ยุติปลูกป่าทับพื้นที่จิตวิญญาณ ชาวบ้านขวัญคีรีลำปาง-จนท.ป่าไม้ ลงนามข้อตกลงร่วม

Date:

20 มิ.ย. 2566 ณ ศาลาประชาคมหมู่บ้านขวัญคีรี ชาวปกาเกอะญอ บ้านขวัญคีรี หมู่ที่ 11 ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป. 19 แม่โป่ง ยุติข้อพิพาทโครงการปลุกป่าทับพื้นที่ชุมชนบ้านขวัญคีรี ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน พ.ค.-ต้นเดือน มิ.ย. 2566 โดยลงนามร่วมกันระหว่าง ศรีทอง สมพงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11 ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง, มะลิวัลย์ นุแฮ ส.อบต. และราษฎรบ้านขวัญคีรี และ สุมาลี เอนกคณา หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป. 19 แม่โป่ง ระบุว่า ตามที่ราษฎรบ้านขวัญคีรีได้ดำเนินการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ยกเลิกการปลูกป่าในหมู่บ้านขวัญคีรีนั้น เจ้าหน้าที่ป่าไม้จึงได้มาทำข้อตกลง ดังนี้

1.การดำเนินการปลูกป่าหรือกิจกรรมอื่นๆ ของหน่วยฟื้นฟูฯ นั้นไม่ได้มีการดำเนินการในเขตพื้นที่บ้านขวัญคีรี และไม่ได้มีผลกระทบต่อพื้นที่ทำกินและพื้นที่จิตวิญญาณของชุมชนบ้านขวัญคีรีและภาครัฐ ยินดีรับฟ้งข้อห่วงใยจากชุมชนเพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน

2.ร่วมสนับสนุนพัฒนาคุณภาพชีวิตและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในพื้นที่ชุมชน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เช่น ถนน ระบบประปา สะพาน เป็นต้น

3.ส่วนโครงการอื่น เช่น คทช. (คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ) ทางชุมชนจะเป็นผู้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะมีการเข้าร่วมกับภาครัฐหรือไม่ อย่างไร ซึ่งขึ้นอยู่กับมติของชุมชนต่อไป

มะลิวัลย์ นุแฮ ชาวปกาเกอะญอบ้านขวัญคีรี ให้ข้อมูลว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง สั่งการมายัง อ.งาว และอำเภอก็สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ไปเคลียร์กับชาวบ้านเรื่องโครงการปลูกป่า ให้ยืนยันกับชาวบ้านให้ได้ว่าไม่มีการมาปลูกป่าในพื้นที่บ้านขวัญคีรี หมู่ที่ 11 แล้ว จะต้องยกเลิกและไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้นในพื้นที่อีกต่อไป โดยจะมีการรายงานผลการจัดทำบันทึกข้อตกลงไปยังนายอำเภองาวและผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางต่อไป

“รู้สึกสบายใจขึ้นระดับหนึ่งที่เขายังมายืนยันแล้วเซ็นร่วมกับชาวบ้าน แต่ยังไม่สบายใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องรอดูต่อไปว่าเขาได้ไปเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอจริงไหม ทางชุมชนก็ยังจะติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก” มะลิวัลย์กล่าว

สำหรับข้อพิพาทเกี่ยวกับโครงการปลูกป่าดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อนที่ 30 พ.ค. 2566 ได้มีผู้รับเหมาจากหน่วยฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่โป่ง ที่ 3 (ลำปาง) เข้าไปแผ้วถางพื้นที่ในป่าชุมชนของบ้านขวัญคีรี และปลูกป่าในพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นพื้นที่การจัดการทรัพยากรของชุมชน โดยไม่แจ้งให้ชุมชนทราบหรือทำประชาคมร่วมกับชุมชนแต่อย่างใด ชุมชนจึงประสานไปยังหน่วยฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่โป่ง ที่ 3 (ลำปาง) เพื่อให้ดำเนินการรื้อถอนหลักแนวเขตและกล้าไม้ออกจากพื้นที่ป่าชุมชนบ้านขวัญคีรี ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2566 ได้มีเจ้าหน้าที่หน่วยฟื้นฟูสภาพป่าสงวนฯ เข้าไปดำเนินการปลูกป่าทับพื้นที่ป่าชุมชนอีกครั้ง

จนเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2566 หน่วยฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่โป่ง ที่ 3 (ลำปาง) ได้เข้ามาชี้แจงต่อชาวบ้านในพื้นที่ โดยอ้างว่าที่ผ่านมามีการทำประชาคมระดับตำบลซึ่งมีมติรับดำเนินการโครงการปลูกป่าดังกล่าวในพื้นที่ อย่างไรก็ตามชุมชนบ้านขวัญคีรียืนยันว่าได้ปฏิเสธการเข้าร่วมโครงการฯ ดังกล่าวมาโดยตลอด และไม่ได้มีส่วนร่วมในการทำประชาคมระดับตำบลดังที่เจ้าหน้าที่ฯ กล่าวอ้างแต่อย่างใด ทำให้ชุมชนบ้านขวัญคีรีเรียกร้องให้เพิกถอนโครงการฯ ดังกล่าวออกจากพื้นที่ชุมชน ซึ่งทำให้เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2566 ได้มีการดำเนินการรื้อถอนหลักแนวเขตและกล้าไม้ออกจากพื้นที่บ้านขวัญคีรีนอกทั้งหมดแล้ว โดยเจ้าหน้าที่หน่วยฟื้นฟูสภาพป่าฯ รับรู้

ต่อมาเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2566 ชาวบ้านขวัญคีรีได้เดินทางไปยังศาลากลาง จ.ลำปาง เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาข้อพิพาทในพื้นที่ ยืนยันปฏิเสธการดำเนินการโครงการปลูกป่าในพื้นที่ทำกินและป่าชุมชนทั้งหมด และขอให้มีหลักประกันว่าโครงการฯ ดังกล่าวได้ยุติลงแล้ว โดยให้สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) และหน่วยฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่โป่ง ที่ 3 (ลำปาง) จัดทำหนังสือยุติการดำเนินโครงการฯ ดังกล่าวมายังชุมชนบ้านขวัญคีรี โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางและผู้แทนจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (ลำปาง) เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียน

พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

Lanner Editor
Lanner Editor
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

More like this
Related

เมืองโต ทางเท้าหด ความสะดวกอยู่ที่ไหน เมื่อกฎหมายให้รถสำคัญกว่าคน 

เรื่อง: ปาลินี พันสว่าง การเดินเท้าเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของมนุษย์ แต่ในปัจจุบันเมืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว พื้นที่ทางเดินที่เคยกว้างขวางหลายแห่งถูกแทนที่ด้วยอาคารและถนน การเดินทางของผู้คนจึงหันไปพึ่งพารถยนต์หรือจักรยานยนต์เป็นหลัก ทำให้การวางแผนเมืองลดความสำคัญของทางเท้า ทั้งที่ในชีวิตประจำวัน ผู้คนยังต้องเดินบนทางเท้าอยู่ดี แม้...

เชียงใหม่รวมพลังเครือข่าย “เปิดโลกคนไร้บ้าน” ขับเคลื่อนระบบคุ้มครองคนไร้ที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่ลานประตูท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ คณะทำงานคนไร้บ้านเมืองเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่าย...

ไร้ความคืบหน้า ประชาชนลุ่มน้ำกก-สาย-รวก-โขง ร้องรัฐเร่งแก้ปัญหามลพิษเหมืองเมียนมา

21 ตุลาคม 2568 สืบสกุล กิจนุกร โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนสารโลหะหนักในแม่น้ำกก-สายรวก-โขงจากเหมืองแร่ในเมียนมา โดยระบุถึงนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกุล...