ครบ 7 ปี ‘ชัยภูมิ ป่าแส’ ถูกทหารวิสามัญฆาตกรรม ความยุติธรรมยังไม่คืบ

Date:

เช้าวันที่ 17 มี.ค. 2560 เจ้าหน้าที่ทหารประจำด่านตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้ทำการตรวจค้นรถยนต์ของ ชัยภูมิ ป่าแส หรือ จะอุ๊ เยาวชนนักกิจกรรมชาวลาหู่จากกลุ่ม ‘รักษ์ลาหู่’ ที่ขับรถยนต์เดินทางพร้อมเพื่อนอีกหนึ่งคนผ่านด่านตรวจดังกล่าว ก่อนที่ ชัยภูมิ จะถูกเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าชัยภูมิพยายามขัดขืนและทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วยอาวุธมีดและระเบิดขว้างสังหาร จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้จนชัยภูมิเพื่อป้องกันตนเอง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังกล่าวหาว่าพบยาบ้าเป็นจำนวน 2,800 เม็ด ซ่อนอยู่ในหม้อกรองน้ำของรถยนต์ของชัยภูมิอีกด้วย โดยที่ในวันนี้ก็เป็นเวลาครบ 7 ปีเต็มของเหตุการณ์ดังกล่าว โดยที่ครอบครัวของ ชัยภูมิ ก็ยังไม่ได้รับความยุติธรรมใด ๆ

ชัยภูมิ ป่าแส หรือ จะอุ๊ เป็นชาวลาหู่ อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านกองผักปิ้ง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเชียงดาววิทยาคม ซึ่ง ชัยภูมิ ได้เข้าร่วมกับกลุ่ม รักษ์ลาหู่ ที่มีวัตถุประสงค์ในการรวมกลุ่มเยาวชนในกิจกรรมศิลปวัฒนธรรม เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ และกิจกรรมวัฒนธรรมอื่น ๆ เพื่อให้ห่างไกลยาเสพติด โดย ชัยภูมิ ได้สร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ เช่น เพลงเพื่อคนไร้สัญชาติ ชื่อ “จงภูมิใจ” และผลงานภาพยนตร์สั้นได้แก่การเป็นทีมงานภาพยนตร์เรื่อง “เข็มขัดกับหวี”

นอกจากนี้ ชัยภูมิ ยังเป็นกำลังให้กับกลุ่มเยาวชนเพื่อรณรงค์เรียกร้องการแก้ปัญหาภาวะไร้สัญชาติของคนชาติพันธุ์ ผ่านการจัดค่ายเยาวชนชนเผ่าและได้รับเลือกเป็นประธานเครือข่ายต้นกล้าเยาวชนพื้นเมือง และเป็นตัวแทนเครือข่ายฯ เข้าร่วมในการประชุมสัมมนาในระดับประเทศมาหลายครั้งอีกด้วย

ในส่วนของความคืบหน้าล่าสุดของคดีความ เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2567 มูลนิธิผสานวัฒนธรรมแจ้งข่าวความคืบหน้าคดี “ชัยภูมิ ป่าแส” เยาวชนนักกิจกรรมชาวลาหู่จากกลุ่มรักษ์ลาหู่ ถูกทหารวิสามัญฆาตกรรม โดยทนายความมารดาของ ชัยภูมิ ได้รับหนังสือแจ้งผลคดีจากสถานีตำรวจภูธรนาหวาย ใจความว่า “หลังจากพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังอัยการสูงสุดพิจารณาเพื่อมีคำสั่ง อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีฆาตกรรมซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธปืนยิง นายชัยภูมิ ป่าแส เมื่อปี 2560”

อย่างไรก็ตาม อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งดั่งกล่าวไปตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 2564 หมายความว่าสถานีตำรวจภูธรนาหวายส่งหนังสือแจ้งผลคดีมายังนางปอย ป่าแส ล่าช้าไปเป็นเวลาเกือบสามปี

ในส่วนของคดีแพ่งที่มารดาของ ชัยภูมิ เป็นโจทก์ฟ้องค่าเรียกค่าสินไหมทดแทนจากกองทัพบกเป็นจำเลย ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ. 2539 เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ในตอนแรกศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกฟ้องคดี ทำให้กองทัพไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ครอบครัวของชัยภูมิ เนื่องจากเห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารกระทำไปโดยชอบด้วยกฏหมายแล้ว ก่อนที่ครอบครัวของ ชัยภูมิ จะยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกา และศาลฎีกามีคำสั่งรับฎีกา โดยระบุว่ากาฎีกาของโจทย์เป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัย จึงมีคำสั่งรับพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2566 ต่อมาเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2566 ศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้กองทัพบกชดใช้ค่าเสียหายให้แก่มารดาของนายชัยภูมิ ป่าแส เป็นจำนวนเงิน 2,072,400 บาท พร้อมดอกเบี้ย

พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

Lanner Editor
Lanner Editor
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

More like this
Related

‘บางระกำโมเดล’ ก้าวไกลระดับโลก แต่ ‘คน’ โดนทิ้งไว้กลางน้ำ

เรื่อง: ฐิติพร มะโนวรรณา, ภาพ: ตุลา ธารา ‘บางระกำโมเดล’ โครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ภายใต้สำนักงานชลประทานที่ 3...

เบื้องหลังเจ้าตลาดแร่แรร์เอิร์ธโลก จีนกับห่วงโซ่อุปทานเหมืองแร่ในเมียนมา

เรื่อง: สุทธิกานต์ วงศ์ไชย, ภาพ: วีรภัทร เหลาเกิ้มหุ่ง เบื้องหลังโทรศัพท์สมาร์ตโฟน รถยนต์ไฟฟ้า และกังหันลม ล้วนมีวัตถุดิบสำคัญที่ถือเป็นหัวใจของเทคโนโลยีสมัยใหม่...

ริมกกซวยซ้ำ! น้ำประปา ผัก ปลา ปนเปื้อนโลหะหนัก ชาวบ้าน 7 รายมีสารในปัสสาวะสูง จี้รัฐเร่งแก้ไข

ผ่านมากว่าครึ่งปีกับวิกฤตสารโลหะหนักปนเปื้อนในแม่น้ำกกที่ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อระบบนิเวศของสายน้ำ แต่กระทบไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนริมฝั่งแม่น้ำ เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การประกอบอาชีพอย่างการประมงและการเกษตร กลายเป็นปัญหาใหญ่ข้ามพรมแดนที่ไม่อาจแก้ได้ฝ่ายเดียว นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสายน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนมานับไม่ถ้วนกำลังเผชิญกับหายนะอย่างหนัก แม่น้ำกกมีต้นกำเนิดอยู่ในเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ไหลเข้าสู่ประเทศไทยในตำบลท่าตอน...

วิกฤตชาวประมงปากน้ำกก ยื่นข้อเสนอ 4 ข้อ รัฐเยียวยา-เร่งเจรจาหยุดสารพิษ

​14 ตุลาคม 2568 ชาวประมงจากสามชุมชนปากแม่น้ำกก ได้แก่ บ้านเชียงแสนน้อย บ้านสบคำ ตำบลเวียง และบ้านสบกก...