ฮักบ่าจ๋างที่ป๋างไฮ : ตอนที่ 2

ขณะขับรถออกจากปางไฮ ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นตำบลเทพเสด็จเมื่อราวยี่สิบปีที่ผ่านมา เครือออนนึกทบทวนถึงวันที่พบป๋างโดยบังเอิญเมื่อสองปีก่อน วันออกพรรษาปีนั้น เธอกลับไปทำบุญที่หมู่บ้าน หลังจากไม่ได้กลับกว่าสองปี การเรียนคณะศึกษาศาสตร์ เอกภาษาไทยที่มช.ปีแรก ทำให้เธอยุ่งกับกิจกรรมการรับน้องและกิจกรรมอื่น ๆ ตามประสาน้องปีหนึ่ง เข้าปีที่สอง จึงพอได้ผ่อนคลายบ้าง แต่ก็มีกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องช่วยดูแลน้องใหม่ปีหนึ่ง กว่าจะหาโอกาสกลับบ้านที่ปางไฮในวันหยุดได้ ก็ตอนเรียนอยู่ปีสาม ปีสี่ เช้านั้นเธอไปวัดกับน้า ‘ศรีใจ’ ขณะที่ป๋างไปกับแม่และน้องชาย ก่อนจะออกจากวัดเช้านั้น น้าศรีใจได้พูดคุยกับเพื่อนเก่า

“จั๋นเป็ง บ่าได้ปะกั๋นเมินนาน หุ่นฮ่างงามเหมือนเก่าเลย ​ นี่ลูกบ่าวมาวัดกับแม่ตวย น่าฮักขนาด คนใหญ่นี่ป๋าง คนหน้อยคือเจิงน่อ ป๋างจ๋ำน้องได้ก่ เครือออนน่ะ”

“จ๋ำได้ครับ” ชายหนุ่มตอบแผ่วเบา ขณะมองไปทางหญิงสาว

เครือออนยกมือไหว้หญิงวัยกลางคน แล้วเลยไหว้ชายหนุ่ม ซึ่งอายุมากกว่าราวสี่ห้าปี ป๋างรับไหว้ สบตาหญิงสาวเพียงครู่ แล้วเฉมองไปทางวิหารกลางวัด พญานาคสีขาวผงาดงามสองฝั่งบันได ไล่ลาดขึ้นสู่ตัววิหารไม้หลังย่อม ซึ่งมีหลังคาซ้อนทับไล่ระดับขึ้นไปถึงสี่ชั้น ชายหนุ่มมองผ่านขึ้นเหนือหลังคาอาคารสถาปัตยกรรมท้องถิ่นเรียบง่าย ทว่าสง่างามเข้มขลัง สู่ฟ้าครามเป่งแจ้งไร้เมฆ ต่างจากหน้าร้อนที่ผ่านมา ที่แม้แต่วิหารที่เคยเด่นงามสง่าบนลานกว้างเหนือยอดดอยของหมู่บ้าน ก็ยังขุ่นมัวด้วยฝุ่นควันพิษที่ห่มคลุมฟ้าทึบทึม

“ออกพรรษาปี๋นี้ ตรงกับวันเกิดซาวห้าปี๋ของป๋างพอดี เลยชวนกั๋นมาวัด” จันทร์เพ็ญ แม่ของชายหนุ่มทั้งคู่บอกกล่าว หญิงวัยปลายสี่สิบยังงามสมวัย ในชุดผ้าซิ่นไทลื้อโทนสีน้ำเงิน และเสื้อผ้าฝ้ายเข้ารูปแขนสั้นสีฟ้าอ่อน แม้ผิวหน้าจะถูกปิดบังด้วยหน้ากากอนามัย แต่ดวงตาที่ส่งประกายแวววาว มิอาจปิดบังความงามของร่างสูงสมส่วนไว้ได้

“อ๋อ ! แบบนี้เอง ได้ข่าวว่าเปิดร้านกาแฟกา กิจก๋ารเป๋นใดพ่อง” ศรีใจหันไปถามชายหนุ่ม

“ดีครับ คนฮู้จักบ้านเฮานักขึ้น ชอบมาแอ่ว มานั่งจิบกาแฟ ในบรรยากาศฮิมน้ำนักขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะเป๋นเพราะทางแม่กำปองเริ่มแน่น คนเลยเริ่มมาทางบ้านเฮานักขึ้นครับ”

“ได้ข่าวว่าเฮียนจบแล้ว เฮียนด้านไหนนะ”

“นิติศาสตร์ครับ”

“ดีขนาด เป๋นว่าที่ทนายความน่อ”

ชายหนุ่มยิ้มตอบ ศรีใจจึงเปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้คุยกันบ้าง ขณะที่เธอหันไปคุยกับเพื่อนวัยเดียวกัน

“ออนเฮียนภาษาไทย แต่ภาษาอังกฤษก่ได้นะ เฮียนผ่านยูทูบตลอด” ศรีใจบอกกล่าวเพื่อน จันทร์เพ็ญยิ้มตอบ ขณะรอฟัง

“บ่าอยากเป๋นข้าราชก๋ารที่ดินเหมือนพ่อกับแม่ แต่อยากเป๋นครูเหมือนน้า อยากลองสอบเป๋นแอร์ตวย”

ขณะฟังเพื่อนบอกกล่าว จันทร์เพ็ญถอดหน้ากากอนามัย ปล่อยให้คล้องอยู่บนสายหน้ากาก เผยให้เห็นผิวหน้าขาวเนียนที่แต่งแต้มพองามสมวัย ศรีใจ ซึ่งถอดหน้ากากอยู่ก่อนแล้ว อดพูดชมเพื่อนไม่ได้ว่ายังสวยไม่เปลี่ยนแปลง

“ลูกบ่าวตั๋วน่าฮัก อยู่กับแม่ตลอดเนาะ” ศรีใจอดพูดชื่นชมลูกชายของเพื่อนไม่ได้ จันทร์เพ็ญยิ้มตอบ มองเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ชั้นประถม จนจบมัธยมด้วยความชื่นชมในความก้าวหน้าในชีวิตการงานของเพื่อนเช่นเดียวกัน

“ตั๋วมีลูกเป๋นว่าที่ทนาย วันหน้าเปิดสำนักงานทนายความที่บ้านเฮาน่าจะดี ยังบ่ามีซักที่เลย” ศรีใจชวนคุยต่อ

“แล้วแต่ล่ะอ่อนเขาน่ะ ช่วงนี้ทำร้านกาแฟไปก่อน ฮับซื้อขายกาแฟตวยก่พอไปได้”

จันทร์เพ็ญหยุดพูดชั่วครู่ ขณะหันไปมองลูกชายทั้งคู่ที่กำลังยืนคุยกับเครืออรก่อนจะพูดต่อ

“หันว่าจะต้องไปสอบตั๋วทนาย อบรม แล้วฝึกว่าความก่อน น่าจะแหมเมินอยู่”

“ค่อย ๆ ทำไปเนาะ ลูกบ่าวเป๋นหัวเรี่ยวหัวแรง แม่ก่สบายใจ๋ ดูสดชื่นขนาดเน่อ” จันทร์เพ็ญยิ้มรับคำชมของศรีใจ พร้อมกล่าวชวนเพื่อนไปเยือนร้าน

“ชวนกั๋นแวะไปแอ่วที่ร้านกาแฟบ๋อ ช่วงนี้เริ่มทำอาหารต๋ามสั่ง กับพวกขนมต่าง ๆ ​ อยากชวนไปชิม วันนี้ทำยำใบเมี่ยงกับน้ำเมี่ยงตวย”

“ดีเหมือนกั๋น จะได้ไปนั่งจิบกาแฟป๋างไฮ ในร้านที่ป๋างไฮพ่อง เมื่อก่อนไปนั่งจิบแต่ร้านในเวียง”

ระหว่างทางจากวัดไปร้านกาแฟของป๋าง หลังถอดหน้ากากอนามัยแล้ว เครือออนอดถามน้าศรีใจ เรื่องน้าจันทร์เพ็ญกับลูกชายสองคนไม่ได้ ถึงแม้จะเคยรู้จักกัน เจอกันหลายหนเมื่อตอนเด็ก แต่พอโตและแยกย้ายกันไปเรียน จนแทบไม่มีโอกาสได้พบกันอีก ​ มาครั้งนี้ ทำให้หญิงสาวอยากทบทวนเรื่องราวของสองพี่น้องอีกหน

“น้าเป็งเป๋นเพื่อนรุ่นเดียวกับน้า พอน้าเป็งเฮียนจบม.6 ได้เป๋นนางงามประจ๋ำอำเภอ คุณปลัดคนกรุงเทพฯ เปิ้นมาฮักเมาแต๊เมาว่า มาสู่ขอ แต่งงานตั้งแต่อายุยังบ่าถึง 19 ถ้าน้าเป็งได้เฮียนต่อ ก่อาจจะได้เป๋นครูบาอาจารย์ เหมือนน้าก่ได้นา” ศรีใจทบทวนเรื่องราวให้หลานสาวฟัง

“แล้วหยังน้าเป็งเลิกกับคุณปลัดเจ้า น้าใจ๋”

“พอเจิงอายุได้ราวสามสี่ขวบ แกย้ายไปทำงานที่ล่ะปูน แรก ๆ ก่ไป ๆ มา ๆ แต่หลังจากนั้นก่หายไป พอน้าเป็งไปตวยหา หันเปิ้นมีเมียใหม่ แกก่เลิกยุ่ง บ่าง้อเลย ก้มหน้าก้มต๋าเลี้ยงลูก” ศรีใจอดถอนหายใจไม่ได้

“โชคดีว่าบ่าได้จดทะเบียนกั๋น คุณปลัดเลยมายะหยังกับที่สวนป่าเมี่ยง กับที่ฮิมน้ำแม่ลายของแกบ่าได้ หันว่าคุณปลัดเคยกลับมาหา จะหื้อน้าเป็งขายที่ส่งลูก ๆ เฮียน แต่น้าเป็งบ่ายอมขาย”

“เป๋นพ่อ แต่บ่าได้ส่งเสียลูก ๆ ถ้าจะฮู้สึกบ่าค่อยดีอ่ะน่อ ถ้าจดทะเบียน น้าเป็งคงเสียเปรียบแน่เลย” หญิงสาวอดแสดงความปรามาสไม่ได้

“ถ้าจะเป๋นแบบอั้น อ้ายป๋างกับน้องก่ดีขนาด บ่าเคยได้ยินข่าวว่าฮ้าย ไปสร้างเรื่องหยังหื้อแม่เจ็บหัวซักเตื้อ เฮียนนิติศาสตร์รามฯ จบแล้วแบบนี้ น้าเป็งยิ่งสบายใจ๋ เหลือแต่เจิงคนน้องที่เพิ่งจบม. 6”

“เรื่องเปิดสำนักงานทนายความที่บ้านเฮา อย่างที่น้าใจ๋บอกก่ดีนาเจ้า”

“น่าก่า ! น้าเป็งโชคฮ้ายเรื่องผัว แต่โชคดีเรื่องลูก แกเก่งขนาด ตั๋วคนเดียว เลี้ยงลูกสองคนได้ บ่ายอมแต่งงานกับไผแหม”

“…”

“ถ้าน้ามีลูก แล้วต้องเลี้ยงคนเดียว น่าจะแย่” น้ำเสียงของศรีใจ ผู้หญิงวัยปลายสี่สิบแผ่วเบา


ติดตามเรื่องราวและร่วมเอาใจช่วยการเดินทางในความสัมพันธ์ของ ป๋าง และ เครือออน พร้อมกับไปท่องสำรวจวิถีชีวิต ทำความรู้จักกับสถานที่ต่าง ๆ ในเชียงใหม่ ผ่านร่องรอยความทรงจำของหนุ่มสาว ผ่านนิยายขนาดสั้นทั้งหมด 10 ตอน พบกันตั้งแต่วันที่ 7-16 มกราคม 2024 เวลา 15.00 น. ที่ Lanner

พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากผู้เขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง