พฤษภาคม 20, 2024

    อัยการสูงสุดสั่ง “ไม่ฟ้อง” เจ้าหน้าที่ทหารข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา คดี‘ชัยภูมิ ป่าแส’ถูกวิสามัญฆาตกรรม

    Share

    เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2567 มูลนิธิผสานวัฒนธรรมแจ้งข่าวความคืบหน้าคดี “ชัยภูมิ ป่าแส” เยาวชนนักกิจกรรมชาวลาหู่จากกลุ่มรักษ์ลาหู่ ถูกทหารวิสามัญฆาตกรรม โดยล่าสุดทนายความมารดาของ ชัยภูมิ ได้รับหนังสือแจ้งผลคดีจากสถานีตำรวจภูธรนาหวาย ใจความว่า “หลังจากพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังอัยการสูงสุดพิจารณาเพื่อมีคำสั่ง อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีฆาตกรรมซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธปืนยิง นายชัยภูมิ ป่าแส เมื่อปี 2560”

    อย่างไรก็ตาม อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งดั่งกล่าวไปตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 2564 หมายความว่าสถานีตำรวจภูธรนาหวายส่งหนังสือแจ้งผลคดีมายังนางปอย ป่าแส ล่าช้าไปเป็นเวลาเกือบสามปี

    ในส่วนของคดีแพ่งที่มารดาของ ชัยภูมิ เป็นโจทก์ฟ้องค่าเรียกค่าสินไหมทดแทนจากกองทัพบกเป็นจำเลย ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ. 2539 เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ในตอนแรกศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกฟ้องคดี ทำให้กองทัพไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ครอบครัวของชัยภูมิ เนื่องจากเห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารกระทำไปโดยชอบด้วยกฏหมายแล้ว ก่อนที่ครอบครัวของ ชัยภูมิ จะยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกา และศาลฎีกามีคำสั่งรับฎีกา โดยระบุว่ากาฎีกาของโจทย์เป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัย จึงมีคำสั่งรับพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ต่อมาเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2566 ศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้กองทัพบกชดใช้ค่าเสียหายให้แก่มารดาของนายชัยภูมิ ป่าแส เป็นจำนวนเงิน 2,072,400 บาท พร้อมดอกเบี้ย

    คดีนี้สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2560 เจ้าหน้าที่ทหารซึ่งประจำอยู่ที่ด่านตรวจบ้านรินหลวง ​ ต.เมืองนะ ​ อ.เชียงดาว ​ จ.เชียงใหม่ ตรวจค้นรถยนต์ของชัยภูมิ ป่าแส ที่ขับรถยนต์เดินทางพร้อมเพื่อนอีกหนึ่งคนผ่านด่านตรวจดังกล่าว ก่อนที่ชัยภูมิจะถูกเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าชัยภูมิพยายามขัดขืนและทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วยอาวุธมีดและระเบิดขว้างสังหาร จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้จนชัยภูมิเพื่อป้องกันตนเอง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังกล่าวหาว่าพบยาบ้าเป็นจำนวน 2,800 เม็ด ซ่อนอยู่ในหม้อกรองน้ำของรถยนต์ของชัยภูมิอีกด้วย

    มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอเชิญชวนสื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจ ร่วมกันจับตาและติดตามความคืบหน้าของคดีฆาตกรรมดังกล่าวและการชดใช้ค่าเสียหายของกองทัพบกในคดีแพ่ง ต่อไปอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าชัยภูมิ ป่าแสและครอบครัวจะได้รับความเป็นธรรมในที่สุด และเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่รัฐผู้กระทำผิดจะต้องได้รับโทษ ตามความร้ายแรงของความผิด เพื่อยุติวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดโดยเจ้าหน้าที่รัฐ

    Related

    ไกลศูนย์กลาง: กลับไปอ่าน “แก้วหยดเดียว” ของศรีดาวเรือง: การตั้งคำถามต่อการไม่มีสวัสดิการของแรงงานไทยเมื่อครึ่งศตวรรษที่แล้ว

    เรื่อง: ป.ละม้ายสัน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมามีวันสำคัญของสามัญชนคนธรรมดาที่น้อยนักจะปรากฏได้ในปฏิทิน นั่นคือวันแรงงานสากล หรือเมย์เดย์ (May Day) ผู้เขียนจึงนึกถึงเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งที่ได้ถ่ายทอดชีวิตและน้ำเสียงของแรงงานจากวรรณกรรม แม้ว่าวรรณกรรมชิ้นนี้จะเก่าไปสักหน่อย แต่ก็ยังคงนำพาให้ได้เห็นร่องรอยเคล้าลางบางอย่างที่แช่แข็งและไปไม่ถึงไหนจวบจนปัจจุบัน...

    “ฝันเราไม่เคยจนตรอก” เชียงใหม่ส่งพลังบอลเกงกิ สมัครเพื่อโหวต สว. เปลี่ยนอนาคตประเทศ

    19 พฤษภาคม 2567 เครือข่าย Senate67 จัดกิจกรรม สมัครเพื่อเปลี่ยน: จังหวะนี้มีแต่พี่ที่ทำได้ บริเวณประตูท่าแพ...