เมื่อฉัน (นักเรียน ม.4) ได้พูดคุยกับ ‘นักศึกษา(ครู)ฝึกสอน’ คนหนึ่ง

Date:

9 มกราคม 2566

เรื่อง : Patha

ภาพประกอบ : วรปรัชญ์ เมืองยศ

1.

ในโลกที่เรามีโซเชียลมีเดีย ทำให้ทุกวันนี้ปัญหาหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันถูกนำเสนอต่อสาธารณะมากขึ้น

ด้วยความที่ผู้เขียนเป็น “นักเรียน” ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปัญหาที่ใกล้ตัวของผู้เขียนมากที่สุดนั้นย่อมหนีไม่พ้นเรื่อง “การศึกษา”

จากมุมมองของนักเรียน พวกเราเจอปัญหาอะไรบ้าง? ถ้าจะให้ไล่เรียงให้หมดครบถ้วนก็คงไม่หวาดไม่ไหว แต่จะขอหยิบยกข้อมูลของกลุ่ม “นักเรียนเลว” กลุ่มนักเรียนที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนในสถานศึกษาตั้งแต่ปี 2563 พอสังเขปดังนี้

โรงเรียนไม่ได้เป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียน นักเรียนถูกคุกคาม ทั้งการตีและทำร้ายนักเรียนอย่างไม่สมเหตุสมผล การคุกคามทางเพศในโรงเรียน ตลอดจนการคุกคามเหยียดเพศสภาพของนักเรียน และการคุกคามจากการแสดงออกทางการเมือง

ประกาศ กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับที่ใช้กับนักเรียนมีเนื้อหาล้าหลังที่ไม่สอดรับกับหลักสิทธิมนุษยชนสากลในปัจจุบัน มีการละเมิดสิทธิและเสรีภาพ ทั้งยังลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ในตัวนักเรียนมาโดยตลอด อาทิ เรื่องทรงผมของนักเรียนและเครื่องแบบนักเรียน เป็นต้น

มีการมองกันว่าการศึกษาไทยทั้งระบบยังมีปัญหาที่ส่งผลต่อนักเรียน เช่น ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาการเข้าไม่ถึงการศึกษา ปัญหาหลักสูตรที่ไม่มีคุณภาพ ปัญหาภาระงานครู ปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของครู เป็นต้น

2.

นอกจากนักเรียนแล้ว ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในระบบการศึกษาที่สำคัญอีกกลุ่มหนึ่งก็คือ “ครู” ที่ถือเป็นอาชีพที่คนไทยตั้งความหวังไว้สูงอาชีพหนึ่ง โดยผลสำรวจชิ้นหนึ่งเมื่อปี 2565 ประชาชนมองว่าอาชีพครูยังเป็นอาชีพที่คนอยากเป็น 57.97% อยากเห็นครูกล้าที่จะทำอะไรใหม่ ๆ ไม่ยึดติดอยู่กับวิธีการแบบเดิม ๆ 67.42% และตั้งความหวังให้ครูไทยที่ดีควรรักในอาชีพ มีจิตวิญญาณความเป็นครูถึง 74.98% เลยทีเดียว

นอกจากนี้ผู้เขียนจึงอยากจะกล่าวถึงอีกหนึ่งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับระบบการศึกษาที่ไม่ถูกพูดถึงมากนักคือ  “นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู” หรือที่เราเรียกกันว่า “นักศึกษาฝึกสอน” หรือ “ครูฝึกสอน” ที่เป็นนักศึกษาในวิทยาลัย มหาวิทยาลัย หรือในระดับบัณฑิตศึกษาที่สอนอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของครูประจำการ เพื่อให้ผ่านคุณสมบัติในการสำเร็จการศึกษาในด้านศึกษาศาสตร์ สำหรับในประเทศไทยนักศึกษาฝึกสอนจะอยู่ภายใต้การดูแลของอาจารย์นิเทศก์จากมหาวิทยาลัย และครูพี่เลี้ยงที่คล้ายคลึงกับครูประจำการทั่วไป เช่น การจัดการเรียนการสอน การดูแลชั้นเรียน รวมถึงการวัดและประเมินผล

โดยในอนาคต “นักศึกษาฝึกสอน” เหล่านี้ก็จะก้าวสู่อาชีพครูเพื่อสอนนักเรียนในรุ่นต่อ ๆ ไป

แต่ทว่าเมื่อมองเข้าไปในความนึกคิดและความรู้สึกของนักศึกษาฝึกสอนเมื่อได้ทดลองทำหน้าที่แล้วนั้น นักศึกษาฝึกสอนได้เห็นปัญหาของตัวระบบการศึกษาและระบบข้าราชการที่ยังคงดำรงอยู่

ผู้เขียนได้มีโอกาสพูดคุยนักศึกษาฝึกสอน จากคณะศึกษาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ที่ได้เล่าถึงปัญหาของระบบการศึกษา และระบบข้าราชการครู ที่พบเจอและพบเห็นมาว่าในระดับโรงเรียนด้วยความที่เป็นนักศึกษาฝึกสอนน้องใหม่ ปัญหาที่โดนเป็นประจำเลยคือมีการใช้งานนักศึกษาฝึกสอนมากเกินความจำเป็น ครูบางท่านให้นักศึกษาสอนไปเลยแล้วครูไม่เข้า ซึ่งเป็นสิ่งที่หนัก เกินตัว เกินหน้าที่ที่ได้รับมา ดังนั้นพอเป็นเช่นนี้ประสิทธิภาพในการฝึกสอนลดต่ำลง ครูที่โรงเรียนไม่ได้สนใจนักศึกษาฝึกสอนมากมายขนาดนั้น และครูไม่เพียงพอต่อความต้องการของเด็ก ทำให้ศักยภาพพัฒนาได้ไม่เพียงพอในการที่ลงฝึกสอนทั้งโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยไม่ได้ออกเงินให้นักศึกษาในการฝึกสอน มีแต่นักศึกษาที่ต้องออกเองทุกบาททุกสตางค์ นักศึกษาบางคนไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น จึงเห็นว่ากระทรวงควรมีนโยบายที่เอื้อต่อนักศึกษาฝึกสอน เช่นการให้เงินสนับสนุน ซึ่งจะทำให้นักศึกษาไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องนี้มาก

ในระดับมหาวิทยาลัยเองนั้น ก็พบว่าตัวระบบการศึกษาของคณะ อาจารย์ผู้สอนมีความเป็นอนุรักษ์นิยมสูง นโยบายและหลักสูตรค่อนข้างพัฒนาเป็นปัจเจกบุคคล ไม่ได้เอื้อต่อทุกคน หลักสูตรเองควรได้รับความร่วมมือจาก รัฐ เอกชน และชุมชน เพื่อพัฒนาหลักสูตรให้ดีและเข้ากับพื้นที่ได้

“จริง ๆ แล้วนักศึกษาฝึกสอนมีหน้าที่ฝึกสอนเพื่อเก็บประสบการณ์และต่อยอดเพื่อจะไปต่อกับอาชีพครูแค่นั้น แต่ทว่าในความเป็นจริงมีการใช้งานนักศึกษาเกินหน้าที่ เกินความสามารถ ซึ่งเกินมาตรฐานที่นักศึกษาจะทำได้”

“นอกจากนี้ตัวอย่างเช่นการไปสังเกตการณ์สอน จริง ๆ เราควรแค่นั่งดูคุณครูเขาสอนไป แต่ว่าบางครั้งครูก็ให้เข้าสอนเลยและเราไม่ได้มีประสบการณ์มากขนาดนั้น หรืองานเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการถอดพัดลมลงมา นักศึกษาฝึกสอนยังต้องทำ ทั้งที่จริง ๆ มันไม่ใช่หน้าที่ของเรา” นักศึกษาฝึกสอนท่านนี้กล่าวกับผู้เขียน

และเมื่อผู้เขียนถามว่าเจอปัญหาแบบนี้ เรายังอย่างเข้าสู่ระบบครูไหม?

“อยากเป็นครูและอยากจะไปให้สุดทาง” เป็นคำตอบจากนักศึกษาฝึกสอนท่านนี้ รวมทั้งยังตั้งความหวังว่าอยากให้เด็กมองสังคมในเชิงวิพากษ์ สร้างจินตนาการให้เด็กมองไปไกลมากกว่าที่ระบบจัดสร้างมาให้ เช่น การตั้งคำถาม การเรียนรู้ แต่มองว่าเป็นไปได้ยากเพราะปัจเจกบุคคลยังคงมีกำแพงกั้นหนาขวางกั้นอยู่


ข้อมูลประกอบการเขียน
1.สัมภาษณ์นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูจากคณะศึกษาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 25652.“โพลเผยปัญหาการศึกษาไทยเกิดจากความเหลื่อมล้ำ-การบริหารงานของศธ.” สยามรัฐ 21 สิงหาคม 2565 https://siamrath.co.th/n/375517
3.“นักเรียนเลว (น.ร.ล.)” เรียบเรียงโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศุทธิกานต์ มีจั่น, สถาบันพระปกเกล้าhttp://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=นักเรียนเลว_(น.ร.ล.)


เกี่ยวกับผู้เขียน

Patha นามปากกาของนักเรียนมัธยมที่ชอบการอ่าน การเขียน การกินและการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ และยังอยากจะก้าวเข้าสู่วงการนักเขียนและอัพเดทสถานการณ์ภาคเหนือให้เป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกัน

Patha

More like this
Related

เชียงใหม่รวมพลังเครือข่าย “เปิดโลกคนไร้บ้าน” ขับเคลื่อนระบบคุ้มครองคนไร้ที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่ลานประตูท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ คณะทำงานคนไร้บ้านเมืองเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่าย...

ไร้ความคืบหน้า ประชาชนลุ่มน้ำกก-สาย-รวก-โขง ร้องรัฐเร่งแก้ปัญหามลพิษเหมืองเมียนมา

21 ตุลาคม 2568 สืบสกุล กิจนุกร โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนสารโลหะหนักในแม่น้ำกก-สายรวก-โขงจากเหมืองแร่ในเมียนมา โดยระบุถึงนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกุล...

สภาฯ ผ่านฉลุยร่าง ‘พ.ร.บ.อากาศสะอาด’ 309 เสียง เตรียมส่งต่อวุฒิสภา กมธ.ชี้เป็น ‘อาวุธใหม่’ ทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ให้คนไทย

21 ตุลาคม 2568 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติ ‘เห็นชอบ’ ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. ... ในวาระที่...

เจียงใหม่กำลังจะ “โฮะ” แหมรอบ!

กับ Chiang Mai HO Zix เทศกาลดนตรีตี้รวมศิลปินออริจินัลเชียงใหม่ไว้นักที่สุดกว่า 40 วง 4...