ฮักบ่าจ๋างที่ป๋างไฮ : ตอนที่ 6

การนั่งดูเครือออนไลฟ์สดทุกวัน กลายเป็นกิจวัตรประจำของป๋างที่ขาดไม่ได้ เขาแอบยิ้มชอบใจหลายหน บางครั้งทำกาแฟให้ลูกค้าไปด้วย แอบยิ้มไปด้วย จนบางทีก็นึกขำตัวเอง การได้เข้าเมืองไปเจอหญิงสาวที่ร้านย่านถนนช้างม่อยอาทิตย์ละสองครั้ง เป็นสิ่งที่เขารอคอยใจจดใจจ่อ แต่หลายหนก็นึกเคืองตัวเองที่ยามพบกับหญิงสาว เขากลับอับจนถ้อยคำ สิ่งที่อยากพูด อยากถาม กลายเป็นสิ่งที่เขาเก็บงำไว้ในใจ ​ พูดคุยกันได้ก็แค่เรื่องทักทาย ไถ่ถามสารทุกข์พื้น ๆ

ป๋างไม่แน่ใจนักว่าสิ่งที่ทำให้เขาลังเล ไม่กล้าบอกกล่าวแสดงความรู้สึกต่อเครือออนมาจากสิ่งใดกันแน่ อาจเป็นเพราะความฝันของหญิงสาว ที่อยากเดินทางท่องโลกผ่านอาชีพแอร์โอสเตส ส่วนเขาอยากปักหลักอยู่ปางไฮบ้านเกิด หรือจะเป็นเพราะครอบครัวข้าราชการฐานะดีของเธอ ซึ่งมีที่ดินที่เคยปลูกเมี่ยงนับร้อยไร่ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นไร่กาแฟเจ้าใหญ่เจ้าหนึ่งของตำบล หรือจะเป็นเพราะความรู้สึกลึก ๆ ในใจ ที่ยังสลัดภาพพ่อออกไปจากใจไม่ได้ ภาพผู้ชายที่กลับมาเก็บของ หิ้วกระเป๋าเดินออกจากบ้านไปยามพลบค่ำวันนั้น โดยไม่กล่าวคำใดต่อเขาและน้องชาย ไม่เคยหายไปจากความทรงจำ

ชายหนุ่มไม่รู้ว่า หากเขาจะมีคนรัก จะเป็นพ่อคน เขาจะเป็นคนรัก จะเป็นพ่อคนแบบไหน จนเมื่อบ่ายวันหนึ่งเครือออนแวะมาที่ร้าน ชวนเขาไปนั่งจิบกาแฟริมน้ำ คุยกันสบาย ๆ

“บ้านเฮามีของดี ๆ นักขนาด แต่บ่ามีคนนำเสนอเป๋นเรื่องเป๋นราว ​ ออนก่เพิ่งนึกได้ หลังจากน้าใจ๋ทำโครงก๋ารมหาวิทยาลัยสู่ตำบล เริ่มทำกาดนัดวันอาทิตย์ อ้ายป๋างเคยไปแอ่วผ่อละยัง”

“อื่อ ! วันก่อนแวะไปแอ่วมาหนหนึ่ง”

“ดีนะ ที่น้าเป็งบ่ายอมปลูกกาแฟ ปลูกเมี่ยงอย่างเก่า เลยยังมีเมี่ยงหื้อทำของกิ๋นได้อยู่”

“แต่ช่วงนี้ หาคนช่วยเก็บบ่าค่อยได้ ดีว่ามีเอก แฟนเจิงมาช่วย”

“มันก่ยังพอจัดก๋ารได้เนาะ วันหน้าชวนล่ะอ่อนที่บ่าเกยเก็บเมี่ยงมาเก็บพ่อง น่าจะดี เริ่มจากคนที่ช่วยน้าใจ๋ทำโครงก๋ารมหาวิทยาลัยสู่ตำบลก่ได้”

“ได้ ​ แต่จะเก็บกั๋นได้ซักครึ่งวันก่ ล่ะอ่อนเด่วนี้บ่าค่อยสู้งานหนัก”

“ต้องลองชวน” เครือออนจิบกาแฟ ก่อนจะหยิบข้าวแต๋นรูปหัวใจ หนึ่งในสองแผ่น ที่วางอยู่บนใบตองรูปหัวใจบนจานเล็ก ๆ ดอกอัญชันสีน้ำเงินเข้มตัดกับดอกซอมพอส้มสดเรื่องามที่วางเคียงกันอยู่ขอบจาน ทำให้เส้นสีน้ำตาลแกมแดงของน้ำอ้อยข้นเข้มบนข้าวแต๋นสีน้ำตาลอ่อนโค้งงามชวนชิม งาดำที่โรยอยู่บนเส้นน้ำอ้อยคดโค้ง เพิ่มรสชาติให้ข้าวแต๋นหอมมันยิ่งขึ้น ​

“ของแถมกาแฟแบบนี้ ลูกค้าบ่าติดใจ๋บ่าได้แล้ว” หญิงสาวพูด หลังจิบกาแฟตามข้าวแต๋นแผ่นแรก แล้วเริ่มหยิบข้าวแต๋นแผ่นที่สอง แสงแดดยามบ่ายส่องลอดแมกไม้ลงมาต้องหน้าขาวเนียน เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดพรายตามไรผม สายลมยามบ่ายปลายฝนต้นหนาวพัดต้องผมยาวปลิวไหว พัดกลิ่นหอมนวลของกายสาวแตะจมูกชายหนุ่ม จนอดลอบสูดดมกลิ่นยวนใจไม่ได้ ​ ก่อนจะเฉมองไปยังแถวต้นพญาเสือโคร่งกว่าห้าสิบต้น ที่เขา เครือออน เจิง และเป็นเอก ช่วยกันปลูกเรียงรายสองข้างทางเดินจากประตูเล็กหน้าร้าน ลาดลงสู่ริมน้ำแม่ลาย

เครือออนนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะบอกชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ออนเลิกคิดจะไปเป๋นแอร์แล้ว ว่าจะปักหลักอยู่บ้านเฮา หาลู่ทางทำมาค้าขายดีกว่า” ป๋างนิ่งฟังหญิงสาวด้วยความแปลกใจ พร้อม ๆ กับลอบมองสีหน้าจริงจังของหญิงสาว ซึ่งทอดสายตามองไปที่สายน้ำไหลเอื่อย

“เรื่องไปแอ่ว เรื่องเดินทาง วันหน้าค่อยไป บ้านเฮายังมีหยังหื้อทำแหมนัก หลังโควิดระบาดแล้ว คนที่ไปทำงานที่อื่น ๆ ต้องปิ๊กมาบ้านกั๋นหมด” สีหน้าเอาจริงเอาจังของหญิงสาว ทำให้ชายหนุ่มลังเลเรื่องบอกกล่าวความในใจ

“ออนบ่าเกยกึ๊ดเลยว่าขนาดนักบินอย่างน้านนท์ยังตกงาน พอต้องปิ๊กมาอยู่บ้าน ก่ต้องหาลู่ทางทำอาชีพใหม่ โควิดกำลังจะหายไป ฝีดาษลิงมาแหมแล้ว”

ป๋างยังคงนิ่งเงียบรับฟัง

“แกบ่าอยากไปทำงานที่อื่นแล้ว ช่วงนี้กำลังหาลู่ทางทำเวิร์คเคชั่น เพราะบ้านเฮามีแหล่งธรรมชาตินัก คนมาอยู่ทำงาน แล้วไปเดินป่า ชมธรรมชาติได้สบาย ๆ จะเข้าเวียง ก่ขับรถบ่าถึงชั่วโมง”

“น่าจะดีนะ” ป๋างแสดงความเห็นเป็นครั้งแรก

“แต่ต๋อนนี้น้านนท์ชักบ่าแน่ใจ๋ หลังจากโซฟีลูกสาวแกป่วยหนัก ขนาดเลือดกำเดาไหล ช่วงหน้าฝุ่นควันที่ผ่านมา”

“โห! โซฟีอายุเท่าใด” ป๋างถามด้วยความแปลกใจ

“เจ็ดขวบเอง”

“ทั้งละอ่อนเจ็ดขวบ กับบ่าวหนุ่มอายุสิบแปดอย่างเจิง เลือดกำเดาไหลแบบนี้ น่ากั๋วขึ้นทุกวัน”

“น่าก่า บ่าเห็นรัฐจัดก๋ารหยังได้เลย เฮาจะทำหยังได้พ่องก่”

“อ้ายคิดว่าถ้าสอบตั๋วทนายได้ จะเปิดสำนักงานทนายความ แต่ฝุ่นควันนักขึ้นทุกปี๋แบบนี้ สงสัยจะได้ทำห้องปลอดฝุ่น ติดแอร์กับเครื่องฟอกอากาศไว้รับรองลูกค้าก่อน”

“…”

“แต่บ่าแน่นะ อ้ายเริ่มคิดเรื่องก๋ารเมือง ฝุ่นควันนักขึ้นทุกปี๋ ถ้าเข้าไปอยู่ในภาคก๋ารเมือง จะช่วยทำหยังได้นักกว่าก่”

เครือออนนิ่งเงียบไปชั่วขณะ ​

“ออน…” ชายหนุ่มเรียกเบา ๆ ตั้งใจจะเอื้อนเอ่ยบางอย่าง เป็นจังหวะเดียวกับที่เจิงออกมาตะโกนเรียก

“ป๋าง ! มีคนมาหาหน้าร้าน”


ติดตามเรื่องราวและร่วมเอาใจช่วยการเดินทางในความสัมพันธ์ของ ป๋าง และ เครือออน พร้อมกับไปท่องสำรวจวิถีชีวิต ทำความรู้จักกับสถานที่ต่าง ๆ ในเชียงใหม่ ผ่านร่องรอยความทรงจำของหนุ่มสาว ผ่านนิยายขนาดสั้นทั้งหมด 10 ตอน พบกันตั้งแต่วันที่ 7-16 มกราคม 2024 เวลา 15.00 น. ที่ Lanner

พื้นที่สื่อสาร สังคมประชาธิปไตย ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

ทีมข่าวที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย บ้างก็มาจากทะเล บ้างก็มาจากผู้เขา แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ภาคเหนืออยู่ที่ Lanner นี่แหละ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง