อยู่รอดปอดพัง เปิดยอดผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจภาคเหนือ

Date:

เรื่อง: นลินี ค้ากำยาน

“ภาคเหนือเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการป่วยเป็นมะเร็งปอดมากที่สุดเมื่อเทียบกับภาคอื่น เมื่อก่อนเราจะบอกว่าการเป็นมะเร็งปอดมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ แต่อัตราการสูบบุหรี่ของคนภาคเหนือไม่ได้มากกว่าคนภาคอื่น แต่อัตราการเสียชีวิตด้วยมะเร็งปอดกลับสูงกว่าคนภาคอื่น ๆ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น สมัยก่อนพ่ออุ๊ยจะชอบสูบบุหรี่ขี้โย การแพทย์ก็จะบอกว่า นี่คือสาเหตุหลักของมะเร็ง แต่ปัจจุบัน การสูบบุหรี่ลดลงอย่างมาก แต่อัตราการเป็นมะเร็งปอดก็ยังสูงอยู่ดี งานวิจัยในช่วงหลัง ๆ พบว่า ชนิดของมะเร็งปอดมีส่วนเกี่ยวข้องกับ PM2.5”

ปัญหาหมอกควันในภาคเหนือมีมานานมากกว่า 10 ปี แต่กว่าทศวรรษที่ผ่านมา ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายนของทุกปี จะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ‘ฤดูฝุ่นควัน’ จนทำให้หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือมีค่าคุณภาพอากาศที่อันตรายต่อสุขภาพ

ปัจจุบันหมอกควันที่มีค่าฝุ่นละอองในอากาศหนาแน่นอยู่เหมือนเดิม ทั้งค่า PM10 และ PM2.5 ที่สูงเกินมาตรฐานปกคลุมแทบทุกพื้นที่ในภาคเหนือ ซึ่งรุนแรงขึ้นทุกปี โดยมีสาเหตุมาจากมลภาวะทางอากาศจากยานพาหนะ เนื่องจากไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่เหมาะสมและเพียงพอต่อชาวบ้าน ทำให้ทุกบ้านต้องใช้รถส่วนตัว การขยายตัวของเมือง การเผาทำลายใบไม้ในบริเวณบ้านของชาวบ้านและเกษตรกร ไปจนถึงการลักลอบเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ และการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่ทางการเกษตรของคนพื้นที่ ทำให้เกิดการสะสมของกลุ่มควันเป็นจำนวนมาก ประกอบกับกระแสลมมีกำลังอ่อนตัวช่วงต้นปีไม่สามารถพัดกลุ่มควันที่สะสมอยู่ให้ระบายออกจากพื้นที่ที่เป็นเหมือนแอ่งกระทะได้ จนส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศและสุขภาพของประชาชนในที่สุด

PM2.5 ต่อสุขภาพของคนเหนือ

การที่พื้นที่ในภาคเหนือตอนบนยังคงพบเจอกับปัญหามลพิษจากฝุ่นควันอย่างหนัก ส่งกระทบและเป็นอุปสรรคต่อการคมนาคมขนส่งและธุรกิจการท่องเที่ยว และที่สำคัญที่สุดยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอีกด้วย จากการสำรวจข้อมูลจาก HDCservice กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563-2566  พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศจำนวนทั้งสิ้น 3,566,131 คน โดยเมื่อดูสถิติผู้ป่วยรายโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศแล้ว พบผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจในภาคเหนือ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563-2566 รวม 1,566,393 คน โดยจังหวัดเชียงใหม่มีผู้ป่วยทางเดินหายใจมากที่สุดเป็นอันดับ 1 รวม 381,190 คน รองลงมาเป็นจังหวัดเชียงราย 286,940 คน จังหวัดลำปาง 207,835 คน จังหวัดลำพูน 156,821 คน จังหวัดน่าน 149,575 คน จังหวัดพะเยา 143,917 คน จังหวัดแพร่ 133,647 คน และจังหวัดแม่ฮ่องสอน 106,468 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทุกจังหวัดในภาคเหนือตอนบนได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ จนทำให้มียอดจำนวนผู้ป่วยรวมเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยมะเร็งในผู้สูงอายุ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนของงานวิจัยของโรงพยาบาลมะเร็งลำปาง ซึ่งพบว่า โรคมะเร็งที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 1 ทั้งผู้ชายและผู้หญิง คือ มะเร็งปอด รองลงมาคือ มะเร็งตับและท่อทางเดินน้ำดี ซึ่งเป็นโรคมะเร็งที่พบมากในฝั่งเอเชีย

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบด้านสุขภาพดังกล่าว ทำให้ประชาชนต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวนมาก ซึ่งบางส่วนยังไม่สามารถเข้าถึงได้ ประเด็นการเข้าถึงการรักษาพยาบาลจึงสะท้อนปัญหาในอีกมิติหนึ่งจากปัญหาฝุ่น PM2.5

“การที่เขาป่วยขึ้นมาหนึ่งครั้ง มันคือความยากลำบากของครอบครัว อาจจะต้องขายทรัพย์สินเพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพจากปัญหาฝุ่น”

มาตราการจัดการฝุ่นจากภาครัฐ

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566  ที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ครั้งที่ 4/2566 ได้เห็นชอบรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2566 พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายระยะสั้น เช่น การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กจากภาคการเกษตร โดยขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการเร่งด่วน ตลอดจนเสนอแนะเชิงนโยบายระยะยาว อาทิ เพิ่มขีดความสามารถของภาคการเกษตรในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงเห็นชอบ (ร่าง) รายงานสถานการณ์ดัชนีสมรรถนะสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ปี 2566 และ (ร่าง) แผนการบริหารจัดการ EPI ของประเทศไทย เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บและรวบรวมข้อมูล 

นอกจากนี้ ยังกำหนดแผนสร้างกลไกการบริหารจัดการระดับชาติ และระดับจังหวัด ยกระดับการเจรจาเป็นระดับทวิภาคี และใช้เงื่อนไขทางการค้าเพื่อลดปัญหาหมอกควันข้ามแดน โดยดึงภาคเอกชนร่วมลงทุนแก้ไขปัญหา โดยให้สิทธิประโยชน์ และแรงจูงใจตอบแทน โดยมีเป้าหมาย ดังนี้ 

1.พื้นที่เผาไหม้ 10 ป่าอนุรักษ์ 10 ป่าสงวน ลดลง 50% 

2.พื้นที่เกษตรกรรมเผาไหม้ ลดลง 50%

3.ค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง PM2.5 ลดลง 40% 

4.จำนวนวันที่ฝุ่นละออง PM2.5 เกินมาตรฐาน ลดลง 30%

อย่างไรก็ดี ยังตั้งเป้าหมายจำนวนวันที่ฝุ่นเกินมาตราฐานต้องลดลงเป็นรายภาค โดย 17 จังหวัดภาคเหนือ ต้องลดจาก 40% เป็น 30%

ห้ามเผา ≠ ห้ามฝุ่น

“การที่ภาครัฐประกาศช่วงวันห้ามเผา มันก็เป็นมาตรการที่แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนแหละ แต่เป็นการแก้ไขปัญหาที่มีส่วนร่วมกับส่วนที่เกี่ยวข้องไม่มาก และมันเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ”

ชนกนันทน์ นันตะวัน หรือ หนุ่ย จากสม-ดุลเชียงใหม่ กล่าวว่าสำหรับภาครัฐแล้ว แม้จะมีการร่วมมือกับเอกชนบูรณาการการแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง มีการณรงค์อย่างต่อเนื่องทุกปี ทั้งมาตรการลงโทษผู้ที่เผาป่า ผู้เตรียมปรับพื้นที่ทำการเกษตรด้วยการเผาเศษวัสดุเหลือใช้และวัชพืช และมาตรการส่งเสริมให้มีการรักษาป่า ปลูกป่า และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ยังขาดการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาที่มาจากหลายปัจจัย ซึ่งเเต่ละพื้นที่มักมีบริบทที่เเตกต่างกัน

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายให้ผู้ปลดปล่อยมลพิษเปิดเผยข้อมูลการปลดปล่อยมลพิษจากเเหล่งกำเนิดที่อยู่ในความรับผิดชอบของตน ในขณะที่สถานการณ์วิฤตด้านสิ่งเเวดล้อมในประเทศกำลังแย่ ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหานี้เป็นวงกว้าง 

ต่อให้ดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย และไม่สูบบุหรี่ ก็ไม่ได้การันตีว่าสุขภาพจะแข็งแรง เมื่อเราอยู่ในคุณภาพอากาศที่ย่ำแย่หรือเป็นมลพิษ…

อ้างอิง:

นักศึกษาวารสาร ผู้ชื่นชอบการเขียน การหาข้อมูลและการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม สนใจประเด็นทางสังคม โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และศิลปะวัฒนธรรมในชุมชน

นลินี ค้ากำยาน
นลินี ค้ากำยาน
นักศึกษาวารสาร ผู้ชื่นชอบการเขียน การหาข้อมูลและการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม สนใจประเด็นทางสังคม โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และศิลปะวัฒนธรรมในชุมชน

More like this
Related

แรงงานภาคเหนือ ยื่นข้อเสนอถึงกระทรวงแรงงาน ‘Decent Work’ เรียกร้องยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน

24 ตุลาคม 2568 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายแรงงานภาคเหนือเข้ายื่นหนังสือข้อเสนอ Decent Work หรือ งานที่มีคุณค่า...

สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เห็ด’ CAC ชวนร่วมกิจกรรมปิดท้าย ‘FUNGI IN YOUR HEADLIGHTS’

พบศิลปิน อานนท์ นงเยาว์ และ NooN Collectiveเสาร์ที่ 25 ตุลาคมนี้ ณ...

‘บ้านหนองเต่า’ รักษาป่า รักษาวิถีชีวิต ท่ามกลางปัญหาสิทธิที่ดิน

เรื่อง: รัญชิดา อาริกุล ‘บ้านหนองเต่า’ ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ของชาวกะเหรี่ยง หรือ...

คนฮอดเดือดร้อน น้ำหนุนจากเขื่อนภูมิพลท่วมซ้ำทุกสิบปี พืชผลทางการเกษตรเสียหายยกสวน

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 สถานการณ์น้ำหนุนในพื้นที่ตำบลฮอด อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่อย่างหนัก โดยเฉพาะบริเวณสะพานจามเทวี...