ตามรอยมรดกคณะราษฎร (บางส่วน) ในภาคเหนือ​

Date:

เรื่อง: วัชรพล นาคเกษม​
ภาพ: ศรีลา ชนะชัย, สิริไพลิน สิงห์อินทร์ ,กนกพร จันทร์พลอย​

ครบ 90 ปี ​ การเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย 24 มิถุนายน 2475 พอดีเป๊ะเลยวันนี้ แม้ว่าตลอด 90 ปีที่ผ่านมาจะมีทั้งช่วงเบ่งบานของประชาธิปไตยบ้าง ซึ่งน้อยมากถ้าเทียบเวลา 90 ปี เพราะไหนจะมีการยึดอำนาจ รัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญกันเป็นว่าเล่น ก็ได้แต่คิดและก็สงสัยว่าทำไมประเทศไทยมันดูเหมือนละครชิงรักหักสวาทเสียเหลือเกิน​

แม้ว่าประชาธิปไตยจะมาเป็นช่วงๆ เดี๋ยวผลุบ เดี๋ยวโผล่ แต่ก็ได้สร้างความหวังที่ยิ่งใหญ่ในการเปลี่ยนแปลงสังคมจากรุ่นสู่รุ่นอยู่ตลอด แน่นอนว่าห้วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เองก็ไม่ได้กระจุกอยู่แค่ในกรุงเทพฯ เพียงที่เดียว แต่กระจายและปรากฏอยู่ในภูมิภาคด้วยเช่นกัน​

Lanner ลองอาสาเป็นไกด์ชวนทุกคนไปเที่ยวตามรอยมรดกคณะราษฎรในเชียงใหม่และที่ต่างๆ ในภาคเหนือเป็นบางส่วน เพื่อบันทึกบางส่วนของร่องรอยสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง รวมถึงสะท้อนถึงความใฝ่ฝันถึงสังคมใหม่ที่ยังดำรงอยู่ข้ามเวลามาในปัจจุบัน

สัญลักษณ์พานรัฐธรรมนูญบนหน้าจั่ววัดอุโมงค์มหาเถรจันทร์ หรือวัดอุโมงค์อารยมณฑล​

วัดอุโมงค์มหาเถรจันทร์ วัดเก่าแก่คู่เมืองเชียงใหม่ แม้ว่าจะสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 1839 – 1840 ก่อนการมาถึงของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เนิ่นนาน แล้ววัดนี้มีความเกี่ยวข้องกับการเป็นส่วนหนึ่งของมรดกคณะราษฎร ได้ยังไง? ​

ถ้าเดินเข้าไปในวัดแล้วแหงนขึ้นไปดูบนหน้าจั่วก็จะเห็นสัญลักษณ์พานรัฐธรรมนูญอยู่ตรงกลางเลย ดูจากข้อความที่จารึกบนหน้าจั่วแล้ว พานรัฐธรรมนูญบนหน้าจั่วสร้างขึ้นในช่วงปี 2486 โดยมีจารึก 2 ภาษา คือภาษาไทยและภาษาจีนว่า “พ.ศ. 2486 นายฮะเสง นางคำปัน โต๋วถ่ายลัง”​

จากงานศึกษา สัญลักษณ์พานรัฐธรรมนูญกับประติมานวิทยาทางการเมืองในเขตวัฒนธรรมล้านนา พ.ศ. 2475 – 2490 โดยว่าที่ ร้อยตรี ชาญคณิต อาวรณ์ อธิบายไว้ว่าสัญลักษณ์รัฐธรรมนูญถูกสร้างขึ้นเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับคณะราษฎรในการสถาปนาหลักการใหม่ในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง พ.ศ. 2476 – 2490 สัญลักษณ์พานรัฐธรรมนูญถูกผลิตซ้ำอย่างเด่นชัด และเป็นที่รับรู้ของสังคมล้านนาอันเป็นส่วนหนึ่งของการปกครองแบบมหาดไทยในส่วนภูมิภาค ช่างล้านนาและผู้อุปภัมป์ในช่วงนั้นจึงผสานสัญลักษณ์พานรัฐธรรมนูญร่วมกับงานประดับอาคารทางพุทธศาสนา สะท้อนให้เห็น ผลของการเปลี่ยนแปลงความคิดวัฒนธรรมการเมืองภายใต้นโยบายรัฐนิยมได้เป็นอย่างดี

ตาลปัตรทรงหน้านางที่ปักชื่อคณะราษฎร วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร​ ​

มาต่อกันที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อีกวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ ก็มีตาลปัตรทรงหน้านางที่ปักชื่อคณะราษฎร พร้อมทั้งวันเดือนปีที่เปลี่ยนแปลงการปกครอง (24 มิถุนายน 2475) ตาลปัตรนี้เป็นรูปสมอเรือ ประดับอยู่บนแท่นด้านหลังฝั่งซ้ายของครูบาเจ้าศรีวิชัย ในภาพถ่ายที่วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่​

จากข้อมูลในบทความ ลายเซ็น “พระยาพหลพลพยุหเสนา” ที่ระลึกวันมอบรัฐธรรมนูญให้เมืองเชียงใหม่ (จบ) โดย เพ็ญสุภา สุขคตะ ระบุว่า ตาลปัตรทรงหน้านางที่ปักชื่อคณะราษฎร นั้น สะท้อนถึงความตั้งใจของบุคคลในกลุ่มคณะราษฎร (อาจไม่จำเป็นต้องหมายถึงพระยาพหลพลพยุหเสนาเพียงคนเดียว) ที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับวงการสงฆ์ จึงได้ถวายพัดของคณะราษฎรให้แก่พระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ตามหัวเมืองต่างๆ และรวมถึงครูบาเจ้าศรีวิชัยด้วย ตาลปัตรนี้เป็นรูปสมอเรือ ประดับอยู่บนแท่นด้านหลังฝั่งซ้ายของครูบาเจ้าศรีวิชัย ในภาพถ่ายที่วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่​

จากการสำรวจก็เห็นตาลปัตรในรูปถ่ายภายในวัด ที่อยู่ข้างๆ ครูบาเจ้าศรีวิชัย น่าเสียดายที่เห็นแค่ในรูปเล็กๆ และไม่พบตาลปัตรของจริง

ลายเซ็นของพระยาพหลพลพยุหเสนาบนแผ่นซีเมนต์ ทางเข้าน้ำตกห้วยแก้ว จังหวัดเชียงใหม่​

แน่นอนว่าดอยสุเทพถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ ใครมาเที่ยวเชียงใหม่ก็ต้องไปดอยสุเทพ และมรดกที่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับคณะราษฎรก็อยู่แค่ตีนดอยสุเทพ!!! อยู่ตรงน้ำตกห้วยแก้วนี่เอง​

หลายคนอาจจะงงแน่ ๆ ว่ามันอยู่ตรงไหน ไปมาแล้วไม่รู้ตั้งกี่รอบก็ไม่เคยเห็น เราเลยอยากจะบอกว่ามันเป็นแค่แผ่นซีเมนต์ไม่ได้ใหญ่โตมาก แถมยังกลมกลืนไปจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันเลย มันคือลายเซ็นของพระยาพหลพลพยุหเสนา หนึ่งในผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดยในแผ่นซีเมนต์ระบุ ​ “พ.อ. พระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรี” ๒ ธ.ค. ๗๗” ซึ่งเป็นลายเซ็นของที่พระยาพหลพลพยุหเสนาสลักเอาไว้ เป็นที่ระลึกเนื่องในวันที่นำรัฐธรรมนูญจากส่วนกลางขึ้นมามอบให้กับประชาชนในภาคเหนือ​

จากการเดินสำรวจพบว่าเป็นแค่บนแผ่นซีเมนต์ที่แทบจะกลืนไปกับก้อนหิน โดยตัวอักษรที่สลักเอาไว้เมื่อเกือบ 88 ปีก่อน แทบจะเลือนลางไปจนมองไม่ออกว่า นี่คือหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่ง​

ขอขอบคุณข้อมูลจากบทความ: ลายเซ็น “พระยาพหลพลพยุหเสนา” ที่ระลึกวันมอบรัฐธรรมนูญให้เมืองเชียงใหม่ (จบ) โดย เพ็ญสุภา สุขคตะ

เยี่ยมชมวัดที่มีสัญลักษณ์ ”พานรัฐธรรมนูญ” ทั่วภาคเหนือ​

นอกจากที่วัดอุโมงค์มหาเถรจันทร์ที่มีพานรัฐธรรมนูญบนอยู่บนหน้าจั่วแล้ว อีกหลายวัดในภาคเหนือเองก็มีสัญลักษณ์ของพานรัฐธรรมนูญเป็นส่วนหนึ่งเหมือนกัน วัดน้ำบ่อหลวง ต.น้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ที่มีพานรัฐธรรมนูญตั้งสวยเด่นสะดุดตา ที่น่าสนใจคือตรงหน้าจั่วกุฏิเจ้าอาวาสก็มีตรารัฐธรรมนูญเช่นกัน แม้จะไม่มีเวลาและข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์ให้ได้สืบค้น ซึ่งอาจต้องใช้เวลาศึกษาข้อมูลต่อ​

อีกวัดที่มีสัญลักษณ์พานรัฐธรรมนูญ ก็คือวัดคันธาวาส ตำบลยางคราม อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ และคาดว่าน่าจะมีอีกหลายวัดที่ยังคงมีสัญลักษณ์พานรัฐธรรมนูญ อย่างในจังหวัดลำปาง ที่อุโบสถวิหารวัดปงหอศาล อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ที่มีกลางหน้าบันเป็นแผ่นไม้แกะสลักเป็นรูปพานรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้แล้วในจังหวัดลำปางเองก็มีสัญลักษณ์ลายพานรัฐธรรมนูญอยู่ในอีกหลายวัด เช่น วัดปงสนุก, วัดสบทะ, วัดนากว้าว, วัดปงสนุกเหนือ และวัดล้อมแรด​

แน่นอนว่ายุคสมัยของคณะราษฎรเองก็ไม่ยืดยาวนัก แม้ว่าจะพยายามวางโครงสร้างรากฐานตามวิถีทางประชาธิปไตยยังไง สุดท้ายกลุ่มขั้วอำนาจเก่าก็กลับมามีอำนาจ และครอบครองประเทศอีกครั้ง และมีความพยายามในการลบทำลายสัญลักษณ์ที่เป็นมรดกของคณะราษฎรในหลายพื้นที่ในปัจจุบัน​

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากภูเขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

More like this
Related

กระทรวงทรัพย์ฯ รุกตรวจคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้าน กะเหรี่ยงรวมมิตร-ห้วยทรายขาว ยืนยันเบื้องต้นไม่พบสารหนูปนเปื้อน

17 ตุลาคม 2568 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เดินหน้าตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้านในพื้นที่จังหวัดเชียงราย หลังประชาชนแสดงความกังวลต่อความปลอดภัยของแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคที่อาจปนเปื้อนสารโลหะหนัก สุชาติ ชมกลิ่น...

‘บางระกำโมเดล’ ก้าวไกลระดับโลก แต่ ‘คน’ โดนทิ้งไว้กลางน้ำ

เรื่อง: ฐิติพร มะโนวรรณา, ภาพ: ตุลา ธารา ‘บางระกำโมเดล’ โครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ภายใต้สำนักงานชลประทานที่ 3...

เบื้องหลังเจ้าตลาดแร่แรร์เอิร์ธโลก จีนกับห่วงโซ่อุปทานเหมืองแร่ในเมียนมา

เรื่อง: สุทธิกานต์ วงศ์ไชย, ภาพ: วีรภัทร เหลาเกิ้มหุ่ง เบื้องหลังโทรศัพท์สมาร์ตโฟน รถยนต์ไฟฟ้า และกังหันลม ล้วนมีวัตถุดิบสำคัญที่ถือเป็นหัวใจของเทคโนโลยีสมัยใหม่...

ริมกกซวยซ้ำ! น้ำประปา ผัก ปลา ปนเปื้อนโลหะหนัก ชาวบ้าน 7 รายมีสารในปัสสาวะสูง จี้รัฐเร่งแก้ไข

ผ่านมากว่าครึ่งปีกับวิกฤตสารโลหะหนักปนเปื้อนในแม่น้ำกกที่ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อระบบนิเวศของสายน้ำ แต่กระทบไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนริมฝั่งแม่น้ำ เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การประกอบอาชีพอย่างการประมงและการเกษตร กลายเป็นปัญหาใหญ่ข้ามพรมแดนที่ไม่อาจแก้ได้ฝ่ายเดียว นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสายน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนมานับไม่ถ้วนกำลังเผชิญกับหายนะอย่างหนัก แม่น้ำกกมีต้นกำเนิดอยู่ในเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ไหลเข้าสู่ประเทศไทยในตำบลท่าตอน...