‘สมชาย’ ชวนคนเชียงใหม่ประกาศ “เมืองมลพิษทางอากาศ” หลังรัฐไม่เหลียวแล

2 เมษายน 2567 รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยหน้าบางแห่งหนึ่ง ชวนประชาชนชาวเชียงใหม่ร่วมกันประกาศ “เชียงใหม่เมืองมลพิษทางอากาศ” ผ่านเพจเฟซบุ๊ค ศูนย์วิจัยฯ มหาวิทยาลัยหน้าบางแห่งหนึ่ง โดยมีเนื้อหาดังนี้

“นับตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2567 ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ได้เพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่องจนอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ผู้คนจำนวนมากต้องเจ็บป่วยจากโรคทางเดินหายใจ ดังสามารถพบเห็นได้จากสื่อสารมวลชนและสื่อสมัยใหม่ที่มีการส่งต่อข้อมูลกันอย่างกว้างขวาง

ที่ผ่านมา เครือข่ายประชาชนภาคเหนือได้ดำเนินการฟ้องคดีนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งศาลปกครองเชียงใหม่ได้มีคำตัดสินเมื่อเดือนมกราคม 2567 ให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามกฎหมายที่มีอยู่เพื่อจัดทำแผนในการรับมือกับปัญหาฝุ่นที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ ก็ได้อุทธรณ์ต่อคำตัดสินของศาลปกครองเชียงใหม่ อันทำให้การแก้ไขปัญหาด้วยมาตรการทางกฎหมายต้องทอดเวลาออกไป

ขณะที่ต้องเผชิญหน้ากับมลพิษทางอากาศที่รุนแรง ทางรัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ยังไม่มีการใช้อำนาจตามกฎหมายที่จะแสดงให้เห็นว่าบัดนี้เชียงใหม่อยู่ภายใต้สถานการณ์ทางมลพิษที่รุนแรง ทั้งที่ควรต้องมีการแจ้งเตือนและการแจกจ่ายอุปกรณ์ป้องกันตัวพื้นฐานให้กับประชาชน แต่สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็ยังไม่ปรากฏขึ้นให้เห็น ดังนั้น อย่าคาดหวังเลยว่ารัฐบาลจะลงมือกระทำสิ่งใดที่มากไปกว่าเพียงลมปากที่ไร้ความหมาย

ในฐานะประชาชนที่ต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่นมาอย่างต่อเนื่อง ใคร่ขอเรียกร้องให้ประชาชนที่ตระหนักในปัญหานี้ร่วมกันประกาศว่าเชียงใหม่คือเมืองมลพิษทางอากาศ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้รัฐบาลมาทำหน้าที่แต่อย่างใด

การร่วมกันประกาศว่าเรากำลังอยู่ในเมืองที่เผชิญกับมลพิษทางอากาศ มีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดความตระหนักว่าสภาพแวดล้อมขณะนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตของผู้คนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างรุนแรง เพื่อให้ประชาชนป้องกันตนเองเท่าที่จะกระทำได้ การปล่อยให้เด็ก ๆ คนแก่ ผู้ใช้แรงงาน พ่อค้าแม่ค้า คนทำงานที่ต้องอยู่ในพื้นที่โล่งโดยไม่มีการแจ้งถึงการป้องกันตัวถือเป็นความอำมหิตอย่างยากจะปฏิเสธ

สำหรับความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การท่องเที่ยวว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวมาน้อยลง เราสามารถปิดบังข้อมูลเรื่องฝุ่น PM 2.5 ให้พ้นจากสายตาของคนอื่น ๆ ได้หรือ ณ เวลานี้ข้อมูลเรื่องฝุ่นของเชียงใหม่กระจายไปอย่างกว้างขวาง สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นก็คือ การแจ้งเตือนต่อผู้ที่จะเดินทางมายังเชียงใหม่ให้ต้องระวังตัว ระวังการใช้ชีวิต การปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวในฐานะสิ่งมีชีวิตที่มีศักดิ์ศรีอันพึงได้รับความเคารพเป็นสิ่งจะแสดงให้เห็นถึงความงดงามของคนเชียงใหม่มากกว่าเพียงการห่วงเงินในกระเป๋าตังค์ของพวกเขาเหล่านั้นมิใช่หรือ

จึงขอเชิญชวนให้ร่วมกันประกาศว่าขณะนี้ เชียงใหม่คือเมืองมลพิษทางอากาศ เพื่อสร้างความตระหนักต่อความรุนแรงของปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยไม่จำเป็นต้องให้รัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐเป็นผู้ประกาศ เพราะชัดเจนว่ายากจะฝากความหวังไว้ได้

ด้วยความห่วงใยต่อชีวิตและสุขภาพของผู้คนภายใต้วิกฤติฝุ่น”

โดยในวันนี้ (2 เมษายน 2567) เว็บไซต์ CMU CCDC สามารถวัดค่าฝุ่น PM2.5 ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ชี้ให้เห็นปริมาณค่าฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดที่มีค่าสูงขึ้นและเกินค่ามาตรฐานส่งผลกระทบต่อสุขภาพและเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพทุกจังหวัดโดยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีค่าฝุ่น PM2.5  มากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ รพ.สต.บ้านปางมะเยา ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ มีค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 313 (ug/m³), ทต.เมืองนะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ มีค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 298 (ug/m³) และ รพ.สต.บ้านเมืองงาย ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ มีค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 261 (ug/m³) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูงที่สุดในประเทศไทย

พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากผู้เขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง