียวกับเลือกตั้ง 8 ก.พ. 69

อย่างตี้ฮู้กั๋นว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดหื้อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันเลือกตั้ง แต่วันเดียวกั๋นนี้จะมี ‘ก๋านออกเสียงประชามติ’...

มองบ้านใหญ่ภาคเหนือในเลือกตั้ง 69: 18 ตระกูลย้ายพรรค–22 ตระกูลปักหลักที่เก่า–อีก 3 ตระกูลก้าวจากท้องถิ่นสู่การเมืองระดับชาติ

‘บ้านใหญ่’ ไม่ได้หมายถึงครอบครัวที่เล่นการเมืองเพียงครอบครัวเดียว แต่หมายถึงเครือข่ายตระกูลการเมืองที่สืบทอดบทบาทและอิทธิพลต่อเนื่องยาวนาน โดยที่สมาชิกในเครือข่ายมักกระจายตัวอยู่ทั้งในสนามการเมืองท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้รับเหมางบประมาณ และภาคธุรกิจ  ในการเลือกตั้งปี 2569 ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้...