ลองลำพูน เปลี่ยนเมืองรองให้กลายเป็นเมือง belong ของทุกคน

Date:

27 สิงหาคม 2566

สัมภาษณ์/เรียบเรียง/ภาพถ่าย: กนกพร จันทร์พลอย 

“ลำพูนมันเป็นเส้นตรงมาตลอด มันไม่ได้แย่ลงหรือดีขึ้น ถูกมองว่าเป็นเมืองผู้สูงอายุ แต่เราว่าลำพูนมันคือขั้นกว่า มันคือผู้ป่วยติดเตียง คือมันหนักกว่านั้น มันมีความแตกต่างกันทางสังคม เศรษฐกิจสูง เทียบง่าย ๆ คือมันมีร้านก๋วยเตี๋ยวถ้วยละสิบบาทและมันก็มีร้านกาแฟราคาแก้วละสองร้อย” 

Lanner ได้พูดคุยกับอิงฟ้า เบญจมาภรณ์ ดวงเกิด Project coordinator ของโปรเจกต์ “ลองลำพูน” ซึ่งเธอเกิด อยู่ และอยากจะใช้ชีวิตบั้นปลายที่ลำพูน อิงฟ้าคือคนรุ่นใหม่ ใฝ่ฝันอยากเมืองลำพูนมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น คนในอยากจะอยู่ คนนอกอยากลองอยู่ให้นานกว่าเดิมผ่านโปรเจกต์ที่ชื่อว่า “ลองลำพูน” ที่นิยามตัวเองว่าเป็นพื้นที่กลางเชื่อมต่อคนลำพูนไปด้วยกัน

ภาพ: กนกพร จันทร์พลอย

ตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้ ลำพูนไม่ใช่เมืองผู้สูงอายุ แต่คือเมืองผู้ป่วยติดเตียง

อิงฟ้าเล่าว่า “ลำพูนมันเป็นเส้นตรงมาตลอด มันไม่ได้แย่ลงหรือดีขึ้น ถูกมองว่าเป็นเมืองผู้สูงอายุ แต่เราว่าลำพูนมันคือขั้นกว่า มันคือผู้ป่วยติดเตียง คือมันหนักกว่านั้น มันมีความแตกต่างกันทางสังคม เศรษฐกิจสูง เทียบง่าย ๆ คือมันมีร้านก๋วยเตี๋ยวถ้วยละ 10 บาทและมันก็มีร้านกาแฟราคาแก้วละ 200”

อิงฟ้าเล่าต่อไปว่า “เราอยากเปรียบเทียบลำพูนกับงานคลาสสิค สิ่งที่คนลำพูนรุ่นเดิม ๆ ทำมันคืองานคลาสสิคแต่สิ่งที่เรากำลังทำมันคืองานนีโอคลาสสิค หรือการสร้างความร่วมสมัยให้กับมัน เป็นลำพูนในแบบเราทุกคน คือมันไม่มีทางลบรากเหง้าประวัติศาสตร์ของลำพูนได้อยู่แล้ว ถ้าเราอยู่ลำพูน มันจะมีความเป็นลำพูนในตัวเราเสมอและส่งทอดเองโดยอัตโนมัติ อย่างน้อยเราคิดว่าถ้าเราอยากเปลี่ยนแปลงมันในทางที่ดี ไม่ว่าจะสไตล์ไหน มันก็เป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น”

ภาพ: กนกพร จันทร์พลอย

กว่าจะมาเป็นโปรเจกต์ “ลองลำพูน”

“โปรเจกต์นี้มันเกิดจากการที่เราเป็นคนลำพูน แล้วเรารู้สึกว่าลำพูนมันเงียบมาก คือมันไม่มีการเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจอะไรเลย จริง ๆ แล้วมันมีแหละ แต่มันน้อยมาก หลายคนจะบอกว่าลำพูนคือเมืองที่ปราบเซียน ใครมาทำธุรกิจ ส่วนใหญ่จะไปไม่รอด มากกว่านั้น ตัวกฎหมายก็ซ้ำเติมเมืองลำพูนไปอีก คือการประกาศจากคณะคสช. กำหนดให้เขตรอบเมืองชั้นในห้ามเปิดร้านเหล้า-เบียร์ และร้านที่เคยเปิดก่อนหน้าประกาศฯ หากหมดรุ่นแล้ว ก็ไม่สามารถเปิดร้านเหล้าต่อไปได้ คือตอนนี้จำนวนคนในเมืองลำพูนเริ่มลดลง เหลือเพียง 2,000 คนเทียบเท่ากับคนที่อาศัยบนถนนวัวลายแค่เส้นเดียว”

Lamphun City Lab กลุ่มคนลำพูนที่อยากพัฒนาเมืองลำพูน เคยได้ร่วมทำงานกับหน่วยงานท้องถิ่น และได้พูดคุยกันว่าเราจะทำอย่างไร ให้ลำพูนมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น มี dynamic ทางเศรษฐกิจเกิดขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ “ลองลำพูน” ที่รวมตัวทั้งสถาปนิก คนรุ่นใหม่ ศิลปิน ผู้ประกอบการ และกลุ่มคนที่อยากออกแบบเมือง รวมถึงอิงฟ้า ได้เริ่มเข้าไปร่วมทำงานก่อนหน้าโปรเจกต์อื่น ๆ หลายครั้งภายใต้ Lamphun City Lab และการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ องค์การมหาชน สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยได้รับความอนุเคราะห์การใช้พื้นที่จากธนาคารกรุงไทย ที่เป็นตึกร้างมาก่อน จากจุดเริ่มต้นนี้ทำให้อิงฟ้าเริ่มมีไฟ แรงบันดาลใจที่อยากจะสร้างเศรษฐกิจเมืองลำพูนให้ดีขึ้น

ภาพ: กนกพร จันทร์พลอย

“ลองลำพูน มันเริ่มจากการที่ได้ไปสำรวจผู้คนที่เดินทางมาเที่ยวลำพูน แต่เขาอยู่เพียง 40 นาทีแล้วก็กลับ ส่วนใหญ่จะมาเที่ยววัดพระธาตุหริภุญชัย มากินเฉาก๊วยมุกดา เราเริ่มอยากให้คนเข้ามาใช้ชีวิตในลำพูนให้มากขึ้น เลยเกิดชื่อโปรเจกต์นี้ว่า “ลองลำพูน” คล้องกับคำว่า Long ที่แปลว่ายาวนาน เชื่อมโยงกับเมืองลำพูนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายพันปี มันมีเรื่องราว วิถีชีวิต เราอยากนำเสนอให้มันอยู่ในงานของเรา และ คำว่า ลอง ที่อยากให้ลองมาใช้ชีวิตให้นานมากขึ้น ลองมาอยู่ และลองมาเข้าใจ” อิงฟ้ากล่าว

ภาพ: เพจลองลำพูน

เปลี่ยนบ้านเกิดของเราให้เป็นเมืองนอนที่อบอุ่นต้อนรับทุกคน 

“อย่างที่บอกว่ากลางเมืองมันเงียบ เราต้องการจำนวนคนเพิ่มเข้ามาอาศัยในเมืองลำพูน  และต้องเป็นคนที่อยากจะพัฒนาเมืองร่วมกันไปกับเรา ภายใต้ชื่อ “บ้านเกิดของฉัน เมืองนอนของทุกคน” คืออยากให้อยู่มากกว่า 40 นาทีหรือตลอดไปก็ได้”

อิงฟ้ายกตัวอย่าง photo exhibition อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ของงานนี้ที่ชื่อว่า “บ้านเกิดเมืองนอน: บ้านเกิดของฉัน เมืองนอนของทุกคน” มาจากแนวคิดที่อยากจะให้เศรษฐกิจลำพูนขับเคลื่อน จึงต้องถึงคนเข้ามาอยู่ในลำพูนให้ยาวนานขึ้นผ่านแนวคิดนี้ และคนที่เข้ามาต้องอยากจะพัฒนาเมืองลำพูนไปด้วยกันจริง ๆ 

ภาพ: กนกพร จันทร์พลอย
ภาพ: กนกพร จันทร์พลอย

ลองลำพูน อยากบอกอะไรกับเรา

“เราต้องการนำเสนอวัฒนธรรมของความเป็นลำพูน อย่างงานคราฟต์ งานศิลปะ และ element ต่าง ๆ หรือจะเป็นงานดีไซน์ เสื้อผ้า กระเป๋า หรือร้านกาแฟ โดยเราจะแบ่งโซนทั้งหมดออกเป็น 6 โซน คือ

1.Photo Exhibition นิทรรศการภาพถ่าย เรื่องราวของคนในเมืองลำพูน

2. Lamphun Art Bienale หรือ Art Gallery ที่รวมผลงานของศิลปิน เพื่ออยากจะสื่อสารประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับคนที่มาร่วมงานว่าคนลำพูนจริง ๆ แล้วลำพูนเป็นเมืองแห่งศิลปะ เพราะศิลปินกันในลำพูนมีเอกลักษณ์ เรื่องราวที่มีความเป็นตัวของตัวเอง 

3. Creative Community Space ที่เปิดให้ทุกคนในลำพูนเข้ามาใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นงานกาแฟ งานอาหาร งานเบียร์คราฟต์ และงานสินค้าคราฟต์ต่าง ๆ อย่างงานผ้าที่ลำพูนมีความโดดเด่นในเรื่องนี้

4. Room Prototype หรือการจำลองห้องพักต้นแบบ มาดูเป็นตัวอย่างได้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์พื้นที่ที่ว่างให้เกิดมูลค่าอีกครั้ง

5. Landscape of Home ภูมิทัศน์แห่งบ้านเกิดเมืองนอน เราได้รวบรวม asset ร้างในเมืองลำพูนมานำเสนอในงาน และมีสถาปนิกที่ปรึกษาในออกแบบจากการเปลี่ยนพื้นที่ร้างให้เกิดมูลค่าได้อย่างไร

6. Festival Space พื้นที่สำหรับเทศกาล อย่างงานเสวนา วงแลกเปลี่ยนพูดคุยในประเด็นต่าง ๆ ของเมืองลำพูน”

ภาพ: กนกพร จันทร์พลอย

ฝันให้ Long แบบลำพูน

“เราอยากเห็นลำพูนเป็นเมือง Public Art ที่ใคร ๆ ก็สามารถเอางานมาโชว์ได้ และจะเริ่มผลักดันการเกษตรเชิงท่องเที่ยวขึ้นมา สร้างวิสาหกิจชุมชนที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยว คือแทนที่ชาวบ้านจะต้องรอหน้าฤดูกาลลำไยก็มารับนักท่องเที่ยวแทน เพราะอาจจะกลายเป็นรายได้เสริมให้กับชุมชนได้” และอิงฟ้าเล่าความหวัง ความฝันที่ไกลกว่านั้นต่อว่า “เราอยากเห็น ลำพูนเป็นเมืองแห่งสิทธิมนุษยชน (Human Rights) ที่มีการประกันสิทธิต่าง ๆ อยู่ในนั้น เช่น สิทธิในการอยู่อาศัย สิทธิในการมีคุณภาพชีวิตที่ดี เหมือนกับที่เราเคยเรียนและเชื่อมัน เพราะมันจะเป็นทางออกที่เราจะอยู่ร่วมกันในสังคมได้” อิงฟ้าบอกความเป้าหมายสูงสุดของการทำงานพัฒนาเมืองให้เราฟัง

สิ่งใหม่ สิ่งเดิม เพิ่มเติมความท้าทาย

ภาพ: กนกพร จันทร์พลอย

อย่างนเรนทร์ ปัญญาภู เจ้าของพิพิธภัณฑ์มิกกี้เมาส์ จ.ลำพูน เล่าถึงสิ่งที่อยากเห็นข้างหน้าว่า “ตอนนี้มีคนรุ่นใหม่กลับมาทำหลาย ๆ อย่างในลำพูนแล้วก็จริง แต่หลังจากนี้ ต้องมีการคุยกันมากขึ้น และทำความเข้าใจในความเป็นลำพูน เราจะเชื่อมกันและสร้างเอกลักษณ์ให้เป็นลำพูนอย่างไร หวังว่าคนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่จะเข้าใจกัน ลำพูน มันมีความเป็นจุดเด่นของแต่ละอัน อยากน่ารักอย่างลำพูน อร่อยแบบลำพูน แต่ละที่มีความน่าสนใจ ที่ดึงความเป็นลำพูนออกมาได้”

“ตอนนี้มันยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น ระหว่างคนรุ่นเดิมกับคนรุ่นใหม่ในการทำงานร่วมกัน สุดท้ายมันต้องมีการคุยกันต่อไป มีพื้นที่ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อเป้าหมายเดียวกัน” อิงฟ้าทิ้งท้าย

ภาพ: กนกพร จันทร์พลอย

งาน ลองลำพูน จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 17 กันยายน 2566 ณ กรุงไทยอาร์ตแฟคตอรี่ วันธรรมดา เปิดให้เข้าร่วมตั้งแต่ 10.00-17.00 น. วันหยุด เสาร์-อาทิตย์ เปิดให้เข้าร่วมได้ตั้งแต่ 10.00-20.00 น. สามารถติดตามรายละเอียด ตารางกิจกรรมของงาน ได้ทางเพจ ลองลำพูน Long Lamphun

พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

Lanner Editor
Lanner Editor
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

More like this
Related

สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เห็ด’ CAC ชวนร่วมกิจกรรมปิดท้าย ‘FUNGI IN YOUR HEADLIGHTS’

พบศิลปิน อานนท์ นงเยาว์ และ NooN Collectiveเสาร์ที่ 25 ตุลาคมนี้ ณ...

‘บ้านหนองเต่า’ รักษาป่า รักษาวิถีชีวิต ท่ามกลางปัญหาสิทธิที่ดิน

เรื่อง: รัญชิดา อาริกุล ‘บ้านหนองเต่า’ ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ของชาวกะเหรี่ยง หรือ...

คนฮอดเดือดร้อน น้ำหนุนจากเขื่อนภูมิพลท่วมซ้ำทุกสิบปี พืชผลทางการเกษตรเสียหายยกสวน

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 สถานการณ์น้ำหนุนในพื้นที่ตำบลฮอด อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่อย่างหนัก โดยเฉพาะบริเวณสะพานจามเทวี...