ราษฎรหยุด APEC2022 แถลงการณ์เตรียมจัดเวทีคู่ขนาน 16-18 พฤศจิกายนนี้

Date:


เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 กลุ่ม ราษฎรหยุด APEC2022 นำโดย นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ภาคีเครือข่าย อาทิ เครือข่าย กป.อพช.ทุกภาค เครือข่ายสมัชชาคนจน เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ เครือข่าย P-Move เครือข่ายแรงงาน เครือข่ายโขงชีมูน เครือข่ายสลัมสี่ภาค และเครือข่ายคนรุ่นใหม่ ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ประยุทธ์ ไร้ความชอบธรรม ไม่คู่ควรเป็นประธานเอเปค หยุดอ้างเอเปคเพื่อผลักดันนโยบายสร้างหายนะแก่ประชาชน ณ สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) พร้อมจัดเวทีคู่ขนานกับการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคในวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2565 

แถลงการณ์ราษฎรหยุด APEC2022

ประยุทธ์ ไร้ความชอบธรรม ไม่คู่ควรเป็นประธานเอเปค  หยุดอ้างเอเปคเพื่อผลักดันนโยบายสร้างหายนะแก่ประชาชน

หลังการทำรัฐประหารในปี 2557 โดย ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีการจัดตั้งรัฐบาลทหาร และเขียนรัฐธรรมนูญที่สิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนและแช่แข็งประชาธิปไตย จนถึงการฟอกขาวตัวเองด้วยกระบวนการเลือกตั้งที่พิสดารและกระบวนการยุติธรรมอันน่ากังขาเพื่อให้ตนกลับเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง จนถึงวันนี้ ประยุทธ์ได้ใช้อำนาจเผด็จการและอำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ผลักดันและแก้ไขกฎหมาย รวมถึงนโยบายที่เป็นปรปักษ์กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เช่น นโยบายทวงคืนผืนป่า การบังคับปิดเหมืองแร่ เขตเศรษฐกิจพิเศษ โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ นโยบายที่ดินแห่งชาติ การแก้ไขกฎหมายป่าไม้-ที่ดิน นโยบายด้านคาร์บอนเครดิต กฎหมายคุ้มครองพันธุ์พืช จนล่าสุดคือนโยบายที่ให้ต่างชาติสามารถถือครองที่ดินในประเทศไทยได้            

ในอีกด้านหนึ่ง ประยุทธ์ก็ไม่ยอมที่จะแก้ไขกฎหมาย ออกกฎหมายและนโยบาย หรือบังคับใช้กฎหมายในอันที่เป็นปรปักษ์กับนายทุน เช่น กฎหมายควบคุมการผูกขาดการผลิตสุรา กฎหมายควบคุมการผูกขาดทางการค้า และกฎหมายกำหนดขนาดการจับสัตว์น้ำวัยอ่อน เป็นต้น พวกเรา ราษฎรหยุด APEC2022 เห็นว่า สิ่งที่ประยุทธ์ทำมาตลอดเพื่อค้ำจุนอำนาจของตน คือการร่วมมือกับนายทุนผูกขาด เอาใจนักลงทุนต่างชาติ ละเลยเสียงของประชาชน เห็นได้จากการปราบปรามการชุมนุมของประชาชนด้วยความรุนแรงเกินกว่าเหตุ การคุกคามรังควาน การใช้กฎหมายปิดปากประชาชน บิดเบือนและทำลายระบบกระบวนการยุติธรรม จนถึงการผลักดันกฎหมายลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการรวมกลุ่มของประชาชน การที่ประยุทธ์เป็นปรปักษ์กับประชาชน คนจน และคนชายขอบเช่นนี้ ย่อมไม่มีความชอบธรรมใดๆ หลงเหลืออยู่เพียงพอที่จะเป็นตัวแทนของคนไทยในเวทีประชุมระหว่างประเทศอย่างเวทีเอเปค2022 ครั้งนี้     

       


ยิ่งกว่านั้น บนเวทีระดับนานาชาติที่ผ่านมาก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ประยุทธ์ไร้ซึ่งความสามารถ และสง่างามที่จะเป็นตัวแทนของประเทศ รังแต่จะสร้างความอับอายและไร้ความชอบธรรมที่ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งอาจร้ายแรงถึงที่สุดจนอธิปไตยของประเทศไทยตกอยู่ในอันตรายด้วยความไร้น้ำยาของตน ประยุทธ์ได้แสดงเจตจำนงต่อสาธารธณะว่าต้องการอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างหน้าด้าน เพื่อเป็นประธานการประชุมเอเปก ซึ่งที่จริงก็คือความต้องการของประยุทธ์ที่จะฉวยใช้ประโยชน์จากเวทีระดับนานาชาติเดินตามรอยเสรีนิยมใหม่ เพื่อผลักดันนโยบายที่เรียกว่าตัวแบบการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ- เศรษฐกิจหมุนเวียน- เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG ซึ่งก็คือหน้าฉากที่เต็มไปด้วยคำพูดที่ดูสวยหรู แต่เปิดโอกาสด้านเศรษฐกิจตามใจนายทุน ซ่อนความหายนะที่จะเกิดกับประชาชน ทั้งชาวนา แรงงาน และประชาชนทั่วไปอย่างมหาศาล กล่าวคือ        

1) นโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เป็นการเปิดทางให้กับการโจรกรรมพันธุกรรม ทำให้นายทุนสามารถเข้ามาผูกขาดตลาดเมล็ดพันธุ์หรือการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ เช่น จีเอ็มโอ ได้อย่างง่ายดาย

2) นโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นการเปิดทางให้กับการปลูกพืชพลังงานและการทำโรงไฟฟ้า นำมาซึ่งการลดการปลูกพืชอาหาร เกิดปัญหาความมั่นคงด้านอาหาร และปัญหาด้านมลพิษในสิ่งแวดล้อม เป็นอันตรายต่อประชาชน และ      

3) นโยบายเศรษฐกิจสีเขียว เป็นการเปิดโอกาสให้รัฐสามารถผลักดันนโยบายการค้าคาร์บอนเครดิตโดยอ้างวิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยทุนอุตสาหกรรมที่เป็นต้นเหตุที่แท้จริงของการปล่อยคาร์บอนนั้นไม่ต้องถูกควบคุม แต่ผลักภาระมาที่พวกเราชาวนา แรงงาน และคนจนทั่วไป รัฐไม่ยอมแก้ปัญหาที่ต้นตอ แต่กลับกลายมาไล่พวกเรา แย่งชิงที่ดินของเราเพื่อไปดูดซับคาร์บอน และค้าขายคาร์บอนเครดิตให้นายทุน ทำให้เกิดปัญหาความไม่เป็นธรรมด้านสภาพภูมิอากาศ              

นายทุนนั้นเห็นอาหาร พลังงาน ที่ดิน ป่า และสภาพภูมิอากาศเป็นสินค้าที่จะเอาไปหากำไร แต่พวกเราเห็นว่าอาหารและอากาศเป็นสิทธิ การผลิตอาหารคือสวัสดิการสังคม เราใช้พลังงานในชีวิตเพียงน้อยนิด และที่ดินและผืนป่าคือฐานทรัพยากรที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตและการผลิตของเรา เห็นชัดเจนว่า อำนาจเผด็จการในมือยังไม่เพียงพอที่ประยุทธ์จะใช้เพื่อเอาใจนายทุนให้ค้ำจุนอำนาจของตน ขณะนี้ประยุทธ์กำลังจะแอบอ้างเวทีเอเปคเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับนโยบายที่ใช้ควบคุม กดขี่ ขูดรีด เป็นศัตรูกับชาวนา แรงงาน และประชาชนทั่วไป และยังเป็นเวทีที่ประยุทธ์จะใช้สร้างความสัมพันธ์กับผู้นำรัฐเผด็จการจากหลายประเทศที่ใช้อำนาจกดขี่ประชาชนในประเทศของตนเองอีกด้วย

ดังนั้นในนามประชาชน พวกเรา “ราษฎรหยุด APEC2022” ซึ่งเป็นการรวมตัวกันขององค์กรของชาวนา แรงงาน คนจน คนรากหญ้า และประชาชนที่ต่อสู้กับเผด็จการและส่งเสริมประชาธิปไตย ขอย้ำว่าเราไม่สามารถปล่อยให้ประยุทธ์สร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศไทยอีกต่อไป พวกเราจึงมีข้อเรียกร้อง ดังต่อไปนี้

1. ประยุทธ์ต้องยกเลิกนโยบาย BCG รวมถึงระเบียบกฎหมายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายนี้ ที่พยายามนำเสนอให้ที่ประชุมเอเปครับรอง ด้วยเป็นแนวคิดที่กำลังเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนชั้นนำในประเทศเท่านั้น แต่กลับจะสร้างผลกระทบมหาศาลให้กับประชาชนไทยและประชาคมโลกในอนาคต          

2.ประยุทธ์ไม่มีความชอบธรรมที่จะลงนามข้อตกลงร่วมกับผู้นำกลุ่มเอเปค และจะต้องยุติบทบาทในการเป็นประธานการประชุมเอเปคโดยทันที เพื่อหยุดยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งต่อประชาชนและต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีนานาชาติ          

3. ประยุทธ์ต้องยุบสภาและเปิดทางให้มีการเลือกตั้ง พร้อมกับจัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชนเพื่อสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง อันจะทำให้ได้มาซึ่งผู้นำการบริหารประเทศที่สง่างามและคู่ควรกับการเป็นเจ้าภาพในการประชุมเวทีประชาคมโลกต่อไปในอนาคต

พวกเรา ราษฎรหยุด APEC2022 ขอประกาศต่อสาธารณชนไทยและประชาคมโลกว่า เราจะมีการเคลื่อนไหวในระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2565 คู่ขนานกับการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค เพื่อผลักดันข้อเรียกร้องอย่างถึงที่สุด รวมถึงขอประกาศเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศให้ร่วมจับตา เรียนรู้ เรียกร้อง และเคลื่อนไหว เพราะคนไทยจะไม่ได้อะไรจากเอเปคในเงื้อมมือประยุทธ์ จันทร์โอชา

10 พฤศจิกายน 2565

ณ สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT)

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

More like this
Related

บทเรียนจากหอยมินามาตะ ถึงปลาน้ำกก รัฐยืนยันปรุงสุก-กินได้ แต่ระยะยาวปลอดภัยแค่ไหน?

เรื่อง: สุพศิน สุทธิวรวิทย์ 12 กันยายน 2568  กรมประมงร่วมกับสำนักงานประมงอำเภอแม่อาย รายงานผลตรวจสัตว์น้ำจากแม่น้ำกก จังหวัดเชียงใหม่ โดยสุ่มเก็บตัวอย่างจากหลายจุดในพื้นที่อำเภอแม่อาย...

แรงงานภาคเหนือ ยื่นข้อเสนอถึงกระทรวงแรงงาน ‘Decent Work’ เรียกร้องยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน

24 ตุลาคม 2568 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายแรงงานภาคเหนือเข้ายื่นหนังสือข้อเสนอ Decent Work หรือ งานที่มีคุณค่า...

สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เห็ด’ CAC ชวนร่วมกิจกรรมปิดท้าย ‘FUNGI IN YOUR HEADLIGHTS’

พบศิลปิน อานนท์ นงเยาว์ และ NooN Collectiveเสาร์ที่ 25 ตุลาคมนี้ ณ...

‘บ้านหนองเต่า’ รักษาป่า รักษาวิถีชีวิต ท่ามกลางปัญหาสิทธิที่ดิน

เรื่อง: รัญชิดา อาริกุล ‘บ้านหนองเต่า’ ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ของชาวกะเหรี่ยง หรือ...